ก้าวไกลเปิดตัว
“นพ.เลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล” ว่าที่ผู้สมัครชิงนายก อบจ.ภูเก็ต
ชูนโยบายสาธารณสุข-ขนส่งมวลชน ด้าน “พิธา” ชวนคนภูเก็ตกลับบ้านเลือกนายก
อบจ.จากก้าวไกลต้นปี 68
ผนึกกำลังท้องถิ่น-นิติบัญญัติทำงานอย่างไร้รอยต่อ
วันที่
24 กุมภาพันธ์ 2567 ณ สวนศรีภูวนาถ อำเภอเมืองฯ
จังหวัดภูเก็ต พรรคก้าวไกลจัดเวที “จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่จะเปลี่ยนชีวิตคนภูเก็ต”
เพื่อเปิดตัว “นายแพทย์เลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล”
เป็นว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) ในนามพรรคก้าวไกล
โดยมี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย
สส.ของพรรคก้าวไกลทั้งจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ สมชาติ เตชถาวรเจริญ สส.เขต 1, เฉลิมพงศ์ แสงดี สส.เขต 2, และฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล
สส.เขต 3 ร่วมเวทีด้วย
ลำดับแรก
นายแพทย์เลอศักดิ์ได้ขึ้นเวทีแนะนำตัว โดยระบุว่า ตนเป็นคนภูเก็ตโดยกำเนิด
เกิดและเรียนที่ภูเก็ต ก่อนจะไปศึกษาต่อด้านการแพทย์ที่กรุงเทพฯ
ไปใช้ทุนในภาคอีสาน ไปเรียนต่อเฉพาะทางด้านโรคทางสมอง
และกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ซึ่งเป็นโรงพยาบาลรัฐ
ระหว่างนั้นตนได้ซึมซับบรรยากาศการทำงานในโรงพยาบาล
ได้เห็นความจริงอันน่าเศร้าว่า
โรงพยาบาลเป็นเพียงปลายทางที่สะท้อนปัญหาการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ไร้ประสิทธิภาพ
ได้เห็นภาพคุณแม่กอดร่างไร้วิญญาณของลูกที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
ได้เห็นภรรยามาเยี่ยมสามีที่อาการโคม่า
ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ของอุบัติเหตุมาจากการขับขี่รถจักรยานยนต์
ถ้าภูเก็ตมีระบบขนส่งมวลชนที่ดี มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับวิถีชีวิตของชาวภูเก็ต
เหตุเช่นนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น
นอกจากนี้
ตนยังได้เห็นผู้ป่วยมารอรับการรักษาที่หน้าห้องฉุกเฉินในยามวิกาล
ถึงแม้อาการอาจจะไม่ได้หนักจนถึงขั้นต้องเข้าห้องฉุกเฉิน
แต่ที่เขาต้องมาโรงพยาบาลใหญ่เพราะเราไม่มีระบบสาธารณสุขปฐมภูมิที่ดีพอ
ตนจึงมีนโยบายที่จะขยายศักยภาพของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)
ให้เป็นที่พึ่งของชุมชนได้ เปิด 24 ชั่วโมง
และเพิ่มศักยภาพในการคัดกรองโรคให้หลากหลายมากขึ้น เช่น การคัดกรองโรคมะเร็ง
การมีศูนย์ฟื้นฟูกายภาพบำบัดประจำชุมชน การมีศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียง
ที่ทำให้ผู้ป่วยติดเตียงไม่ต้องเดินทางมาโรงพยาบาลใหญ่
นายแพทย์เลอศักดิ์กล่าวต่อไปว่า
นอกจากนโยบายด้านขนส่งมวลชนและสาธารณสุขแล้ว
ตนและทีมงานยังเตรียมนโยบายไว้อีกหลายด้านที่จะได้นำเสนอในโอกาสต่อไป
โดยจะเปิดพื้นที่ให้ผู้สนับสนุนทุกคนเข้ามาร่วมตรวจสอบและเสนอแนะนโยบายเพิ่มเติมด้วย
พร้อมย้ำว่า การพัฒนาภูเก็ตให้เป็นเมืองเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว
แต่ก็ต้องไม่ละทิ้งคนที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินภูเก็ตด้วย โดยตนและทีมงานขออาสาเป็น
“จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้าย”
ของพรรคก้าวไกลที่จะเชื่อมการบริหารท้องถิ่นภูเก็ตขึ้นไปสู่นิติบัญญัติระดับประเทศ
เพราะเรามี สส.ในพื้นที่อยู่แล้ว 3 คน เราต้องใช้
สส.ให้เป็นประโยชน์ เชื่อมโยงให้ครบวงจร
เพื่อให้สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงหวนมาถึงภูเก็ต และทำให้ภูเก็ตดีขึ้นกว่าเดิม
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #อบจภูเก็ต