วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2567

ธิดา ถาวรเศรษฐ : การต่อสู้ของประชาชนนั้นต้องเดินต่อไปแม้นจะยากลำบาก ย้ำ! ไม่ใช่งานรำลึกวีรชนเฉย ๆ แต่นี่มันเป็นงานที่ต้องการให้ประวัติศาสตร์ประเทศนี้ ทหารและรัฐบาลเผด็จการจะมาฆ่าประชาชนฟรี ๆ ตายกลางถนนไม่ได้อีกต่อไป

 


#14ปีเมษาพฤษภา53 ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา


ธิดา ถาวรเศรษฐ : การต่อสู้ของประชาชนนั้นต้องเดินต่อไปแม้นจะยากลำบาก ย้ำ! ไม่ใช่งานรำลึกวีรชนเฉย ๆ แต่นี่มันเป็นงานที่ต้องการให้ประวัติศาสตร์ประเทศนี้ ทหารและรัฐบาลเผด็จการจะมาฆ่าประชาชนฟรี ๆ ตายกลางถนนไม่ได้อีกต่อไป


สวัสดีค่ะ พวกเราที่อยู่ที่นี่ ญาติวีรชน ตัวแทนพรรคการเมือง พี่น้องประชาชนและคนที่ดูเราอยู่ทางบ้าน ขณะนี้เป็นอีกวาระหนึ่งที่เรามาจัดงานในการครบรอบซึ่งนับแล้วจากการฆ่าปราบปรามประชาชน ก็เป็นเวลา 14 ปี


14 ปีที่ญาติวีรชนและประชาชนที่ต้องการทวงความยุติธรรมได้แต่เรียกหาว่าความยุติธรรมอยู่ที่ไหน? บางคนก็บอกว่าจ่ายเงินไปแล้ว จบซิ! ขอโทษ! นั่นมันเรื่องการเมือง ไม่ใช่เรื่องการเมือง มันเป็นเรื่องส่วนตัว เป็นคดีแพ่ง เอาเงินฟาดหัวแล้วจบ! แต่นี่คือการต่อสู้ของประชาชนไทย ไม่ใช่เพื่อคนใด แต่เพื่อประเทศชาติ ต้องการต่อสู้เผด็จการ นปช.คืออะไร แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ แล้วมาเติมแห่งชาติเข้าไป ตอนหลังบางส่วนอาจจะเลิกต่อต้านเผด็จการ ก็พอดีเป็นวาระที่ว่า องค์กรนปช.นั้นมันไม่สามารถดำรงอยู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าประชาชนไทยเลิกต่อสู้แล้ว ใช่หรือเปล่า? วิญญาณการต่อสู้ของพวกเรา พี่น้องคนเสื้อแดง จากอดีตมาจนถึงปัจจุบันและอนาคต


วันก่อนดิฉันได้ยินพี่น้องเราบางท่านบอกว่า แหมคนรุ่นใหม่อาจจะไม่ใช่คนเสื้อแดง เลยบอกไม่ใช่นะ คนรุ่นใหม่นี่แหละคือคนเสื้อแดงตัวจริงที่สืบทอดเจตนารมณ์ของนักต่อสู้ในอดีตค่ะ พวงหรีดเหล่านี้ การให้เกียรติมาคารวะเหล่านี้ คือสิ่งที่ยืนยันว่าการต่อสู้ของคนเสื้อแดงได้ส่งทอดมายังเยาวชนคนรุ่นใหม่ และต่อไปนี้ผู้รักประชาธิปไตยทุกรุ่น เราจะต้องจับมือด้วยกัน สู้เพื่อคนในอดีต ปัจจุบัน และลูกหลานในอนาคต “นิรโทษกรรมให้คนเป็น ทวงความยุติธรรมให้คนตาย”


