“ภูมิธรรม” ลั่นพร้อมลงแส้หากพบคอรัปชั่นในหน่วยงานรัฐ แนะ สสว. หามาตรการยกระดับธุรกิจเอสเอ็มอีเพิ่มรายได้ประชาชน
ดึงรายได้เข้าประเทศ
วันนี้
(8 กุมภาพันธ์ 2567) นายภูมิธรรม เวชยชัย
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
เปิดเผยภายหลังการมอบนโยบายให้กับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
หรือ สสว.ทั้งนี้ได้ให้นโยบายด้านการทำงานให้มีการบูรณาการร่วมกันในหลายหน่วยงาน
เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของธุรกิจเอสเอ็มอีให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น
นายภูมิธรรม
กล่าวด้วยว่า ในช่วงเศรษฐกิจและผุ้ประกอบการเอสเอ็มอีจำนวนมาก ที่ยังไม่แข็งแรง สสว.
ต้องหาทางช่วยเอสเอ็มอีให้มากที่สุด
การพัฒนาสินค้าเพื่อการส่งออกไปตีตลาดโลกเพื่อดึงรายได้เข้าประเทศ
ผู้ประกอบการรายใดที่มีปัญหาด้านเงินทุน แต่เป็นธุรกิจที่มีอนาคต
ควรหามาตรการช่วยเหลือ
ทั้งทางด้านเงินทุนและพัฒนาสินค้าให้เป็นที่ยอมรับในตลาดมากขึ้น ซึ่ง สสว. ต้องทำงานให้หนักกว่านี้
เพื่อเศรษฐกิจไทยที่เข้มแข็ง ทั้งนี้หากธุรกิจเอสเอ็มอีกว่า 3
ล้านรายมีผลประกอบการดีขึ้นก็จะช่วยเพิ่มรายได้ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเพราะภาคธุรกิจเอสเอ็มอีผู้พันธ์กับประชาชนทั่วประเทศ
“ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนการทุจริตใน สสว. นั้น
ได้ให้นโยบายกับผู้บริหารและประธานบอร์ด สสว. ว่าหากมีข้อร้องเรียน
ให้มีตั้งกรรมการการตรวจสอบ หากพบว่าข้อร้องเรียนมีหลักฐานที่น่าเชื่อถือ จะมีการตั้งกรรมการสอบผู้ที่เกี่ยวข้อง
และหากพบว่าผิดจริงก็พร้อมที่จะลงโทษอย่างแน่นอน
เพราะนโยบายการปราบปรามและแก้ปัญหาคอรัปชั่นเป็นนโยบายที่นายเศรษฐา ทวีสิน
นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญมาก ดังนั้นหากพบมีการทุจริตจะไม่เอาไว้อย่างแน่นอน” นายภูมิธรรมกล่าว