นายกฯ
เศรษฐา เยือนศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ประชุมขับเคลื่อนพัฒนากรุงเทพมหานคร
วันนี้
(23 กุมภาพันธ์ 2567) เวลา 09.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ได้เดินทางเยือนศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
พร้อมทั้งประชุมติดตามเร่งรัดพัฒนากรุงเทพมหานคร ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
(เสาชิงช้า) เขตพระนคร โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ให้การต้อนรับ
นายเศรษฐา
เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วานนี้ได้แถลงเรื่อง 8 วิสัยทัศน์ของประเทศไทยไปแล้ว
ซึ่งหลายข้อเกี่ยวข้องกับทางกรุงเทพมหานคร
แม้เราจะพยายามกระจายความเจริญไปสู่จังหวัดต่าง ๆ
แต่กรุงเทพมหานครก็ยังเปรียบเสมือนประเทศไทยขนาดเล็ก
วันนี้ดีใจที่ได้มาเยือนกรุงเทพมหานครเป็นครั้งแรกและได้ทราบถึงวิสัยทัศน์
ตลอดจนแผนงานที่กรุงเทพมหานครมี ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว
ซึ่งนโยบายหลายเรื่องก็ล้อไปกับวิสัยทัศน์ของประเทศไทยและล้อไปกับนโยบายของรัฐบาลด้วย
ประเด็นที่ฝากท่านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครไว้
คือ ท่านทำงาน ทำอะไรดี ๆ ไว้มาก แต่บางทีอาจจะมีการสื่อสารน้อยไปสักนิด
จึงอยากให้มีการสื่อสารให้มากขึ้น ซึ่งไม่ใช่เพียงการแถลงผลงานเพียงอย่างเดียว
แต่เป็นการสื่อสารเพื่อให้ทราบการทำงานว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ประโยชน์จากข่าวสารต่าง
ๆ ทางรัฐบาล โดยนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ได้มีการประสานงานใกล้ชิดกับทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอยู่แล้ว
และจะมีการทำงานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พร้อมรับนโยบายจากทาง กทม. ไปช่วยขยายผลต่อไป ยกตัวอย่างเช่น
สัปดาห์ที่ผ่านมาที่กรุงเทพมหานครประกาศ Work from Home (WFH) ทำให้รถยนต์มีจำนวนน้อยลง
8-9% หากมีการประสานที่ดีกับทางรัฐบาล เราก็จะประกาศพร้อมกัน
อาจจะเป็นการประกาศให้หน่วยงานราชการ WFH สอดรับกันไป
ซึ่งเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
ที่หลายหน่วยงานต่างก็พยายามทำงานกันอย่างเต็มที่อยู่แล้ว
เพียงแต่ทำให้มีการประสานงานดีขึ้น เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นด้วย
จากนั้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า
ในเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเรื่องสำคัญ
เป็นเรื่องที่เราต้องจัดการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
เพราะเดี๋ยวนี้มีการทำรูปลักษณ์บุหรี่ไฟฟ้าที่หลากหลาย เช่น ทำเป็นกล่องนม
ทำให้ทราบว่ากลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มเด็ก ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควร ในเรื่องของการนำเข้า
ทางศุลกากรจะต้องเข้มงวดในการตรวจค้นให้มากยิ่งขึ้น