คนเสื้อแดง ในประวัติศาสตร์หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เป็นกลุ่มคนที่ถูกปราบปรามทั้งด้วยปืน รวมทั้งการใช้กฎหมายเป็นนิติสงคราม คือสงครามด้วยอาวุธ สงครามที่หลังเลือด ตายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ แล้วก็ยังถูกจำคุก จับกุมคุมขังนับพันคน แล้วลักษณะพิเศษ ดิฉันจะเพิ่มเติมจากที่อาจารย์ธเนศ พูด ของการต่อสู้ของคนเสื้อแดง อาจารย์ธเนศพูดถึงลักษณะของคนชนบท ดิฉันจะขอเติมว่า นี่เป็นการต่อสู้ครั้งแรกของประชาชนที่เป็นมวลชนพื้นฐานที่เราเรียกว่าไพร่กันนั่นแหละ มีทั้งไพร่ชนบท ไพร่ในเมือง ถ้านับเป็นชนชั้นชั้นชนก็คือคนที่ต่ำกว่ารายได้ค่าเฉลี่ยเป็นส่วนใหญ่ นั่นก็คือมีทั้งมวลชนพื้นฐานทั้งในชนบทและในเมือง ผู้ประกอบการรายย่อย แรงงานอิสระ แรงงานนอกระบบ คือคนจนเมือง คนจนชนบท แล้วคนที่ต้องการอยากให้ประเทศนี้ศิวิไลย์ ก็มาจับมือกันเป็นขบวนการเสื้อแดง ซึ่งเป็นขบวนการที่ยิ่งใหญ่ทั้งคุณภาพและปริมาณ


อ.ธิดาเป็นคนรุ่น 14ตุลา ก็ต้องรู้แล้ว่ามันเกิน 50 ปีแล้วนะที่เราต่อสู้ แล้วเราจะบอกได้เลยว่าการต่อสู้ที่แล้วมาในอดีต นำโดยปัญญาชน ขบวนการปัญญาชน ชนชั้นกลาง แต่ของคนเสื้อแดง พื้นฐานจำนวนมากคือไพร่ชนบท แล้วก็ขบวนปัญญาชนและเอ็นจีโอขณะนั้น bombard ไม่ให้ค่าคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง แต่เราดีใจที่นักต่อสู้รุ่นหลังมองเห็นคุณค่าแล้วให้เกียรติคนเสื้อแดง นี่เพราะอะไร นักต่อสู้จะเข้าใจนักต่อสู้ด้วยกัน มันไม่มีการต่อสู้ครั้งไหนที่มันจะสมบูรณ์แบบ มันจะถูกต้องดีงามไปหมด มันก็ต้องมีข้อจุดอ่อน แต่นักต่อสู้ด้วยกันเราจะให้เกียรติ เราจะไม่ประณามหยามเหยียด เพราะหัวใจที่ออกมาต่อสู้โดยที่ไม่ได้คิดว่ามีอะไรเกิดขึ้นอย่างในกรณีของคนเสื้อแดง 10 เมษา 14 ปีที่แล้ว เขาไม่ได้คิดว่าเขาต่อสู้เพื่อพรรคอะไรหรอก ที่ถือธงออกมา ที่เดินออกมา เป้าหมายคือเขาต่อสู้กับทหารเผด็จการที่มาปราบปรามเขา ด้วยมือเปล่า


ดังนั้น เราจัดงานรำลึกวีรชน ไม่ใช่จัดงานเช็งแม้ง และไม่ใช่จะมาบอกว่าได้เงินไปแล้ว นี่มันไม่ใช่เรื่องราวของนักต่อสู้ เราต้องทวงเกียรติยศ ศักดิ์ศรีของวีรชนและคนเสื้อแดง ใครจะเป็น FC พรรคไหนไม่ว่ากัน แต่ถามว่ามันมีวิญญาณของนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอยู่หรือเปล่า? ถ้ามีวิญญาณของนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเป็นด้านหลัก ก็จะไม่มีปัญหา เพราะเราต้องการคนทั้งคุณภาพและปริมาณ


