วันเสาร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2567

"พริษฐ์" เผย มติประชุมใหญ่ เลื่อนสรรหา กก.บริหารชุดใหม่ รอข้อสรุปคำร้องยุบพรรค เดินหน้างานท้องถิ่น-สภาเชิงรุก ถ่อมตัวกระแสเลือก"หัวหน้าพรรคคนใหม่

 


"พริษฐ์" เผย มติประชุมใหญ่ เลื่อนสรรหา กก.บริหารชุดใหม่ รอข้อสรุปคำร้องยุบพรรค เดินหน้างานท้องถิ่น-สภาเชิงรุก ถ่อมตัวกระแสเลือก"หัวหน้าพรรคคนใหม่


วันที่ 6 เม.ย. 67 ที่โรงแรมเมเปิล บางนา กรุงเทพฯ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงผลการประชุมใหญ่สามัญพรรคก้าวไกลว่า วาระหลักที่พูดคุยกันคือ การสร้างพรรค ทั้งในส่วนการทบทวนผลการดำเนินงานที่ผ่านมา และตัวเลขสมาชิกพรรคที่เกือบถึง 100,000 คน รวมถึงมีตัวแทนพรรคประจำอำเภอเกือบ 200 อำเภอทั่วประเทศ และยังพบว่า อัตราการต่ออายุสมาชิกพรรครายปีเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ซึ่งเป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นว่า พรรคก้าวไกลเติบโตอย่างเข้มแข็ง และประชาชนไว้วางใจทุกพื้นที่


นายพริษฐ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีมติในการแก้ไขข้อบังคับพรรคเพื่อให้กระบวนการสมัครสมาชิกพรรคง่ายมากขึ้น เพื่อสอดคล้องกับระเบียบการสมัครสมาชิกพรรคของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวก็สมัครสมาชิกพรรคได้ ส่วนการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคก้าวไกลนั้น ได้มีมติให้เลื่อนการพิจารณาออกไปจนกว่าจะมีข้อสรุปคดียุบพรรคที่ค้างอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ


นายพริษฐ์ ยังกล่าวอีกว่า การสัมมนา สส. เมื่อวานนี้ (5 เม.ย.) ได้มีการพูดคุยถึงแผนการทำงานของพรรคก้าวไกลในอนาคต แม้จะอยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรก็ตาม แต่พรรคก้าวไกลจะขับเคลื่อนงานใน 5 ด้านหลักด้วยกันคือ 1.งานสภาฯ โดยจะมีการเสนอกฎหมายเพิ่มเติมจากประมาณ 50 กว่าร่าง รวมถึงผลักดันงานในชั้นคณะกรรมาธิการ (กมธ.)


รวมถึงมีการพัฒนางานเชิงพื้นที่ โดยจะให้ สส. พรรคก้าวไกลลงไปรับฟังปัญหาประชาชน และนำปัญหากลับมาแก้ไขต่อไป ต่อมาคืองานเชิงประเด็น ซึ่งพรรคก้าวไกลมีการแบ่งกลุ่มต่าง ๆ อยู่แล้ว เช่น งานด้านสิ่งแวดล้อม งานด้านดิจิทัล งานด้านการศึกษา ฯลฯ ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงที่แต่ละทีมจะขยายเครือข่าย และองค์ความรู้ให้ครอบคลุม และตรงประเด็น


อีกทั้งงานด้านท้องถิ่นซึ่งพรรคก้าวไกลได้เปิดตัวการลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ไปบ้างแล้ว 16 จังหวัด และงานด้านการสร้างพรรคเพื่อเพิ่มจำนวนสมาชิกพรรคให้ทะลุ 100,000 คน ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้พบปะกับตัวแทนพรรคทั่วประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนการทำงาน


ไม่อยากให้มองว่า กลไกที่ฝ่ายค้านมีแค่การอภิปราย แต่ยังมีการตั้งกระทู้ถาม ทำให้เราสามารถถามแทนพี่น้องประชาชนต่อรัฐบาลในประเด็นที่รัฐบาลอาจเดินไม่ตรงจุด รวมถึงกลไก กมธ. ที่ทางพรรคก้าวไกลพยายามขยายองค์ความรู้ในการเสนอแนะ


เมื่อถามว่า นายพริษฐ์ สามารถเป็นหัวหน้าพรรครุ่นต่อไปได้หรือไม่ โดย นายพริษฐ์ กล่าวว่า พรรคการเมืองทุกพรรคต้องใหญ่กว่าคนอยู่แล้ว ในมุมหนึ่งทุกพรรคการเมืองต้องเสริมทักษะความเป็นผู้นำให้แก่คนในพรรคอยู่แล้ว และพรรคก้าวไกลทำงานเป็นทีมมาตลอดเพื่อให้การทำงานนำพาประเทศไปสู่เป้าหมายให้เร็วที่สุด ย้ำว่า พรรคใหญ่กว่าคน ตอนนี้เราเป็นพรรคก้าวไกล นำโดยหัวหน้าพรรค ประธานที่ปรึกษาฯ ซึ่งพรรคมีความเข้มแข็งในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้าน รวมถึงมีความพร้อมหากได้รับเลือกจากประชาชนเข้าไปบริหารประเทศ


นายพริษฐ์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการตั้งพรรคสำรองอีกว่า พรรคอนาคตไกลไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกล เพราะตอนนี้สมาธิเราโฟกัสอยู่แค่ 2 อย่างคือ ทำอย่างไรให้เราพิสูจน์กระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญได้ และทำงานเต็มที่ผ่านกลไกทางการเมืองต่างๆ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในฐานะพรรคก้าวไกล


“เราเห็นว่าที่ผ่านมา การยุบพรรคการเมืองคือเครื่องมือในการทำลายล้างฝั่งตรงข้าม หากเราดูมาตรฐานประชาธิปไตยสากลจะไม่มีการยุบพรรคเกิดขึ้น หากมีพรรคไหนที่กรรมการบริหารพรรคทำอะไรผิดจะเป็นการลงโทษบุคคล พรรคการเมืองควรเป็นสถาบันทางการเมืองที่ควรจะใหญ่กว่าคนใดคนหนึ่ง หรือคณะบริหารชุดใดชุดหนึ่ง“ นายพริษฐ์ กล่าว


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล