“ทักษิณ”
ออกจากโรงพยาบาลตำรวจหลังได้รับการพักโทษ โดยมี “อุ๊งอิ๊ง” มารับกลับบ้านจันทร์ส่องหล้า
จากกรณีกระแสข่าวนายทักษิณ
ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะได้รับการพักโทษหลังครบเกณฑ์พักโทษของกรมราชทัณฑ์
ซึ่งถือเป็นการรับโทษรวม 180 วัน ในวันนี้ (18 ก.พ.)
ก่อนคาดการณ์ถูกส่งตัวออกจากห้องพักรักษาตัวเลขที่ 1401
บริเวณชั้นที่ 14 ของอาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ ไปยังบ้านพัก “จันทร์ส่องหล้า” ตั้งอยู่เลขที่ 472-474 ภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 แยก 4 แขวงและเขตบางพลัด กทม. ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
วันที่
17 กุมภาพันธ์ 2567 เมื่อเวลา 23.00 น. ที่ โรงพยาบาลตำรวจ ถ.พระรามที่ 1
แขวงและเขตปทุมวัน กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่า สำหรับบริเวณทางเข้า-ออก
ของสถานที่ดังกล่าว มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดบก.น. 6
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน 2
รวม 1 กองร้อย และตำรวจทั้งในและนอกเครื่อง
นำรั้วเหล็กมาปิดกั้น โดยสามารถให้รถสัญจรเพียง 1
ช่องทางเท่านั้น พร้อมติดป้ายระบุว่า
“ประกาศ
โรงพยาบาลตำรวจเป็นพื้นที่ทางการแพทย์ ห้ามมิให้มีการชุมนุมสาธารณะ ตาม
พรบ.การชุมนุมสาธารณะ มาตรา 8 พ.ศ. 2558”
ภายหลังสื่อทราบว่ากลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย
หรือคปท. จะรวมตัวเดินทางมาจัดกิจกรรมหลังได้รับกระแสการพักโทษของอดีตนายกรัฐมนตรี
ต่อมาเมื่อเวลา
23.20 น. กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 20 คน
ได้รวมตัวกันบริเวณทางบาทวิถี โดยไม่ได้ก่อความไม่สงบ
และสร้างความเดือดร้อนแม้แต่อย่างใด ก่อนที่นายพิชิต ไชยมงคล
แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือคปท.
จะเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ทางกลุ่มตนและกลุ่มศปปส. ได้แสดงจุดยืนมาโดยตลอดว่า
ไม่เห็นด้วยกับการพักโทษของอดีตนายกรัฐมนตรี
เนื่องจากบุคคลดังกล่าวไม่เคยได้รับโทษ หรือแม้อยู่ในเรือนจำแม้แต่วันเดียว
สำหรับในวันนี้กลุ่มตนมาแสดงออกเพื่อคัดค้านการพักโทษ
และไม่มีเจตนาขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่แม้แต่อย่างใด
ซึ่งมวลชนขณะนี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น
และจะมีมวลชนมาสมทบรวมตัวกันอีกในช่วงเช้าของวันที่ 18 ก.พ. นี้
นายพิชิต
กล่าวว่า นอกจากนี้กลุ่มคปท. มีการตั้งข้อสงสัยว่า นายทักษิณ
มีอาการป่วยหนักขนาดไหน หากมีการปล่อยตัวแล้วเดินทางกลับก็จะสะท้อนให้เห็นว่า
สิ่งที่คปท. ตั้งข้อสังเกตุเป็นจริงที่อดีตนายกไม่ได้มีอาการป่วยหนัก
และไม่ได้มีการรักษาในกรณีพิเศษ ดังนั้นหากมีการเดินทางออกจากโรงพยาบาลตำรวจในทันทีหลังได้รับการพักโทษ
ประชาชนก็จะได้เห็นข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ส่วนบรรยากาศภายในโรงพยาบาลตำรวจบริเวณกองบังคับการอำนวยการ
มีเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมรถควบคุมฝูงชนจำนวนหนึ่ง
พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหลายนายคอยสับเปลี่ยนกำลังเฝ้าระวังในพื้นที่
ด้าน
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางที่ด้านหน้าโรงพยาบาลตำรวจ
โดยระบุว่าตั้งใจมาเฝ้าดูและเป็นกำลังใจให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ส่วนอาการป่วยของนายทักษิณนั้นส่วนตัวไม่ทราบว่าป่วยจริงหรือไม่
แต่ยืนยันตามหลักฐานที่โรงพยาบาลได้เคยประกาศชี้แจงไปแล้วก่อนหน้านี้
ทั้งนี้มองว่า
กระบวนการในการพักโทษเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และมองว่า ระดับนายทักษิณ
เป็นบุคลากรที่ทำคุณงามความดีให้กับประเทศ
ดังนั้นการที่นายทักษิณเลือกเดินทางกลับประเทศเป็นการเสียสละ
เพราะหากไม่ต้องการจะกลับ นายทักษิณก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศได้อย่างสุขสบายโดยไม่ต้องรับโทษ
การกลับมาจึงเปรียบเสมือนการกู้ชื่อเสียงของตัวเอง
ส่วนจะกลับมามีบทบาททางการเมืองในอนาคตหรือไม่ ให้เป็นเรื่องของอนาคต
บรรยากาศที่อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์
88 พรรษา เป็นอาคารที่นายทักษิณ ชินวัตร รักษาตัวอยู่
บรรยากาศเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย
มีเจ้าหน้าที่จัดกำลังพลมาตรวจตราเป็นระยะทั้งในและนอกเครื่องแบบ
ซึ่งตลอดทั้งวันที่ผ่านมายังไม่พบว่า มีความเคลื่อนไหวของครอบครัวนายทักษิณ
ชินวัตร จะเดินทางเข้ามาที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อประสานติดต่อขอรับตัวกลับบ้านพัก
โดยมีรายงานว่า
นายทักษิณจะเดินทางออกจากโรงพยาบาลตำรวจหลังตี 1 และจะมุ่งหน้ากลับบ้านจันทร์ส่องหล้าย่านจรัญสนิทวงศ์ทันที
ต่อมาเวลา
04.42 น. รถยนต์ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ออกจากบ้านจันทร์ส่องหล้ามุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลตำรวจ
และในเวลา
06.09 น. รถเบนซ์ตู้สีดำทะเบียน ภษ 1414
กรุงเทพมหานคร โดยนายทักษิณ ชินวัตร กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
นั่งออกมาจากชั้นใต้ดินของอาคารเฉลิมพระเกียรติ ออกไปยังประตูนิติเวช รพ.ตำรวจ ด้านถนนอังรีดูนังต์
เวลา
06.33 น. รถเบนซ์ตู้สีดำได้นำ นายทักษิณ ชินวัตร พร้อมบุตรสาว
ถึงยังบ้านจันทร์ส่องหล้า เป็นที่เรียบร้อย ท่ามกลางผู้สื่อข่าวที่ปักหลักรายงานข่าวเป็นจำนวนมาก
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ทักษิณ #ทักษิณชินวัตร