“รักชนก-สหัสวัต” ยื่นคำร้อง ป.ป.ช. ไต่สวนกรณี “สุชาติ ชมกลิ่น” ขณะเป็น
รมว.แรงงาน ปล่อยให้เกิดการซื้อตึกสกายไนน์ด้วยเงินกองทุนประกันสังคม
ราคาแพงเกินจริงถึง 2 เท่า พร้อมทวงความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์
จี้นายกฯ จะตั้งใครเป็นรัฐมนตรี เกรงใจประชาชน-ผู้ประกันตนด้วย
วันที่
13 มิถุนายน 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน
และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ รักชนก ศรีนอก สส.กรุงเทพฯ เขต 28
และ สหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี เขต 7 พรรคประชาชน
ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี สุชาติ ชมกลิ่น
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
เมื่อคราวดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน, บุญสงค์
ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เมื่อคราวดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม
(สปส.)
อนุมัติเงินกองทุนประกันสังคมลงทุนในกองทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุนไพรม์
แอสเซท (Prime Asset Private Equity Trust) กรณีโครงการอาคาร
Cas Centre หรืออาคารสกายไนน์ (SKYY9 Centre) และ บุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ อดีตปลัดกระทรวงแรงงานช่วงปี 2564 – 2567 ที่ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) โดยตำแหน่ง
ได้กระทำความผิดตามมาตรา 172 พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
2561 ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติในตำแหน่งหรือหน้าที่
หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
สหัสวัตกล่าวว่า
หลายเดือนที่ผ่านมาพวกตนติดตามการดำเนินงานของ สปส. พบปัญหาทุจริตหลายอย่าง
เรื่องหนึ่งที่พี่น้องประชาชนให้ความสนใจคือการซื้อตึกสกายไนน์
เห็นผลการประเมินของผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ออกมาแล้วยืนยันว่ามีความผิดปกติ
วันนี้จึงมายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. เพื่อยื่นสอบสุชาติ รมว.แรงงานในขณะนั้น
รวมถึงองคาพยพทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับตึกนี้
เพราะเรื่องนี้ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้ประกันตนจำนวนมาก
เงินซื้อตึกมาจากเงินที่ผู้ประกันตนทำงานและส่งเงินสมทบเข้ามาแต่กลับถูกนำไปใช้อย่างไม่สมเหตุสมผล
วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่เราจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่
โดยขอฝากคำถามถึงนายกรัฐมนตรีด้วยว่าจะตั้งคนแบบนี้ ที่มีคดีอยู่ใน ป.ป.ช.
ทั้งคดีทุจริตและคดีค้ามนุษย์เรียกรับผลประโยชน์จากขบวนการที่ส่งแรงงานไทยไปเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ในต่างประเทศ
ให้เป็นรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่ ตอนนี้ประชาชนจับตาดูอยู่ว่าโผ ครม. จะไปในทิศทางไหน
ด้านรักชนกกล่าวว่า
เรายืนยันว่ามูลค่าที่แท้จริงของตึกสกายไนน์กับราคาที่ สปส.
ซื้อนั้นไม่สอดคล้องกัน หลังจากพวกตนออกมาพูดก็ถูกสุชาติฟ้อง
อย่างไรก็ตามยืนยันมาตลอดว่าทุกอย่างที่พูดไม่ได้ต้องการโจมตีใคร
แต่ต้องการรักษาผลประโยชน์ของผู้ประกันตน โดยหลังจาก รมว.มหาดไทยตั้งคณะกรรมการสอบฯ
ผลออกมาเป็นที่ประจักษ์แล้วว่ามูลค่าของตึกอยู่ที่ประมาณ 3,000-3,200 ล้านบาท แต่ประกันสังคมกลับทุ่มเงินซื้อสูงถึง 7,000 ล้านบาท โดยเมื่อวานนี้ (12 มิ.ย.) รมว.มหาดไทย
ส่งหนังสือให้ รมว.แรงงาน แล้ว ตนหวังอย่างยิ่งว่า รมว.แรงงาน
จะจัดการเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว นำคนผิดมาลงโทษ
ทั้งนี้
อาคารสกายไนน์เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2540 ก่อนหยุดชะงักและถูกทิ้งร้างมานานหลายปี
จนกระทั่งปี 2559 มีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของกรรมสิทธิ์เป็นของบริษัทบริษัท
AGRE101 จำกัด ปัจจุบันคือ บริษัท ไพรม์ ไนน์ เรียลเอสเตท
จำกัด เริ่มปรับปรุงอาคารแต่ยังคงไม่สมบูรณ์และไม่มีการใช้งานที่ชัดเจน
สำหรับประเด็นที่น่าสงสัยอย่างยิ่งคือเรื่องของมูลค่าอาคาร ในปี 2565 บริษัทที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.) ประเมินอยู่ที่ 7,300 – 8,000 ล้านบาท
แต่สมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย
กลับประเมินมูลค่าอาคารดังกล่าวไว้เพียง 3,400 – 3,800 ล้านบาท
แตกต่างจากราคาที่สำนักงานประกันสังคมเข้าลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ
โดยช่วงเดือนมีนาคมปี
2566 สำนักงานประกันสังคมได้เข้าลงทุนในกองทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุนไพรม์
แอสเซท ซึ่งกองทรัสต์นี้ได้เข้าซื้อบริษัท AGRE101 จำกัด
ที่ถือครองอาคารสกายไนน์ในราคา 6,900 ล้านบาท
สูงกว่าราคาประเมินที่แท้จริงอย่างมาก
การจัดซื้ออาคารดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่อาคารยังไม่เสร็จสมบูรณ์
ไม่มีผู้เช่าหรือรายได้จากการให้เช่าพื้นที่
ขัดต่อเป้าหมายที่ต้องการจะสร้างรายได้ในอนาคต นอกจากนี้
ยังขาดการประเมินความคุ้มค่าของการลงทุน (ROI) และการประเมินความเสี่ยงอย่างรอบด้าน
การดำเนินการดังกล่าวของสำนักงานประกันสังคม
ส่งผลให้บริษัท ไพรม์ ไนน์ เรียลเอสเตท จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของเดิม
ได้รับเงินจากการขายอาคารมูลค่า 6,900 ล้านบาท
อาจมีการทุจริตเกิดขึ้นเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ภายในกระทรวงแรงงานและสำนักงานประกันสังคมของเจ้าหน้าที่และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อกระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคม
และกองทุนประกันสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อผู้ประกันตน เนื่องจากเป็นการจัดซื้อที่ไม่โปร่งใสและไม่คุ้มค่าในการลงทุน
ส่งผลให้เงินจากกองทุนประกันสังคมที่มีไว้เพื่อดูแลสุขภาพและสวัสดิการของผู้ประกันตนถูกใช้ไปในโครงการที่ไม่สามารถให้ผลตอบแทนที่ชัดเจนได้
การนำเงินกองทุนประกันสังคมไปลงทุนดังกล่าว
มี บุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการ สปส. ขณะนั้น เป็นผู้ลงนาม
โดยไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าได้มีการตรวจสอบสัญญาการก่อตั้งทรัสต์
ไม่ได้สอบทานความถูกต้องของการประเมินทรัพย์สินและตรวจสอบข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการลงทุนแต่ประการใด
อาจมีการทุจริตเพื่อหาส่วนต่างของมูลค่าที่สูงเกินความเป็นจริง
ทำให้กองทุนประกันสังคมได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงจากผลการอนุมัติดังกล่าว
ขณะที่
สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในขณะนั้น
ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาที่มีหน้าที่ควบคุมบังคับบัญชากระทรวงแรงงานและสำนักงานประกันสังคม
รับผิดชอบในการกำหนดนโยบาย เป้าหมาย
และผลสัมฤทธิ์ของงานในกระทรวงแรงงานให้สอดคล้องกับนโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงไว้ต่อรัฐสภา
กลับปล่อยปละละเลยให้มีการลงทุนซื้ออาคารดังกล่าวที่อาจจะมีการทุจริตเกิดขึ้น
เป็นการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน 2534 มาตรา
20 ประกอบมาตรา 35 พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง
ทบวง กรม พ.ศ. 2545 เช่นเดียวกับ บุญชอบ สุทธมนัสวงษ์
ปลัดกระทรวงแรงงานในขณะนั้น ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชารองจาก รมว.แรงงาน
ปล่อยปละละเลยให้มีการลงทุนซื้ออาคารดังกล่าวที่อาจจะมีการทุจริตเกิดขึ้น
เป็นการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
ด้วยเหตุนี้
จึงขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 234 ประกอบ
พ.ร.ป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 มาตรา 28
(1) และมาตรา 30 ว่าสุชาติ, บุญชอบ และ บุญสงค์
ได้ดำเนินการหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการให้เกิดผลเสียต่อกองทุนประกันสังคม
ตลอดจนไต่สวนหาข้อเท็จจริงว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องกับการให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเพื่อจูงใจ
สุชาติ, บุญชอบ และบุญสงค์
ทุจริตต่อหน้าที่หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย
ด้วยหรือไม่
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์ #ประกันสังคม #sky9
#พรรคประชาชน