ศูนย์ทนายฯ อัพเดท "ตะวัน" ประจำเดือนสีดำคล้ำ เลือดเป็นกรด "แฟรงค์" ชักเกร็งอีก เห็นสีเพี้ยน ร้อนในตัวเหมือนไฟไหม้ ขณะที่"บุ้ง" ถูกส่งกลับ รพ.ราชทัณฑ์ หลัง 'อ้วกปนเลือด' ติดกัน 3 วัน
วันนี้(27 ก.พ. 67) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานผ่าน X ระบุว่า
'แฟรงค์-ณัฐนนท์' ณ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ น้ำหนักแฟรงค์เหลือประมาณ 37 กก. ตอนนี้แฟรงค์ไม่ได่ใส่เครื่องช่วยหายใจแล้ว และบอกว่า “จะไม่เอาอะไรจากใครแล้ว จะไม่ร้องขออะไรอีก”
โดยเมื่อวานนี้ (26 ก.พ.) แฟรงค์มีอาการชักเกร็ง นิ้วจีบ อัตราการเต้นของหัวใจ 150 ครั้งต่อนาที และแฟรงค์บอกว่ารู้สึกทรมานมาก ระหว่างเยี่ยม แฟรงค์ดูเหนื่อยหอบ
- รู้สึกร้อนเหมือนถูกไฟไหม้
- มองเห็นเพดานเป็นสีแดง สีส้ม
- รอบดวงตาดูกลวงโบ๋จนเห็นเป็นโครงกะโหลก
- ปากแตกแห้งจนลอก ใต้ตาคล้ำ
- ปัสสาวะน้อยมาก และมีสีเข้ม ไม่ขับถ่ายแล้ว -ตอบสนองช้า เฉื่อย เบลอ และเหม่อลอย
- อ่อนแรงมาก ต้องมีคนช่วยเข็นวิลเเชร์ให้
แฟรงค์ทราบแล้วว่าตะวันตัดสินใจยอมจิบน้ำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่แฟรงค์ยังยืนยันจะอดอาหารและน้ำต่อไป โดยบอกว่า “สัญญาต้องเป็นสัญญา” ผมขอเอาหัวยัน ตีนยัน ขอยืนยันคำเดิม “ผมจะทำต่อไป”
ฝากบอกตะวันว่า "เป็นห่วงมาก ใจยังสู้ และจะสู้ต่อไป"
'ตะวัน-ทานตะวัน' ณ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ทนายสังเกตว่าตอนนี้ตะวันมีรูปร่างซูบผอมลงกว่าเดิมมาก ผอมจนเห็นกระดูกซี่โครง เห็นกระดูกไหปลาร้า และเห็นกระดูกสันหลังชัดเจน หน้าซูบตอบจนเห็นสันกราม สีผิวดูเหลืองและหมองคล้ำ
วันนี้ตะวันไม่ได้ลุกขึ้นมาชั่งน้ำหนัก เพราะลุกขึ้นนั่งไม่ไหวแล้วเธอเล่าว่าพยายามนอนหลับเพื่อฆ่าเวลาให้ผ่านไปแต่ละวัน
เมื่อวันศุกร์ที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา แพทย์เจาะเลือดตะวันไปตรวจ พบว่า ปริมาณไนโตรเจนในกระแสเลือด (BUN) สูงมาก อยู่ที่ 50 mg% และพบว่ามีภาวะขาดน้ำ รวมถึงมีภาวะเลือดเป็นกรดสูง
- พะอืดพะอม
- ไม่มีแรง อิดโรย
- พูดช้ามาก ปากแห้งแตกจนลอกปัสสาวะออกน้อยมาก มีสีเข้ม ไม่ขับถ่ายแล้ว
โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา ตะวันมีประจำเดือน แต่พบว่าเลือดประจำเดือนรอบนี้มี 'สีดำคล้ำ' แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะอ่อนเพลียมากจนไม่มีแรงไปห้องน้ำเพื่อไปเปลี่ยนผ้าอนามัย ระหว่างเยี่ยมวันนี้แม่ของตะวันจึงพยุงตะวันไปทำความสะอาดร่างกาย
ตะวันเล่าว่าอีกว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 ก.พ.) 'เริ่มจิบน้ำ' ตามคำร้องขอของพ่อและแม่เพื่อให้รักษาชีวิตไว้
ทนายเล่าให้ตะวันฟังว่า พ่อของตะวันเดินทางไปยื่นประกันตะวันต่อศาลอาญา แต่สุดท้ายศาลมีคำสั่งว่า เมื่ออยู่ในความดูแลของแพทย์แล้วก็ให้อยู่ต่อไป ตะวันฟังเสร็จแล้วก็ร้องไห้
ตะวันฝากบอกแฟรงค์ว่า เป็นห่วงแฟรงค์มาก ขอให้แฟรงค์อดทนและให้หายใจเข้าไว้
สุดท้ายตะวันแจ้งว่า วันนี้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เอาอะไรอีก ฝากขอบคุณทุกกำลังใจและให้แฟรงค์รู้ว่าตะวันอยู่กับแฟรงค์เสมอ ตลอดมาและตลอดไป “สัญญาต้องเป็นสัญญา”
“ตายก็ตาย สู้ต่อไป ยืนยันจะสู้จนกว่าจะตาย” ตะวันกล่าว
อย่างไรก็ตามการประท้วง #อดอาหารน้ำ ของทั้งตะวัน-แฟรงค์เข้าสู่วันที่ 10 แล้ว เพื่อ 3 ข้อเรียกร้อง ซึ่งได้แก่
1. ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
2. ต้องไม่มีคนติดคุกเพราะเห็นต่างทางการเมืองอีก
3. ประเทศไทยไม่ควรได้เป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน UN
ขณะที่ 'บุ้ง-เนติพร' ประท้วงวันที่ 32 (27 ก.พ.67) ถูกส่งกลับ รพ.ราชทัณฑ์ หลัง 'อ้วกปนเลือด' ติดกัน 3 วัน พร้อมแจ้งเริ่มจิบน้ำในปริมาณจำกัด แต่ยังคงเดินหน้าอดอาหารประท้วงเพื่อ 2 ข้อเรียกร้องดังเดิม
เมื่อคืนวานที่ผ่านมา (26 ก.พ.) บุ้งถูกส่งตัวจากทัณฑสถานหญิงกลางกลับไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์อีกครั้ง เนื่องจากอาเจียนปนเลือดไม่หยุด นาน 3 วันติดต่อกัน
เมื่อมาถึง รพ. แพทย์ได้ให้ยาลดกรดและยาแก้อาเจียนผ่านทางสายน้ำเกลือ ซึ่งบุ้งให้ความยินยอมกับแพทย์ครั้งแรก เพราะทรมานกับอาการอาเจียนปนเลือดมาก ทั้งนี้ บุ้งขอรับน้ำเกลือเพียง 1/3 ของปริมาณน้ำเกลือ 1 ถุงเท่านั้น
จากการเข้าเยี่ยม ทนายความสังเกตว่าตอนนี้บุ้งหน้าซูบตอบ เบ้ารอบดวงตามีร่องลึก หรือตาโหล มีอาการอ่อนเพลียตลอดเวลา มีอาการเป็นตะคริวบ่อยครั้ง ถามถึงตะวันและแฟรงค์ว่ามีอาการเป็นยังไงบ้าง
บุ้งแจ้งว่า ขณะนี้ได้ #จิบน้ำ ในปริมาณที่จำกัด แต่ยังคงยืนยันว่าจะอดอาหารประท้วงต่อไป ทั้งขอยืนยัน 2 ข้อเรียกร้องเดิม ซึ่งได้แก่
1) ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
2) ต้องไม่มีใครถูกขังเพราะเห็นต่างทางการเมืองอีก