วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568

นายกฯ แถลงขอโทษประชาชนไทย เผยทำความเข้าใจกับ “กองทัพ” แล้ว ยืนยันรัฐบาลกับกองทัพเป็นหนึ่งเดียว ต่อไปจะระวังการพูดมากขึ้น เวลานี้ไม่ใช่เวลาทะเลาะกันเอง

 


นายกฯ แถลงขอโทษประชาชนไทย เผยทำความเข้าใจกับ “กองทัพ” แล้ว ยืนยันรัฐบาลกับกองทัพเป็นหนึ่งเดียว ต่อไปจะระวังการพูดมากขึ้น เวลานี้ไม่ใช่เวลาทะเลาะกันเอง


วันที่ 19 มิถุนายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วน โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก และผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับสถานการณ์ไทย-กัมพูชา โดยหลังการประชุม น.ส.แพทองธาร ได้แถลงต่อผู้สื่อข่าว ความว่า


สวัสดีทุกท่านนะคะ วันนี้ได้มีการเชิญหน่วยงานความมั่นคง, กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาพูดคุยถึงเรื่องของสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่เกิดขึ้น ก่อนอื่นดิฉันต้องขออภัยพี่น้องประชาชนคนไทยทุก ๆ คน ในเรื่องกรณีที่มีคลิปเสียงหลุดออกมาระหว่างที่ดิฉันคุยกับผู้นำทางกัมพูชา ก็จริง ๆ เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นนะคะ ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจนะคะ


ตัวดิฉันเองค่ะได้มีโอกาสได้คุยกับทางแม่ทัพภาคที่ 2 และทางกองทัพ อธิบายถึงเจตนาว่าเป็นเพียงเทคติคของการสื่อสารที่จะเจรจาต่อไปว่าเราจะต้องแสดงความเข้าใจเขาก่อน แล้วก็เพื่อจะคุยถึงรายละเอียดต่อ ๆ ไปนะคะ เพื่อจะให้เป็นการต่อรอง เพื่อให้การปะทะนั้นหยุดลงนะคะ อันนี้คือความตั้งใจที่แท้จริงว่าต้องการจะให้สถานการณ์สงบสุขเท่านั้นเอง แล้วก็ไม่ทราบจริง ๆ ว่าจะมีการอัดคลิปและเผยแพร่แบบนี้นะคะ ก็ได้ทำความเข้าใจกับทางกองทัพเรียบร้อยแล้วนะคะ


ทางกองทัพก็รับฟัง แล้วก็บอกว่าวันนี้เองเราต้องร่วมมือกันเพื่อที่จะผนึกกำลังเอาไว้ คนไทยทุกคนก็ต้องผนึกกำลังเอาไว้เช่นกันค่ะ เพราะว่าวันนี้เองทุกภาคส่วนได้สรุปว่ามันเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ อันนี้คือภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาตินะคะ อันนี้ไม่ใช่ภัยคุกคามเล็ก ๆ ของประชาชนหรือว่าของอะไรที่จะพูดถึงเรื่องว่ารัฐบาลกับกองทัพต้องมาสู้กัน


วันนี้เราไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะกันเองแบบนี้ค่ะ เราต้องปกป้องอธิปไตยของเราไว้ และนี่คือสิ่งที่เห็นตรงกัน และรัฐบาลยินดีที่จะสนับสนุนกองทัพทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการสนับสนุนใด ๆ ก็ตามที่กองทัพต้องการ อันนี้คือสิ่งที่เราตั้งใจว่าจะทำร่วมกันค่ะ


และวันนี้เองค่ะ การที่เราจะออกมาทำอะไรหรือว่าตัดสินใจในมิติต่าง ๆ เราต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาด้วย และแน่นอนว่าประชาชนตรงชายแดนด้วย อันนี้คือสิ่งที่เราต้องนึกถึงและต้องให้ความมั่นใจ ให้ความปลอดภัยกับพี่น้องประชาชนตรงนั้นด้วยค่ะ


วันนี้กระทรวงการต่างประเทศเองได้ย้ำการดำเนินการโดยสันติวิธี ผ่านกระบวนการทวิภาคี แล้วกระทรวงการต่างประเทศได้เชิญเอกอัครราชทูตของกัมพูชาประจำประเทศไทย เพื่อมายื่นหนังสือประท้วงเพื่อแสดงความผิดหวังอย่างยิ่งต่อการกระทำของผู้นำกัมพูชา อันนี้จริง ๆ ทั่วโลกไม่มีใครทำแบบนี้ ที่ผู้นำคุยกันไม่ว่าจะเป็นประเทศใหญ่ ๆ ที่มีการตกลงกัน หรือมีการพูดคุยเจรจาใด ๆ ถ้าไม่ได้บอกก่อนว่าจะมีการอัดคลิปเป็นทางการที่คุยกัน เช่นเวลาที่ทุกท่านจะได้เห็นดิฉันโทรไปแสดงความยินดีกับประเทศต่าง ๆ เราก็ติดต่อทางกระทรวงการต่างประเทศเป็นโปรโตคอลที่ถูกต้องและทราบว่ามีการอัดคลิปเกิดขึ้น แต่แบบนี้เป็นการโทรคุยส่วนตัวโดยมือถือส่วนตัวของดิฉัน เพราะฉะนั้นการกระทำแบบนี้ก็ถือว่าไม่ควรเป็นที่ยอมรับต่อทั่วโลกอยู่แล้วค่ะ


รัฐบาลไทยและกองทัพก็ขอแสดงความรับผิดชอบในเรื่องของการปกป้องอธิปไตยที่เราดูแลร่วมกัน และขอยืนยันอีกครั้งว่าทางรัฐบาลกับกองทัพเองเป็นหนึ่งเดียวกัน ก็อยากให้พี่น้องประชาชนเป็นหนึ่งเดียวกับเราด้วย เพื่อที่จะสามัคคีเอาไว้ในชาติ ปกป้องอธิปไตยของเราไว้ และเวลานี้ที่เคยบอกไปค่ะ ไม่ใช่เวลาที่เราจะต้องมาสู้กันเอง สิ่งที่เกิดขึ้นดิฉันก็ต้องขออภัยในความที่ไม่ทราบจริง ๆ ว่ามีการอัดคลิปแบบนี้เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เองดิฉันรับทราบดี และต่อจากนี้ก็จะระวังในเรื่องของการพูดคุยให้มากขึ้นค่ะ


และแน่นอนว่าทางกองทัพที่เราคุยกัน เรามั่นใจอย่างหนึ่งว่าถ้าเรารวมกันเป็นหนึ่ง ถ้าเราสามัคคีกัน เราจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกันอย่างแข็งแรงได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ


หลังจบการแถลงข่าว นายกฯ และคณะฯ ไม่ได้เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวซักถามแต่อย่างใด


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #แพทองธาร #สถานการณ์ไทยกัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา