สส.ปชน.ร่วมสมาคมวิศวกรโครงสร้างตรวจสอบความเสียหายอาคารบ้านเอื้ออาทร ชี้ข้อสังเกตการตรวจสอบอาคารควรเพิ่มกรณีความเสี่ยงไฟฟ้าลัดวงจร แนะจัดสรรวิศวกรตามลำดับความสำคัญ
วันที่ 31 มีนาคม 2568 ที่โครงการบ้านเอื้ออาทรติดนิคมสมุทรสาคร ต.ท่าทราย อ.เมืองสมุทรสาคร ณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สส.สมุทรสาคร เขต 1 พรรคประชาชน พร้อมด้วย คณะอาสาจากสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับ พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน และผู้นำชุมชนในพื้นที่ เข้าตรวจสอบอาคารในโครงการบ้านเอื้ออาทรติดนิคมสมุทรสาคร ต.ท่าทราย อ.เมืองสมุทรสาคร จากที่มีประชาชนที่อาศัยอยู่ในโครงการแจ้งเข้ามาว่า อาคารในโครงการได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวจนเสียหายมากขึ้น ซึ่งผลการตรวจสอบเบื้องต้นจากวิศวกรพบว่าอาคารบางส่วนเห็นเหล็กโผล่ออกมาจากปูน มีสาเหตุมาจากปัญหาระบบน้ำประปา เมื่อเกิดการรั่วซึมลงมาทำให้โดนเหล็ก เมื่อเหล็กเป็นสนิมจึงระเบิดออกมาจนเห็นเหล็กโผล่ ข้อแนะนำเบื้องต้นจำเป็นต้องมีการแก้ที่ระบบน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก และมีข้อกังวลเรื่องไฟฟ้าลัดวงจร หากน้ำหยดลงมาที่แผงไฟ นอกจากนี้เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหว ทำให้ปัญหาที่เดิมมีอยู่แล้วได้รับผลกระทบมากขึ้น หลังจากนี้จะได้ทำรายงานตรวจสอบอาคารส่งกลับไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ในส่วนของพริษฐ์ กล่าวว่าวันนี้เป็นส่วนหนึ่งความพยายามของพรรคประชาชนที่จะช่วยเติมกำลังในพื้นที่ปริมณฑล ช่วยจัดสรรวิศวกรอาสาจากทางสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทยมาตรวจความปลอดภัยของอาคารตามคำร้องขอของนิติและผู้พักอาศัย ซึ่งจากการมาตรวจอาคารเอื้ออาทรที่สมุทรสาคร มี 2 ข้อสังเกตสำคัญที่ต้องขบคิดต่อในเชิงข้อเสนอภาพใหญ่
ประการแรก การประเมินความปลอดภัยของอาคาร อาจไม่ได้จำกัดอยู่แค่การประเมินเรื่องความปลอดภัยเชิงโครงสร้างเพียงอย่างเดียว - จากการตรวจสภาพโครงการบ้านเอื้ออาทร แม้แผ่นดินไหวจะไม่ได้กระทบต่อตัวโครงสร้างอาคารมากนัก แต่แผ่นดินไหวได้ส่งผลกระทบให้ปัญหาน้ำรั่วที่เป็นปัญหามาอยู่ก่อนหน้านี้ เกิดอาการรั่วหนักยิ่งกว่าเดิม ซึ่งไปเพิ่มความเสี่ยงที่จะรั่วจนไปโดนสายไฟและทำให้เกิดอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจรได้ ซึ่งต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการซ่อมแซมเป็นการต่อไป
ประการที่สองคือข้อจำกัดสำคัญในการตรวจอาคารโดยเฉพาะในพื้นที่ปริมณฑลคือเรื่องของจำนวนวิศวกร โดยปัจจุบันช่องทางในการขอวิศวกรถูกแบ่งออกเป็นหลายช่องทาง ในระดับจังหวัดมีการเปิดให้อาคารเอกชนขอวิศวกรได้ผ่านโยธาธิการจังหวัด ในขณะที่โครงการเอื้ออาทรถูกกำหนดให้วิศวกรผ่านการเคหะฯ ได้ - สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาคือการมีเจ้าภาพที่ชัดเจนในการรวบรวมวิศวกรที่สามารถตรวจอาคารในพื้นที่ดังกล่าว และการจัดสรรวิศวกรให้แต่ละประเภทอาคารตามลำดับความสำคัญ
ทั้งหมดนี้เป็น 2 ข้อสังเกตที่ สส.พรรคประชาชนจะนำไปเสนอเพิ่มเติมให้กับรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในโอกาสต่อไป
ด้านณัฐพงษ์กล่าวว่าในฐานะ สส.พื้นที่ ตนขอขอบคุณสมพรและคณะอาสาจากสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย ที่สละเวลามาช่วยตรวจอาคารและจัดโครงการในการรวบรวมวิศวกรมาอาสาช่วยสังคมในช่วงเวลาวิกฤตสำคัญของประเทศ พวกเราล้วนต้องการช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อก้าวผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้ไปด้วยกันด้วยความปลอดภัย หลังจากนี้ในกรณีของ ตึก 12 ปี โรงพยาบาลสมุทรสาคร จะได้ทำหน้าที่ประสานข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนกรณีโครงการบ้านเอื้ออาทรติดนิคมสมุทรสาคร จะนำปัญหานี้ประสานในระดับจังหวัด และจะนำเรื่องนี้ที่เป็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนปรึกษาหารือในสภาเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขโดยเร็วต่อไป
ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า ณัฐพงษ์ และ สมพร พุทธิชัยกุล หัวหน้าสาขาวิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ ในฐานะวิศวกรอาสาจากสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย ร่วมกับบุคลากรจากหน่วยราชการและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคาร 12 ปี โรงพยาบาลสมุทรสาคร ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา
เบื้องต้นพบว่าโครงสร้างหลักของอาคารไม่ได้รับผลกระทบ พบรอยร้าวของผนังปูนฉาบและก่ออิฐเป็นจุดๆ ตั้งแต่ช่วงชั้นที่ 1-5 และเริ่มน้อยลงตั้งแต่ชั้นที่ 6 เป็นต้นไป และแทบไม่มีความเสียหายจากชั้นที่ 8 เป็นต้นไป ฝ้าและบริเวณคอเสาต่างๆ ไม่พบปัญหาแตกร้าว จึงคิดว่าในเรื่องความแข็งแรง น่าจะปลอดภัยดีอยู่ หลังจากนี้จะมีการส่งข้อมูลกลับไปให้วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยให้เข้ามาพิจารณาและออกหนังสือรับรองให้อีกครั้งเพื่อดำเนินการซ่อมแซมต่อไป
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #แผ่นดินไหว