เมื่อกี้เราพูดแล้วว่าฐานะทางชนชั้น นั่นเป็นข้อที่ 1 ที่มีลักษณะพิเศษของคนเสื้อแดง ทั้งในชนบท ในเมือง คนจนเมืองด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเราไปที่ตรงราชประสงค์ ส่วนใหญ่จะเป็นคนจนเมือง แต่ว่าที่อยู่ตรงบริเวณผ่านฟ้าราชดำเนิน ส่วนใหญ่จะเดินทางมาไกล แล้วความที่เราต้องหุงข้าวต้มแกงกิน ปรากฏว่ามีหน่วยสืบราชการลับของต่างประเทศเดินมา เห็นถังแก๊สปิกนิก เขาบอกว่า อาจารย์ธิดา ไอ้พวกนี้จะทำระเบิด บอกทำระเบิดอะไรวะ เขามาหุงข้าว ต้มแกง


ดังนั้น เราไม่ใคร่จะได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือที่ดี ทั้งสื่อในประเทศ ทั้งปัญญาชน เอ็นจีโอ และรวมทั้งคนต่างประเทศ เพราะถูกประณามหยามเหยียด จึงขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่เห็นใจและเข้าใจศักดิ์ศรีของคนเสื้อแดงในการต่อสู้ค่ะ


ลักษณะพิเศษข้อต่อมาก็คือ การต่อสู้นี้ยาวนานมาก ถึงแม้ว่าองค์กรที่นำการต่อสู้ไม่ใช่องค์กรปฏิวัติ แต่เราได้ผ่านระยะเวลาตั้งแต่รัฐประหาร 2549, 2557 ถ้านับเวลาก็คือมาถึงวันนี้ 17 ปี วิญญาณของนักต่อสู้ในทัศนะอาจารย์ธิดา ยังมีอยู่เต็มที่ในคนจำนวนหนึ่ง แม้นว่าจะเป็น FC พรรคไหนก็ตาม แต่เชื่อว่าการต่อสู้ด้วยกันมาสิบกว่าปี วิญญาณนักต่อสู้ยังดำรงอยู่ แล้วเรื่องนี้พรรคการเมืองทั้งหลายขอพูดอีกครั้งหนึ่งว่า ประเทศนี้พรรคการเมืองถูกยุบไม่รู้กี่ครั้ง ดังนั้นการได้เป็นรัฐบาลไม่ใช่หลักประกันว่านี่คือได้ระบอบประชาธิปไตย เพราะว่าจะต้องถูกยุบอีก แล้วเที่ยวต่อไปสมมุติว่าพรรคประชาธิปไตยจับมือกันได้ สมมุติ อาจจะเป็นไปไม่ได้แล้ว มันก็อาจจะทำรัฐประหารกันอีก และอาจจะเกิดฆ่ากันตายอีก


นี่คือเหตุผลที่เราต้องมางานรำลึก ไม่ใช่เช็งเม้ง แต่ทวงความยุติธรรม เราถึงจำเป็นต้องมี คปช.53 มาทำงานในช่วงมีการเลือกตั้ง เพื่อเราจะได้เรียกร้องต่อพรรคการเมืองว่า พวกคุณจะคืนความยุติธรรมให้กับคนตายได้อย่างไร เพราะเราไม่ต้องการให้มีคนตายอีกในอนาคต


ลักษณะที่ 2 คือการต่อสู้ที่ยืดเยื้อยาวนาน และองค์กรต่าง ๆ ไม่มีใครอยู่ยาวนานขนาดนี้ โดยทั่วไปอยู่ได้ไม่นานก็ต้องเลิก แต่นี่เป็นลักษณะพิเศษของคนเสื้อแดงที่อยู่มาได้ยาวนาน มันไม่ใช่ว่าความสามารถของแกนนำ แต่มันเป็นเพราะจิตวิญญาณการต่อสู้ของพี่น้องประชาชน จะใส่เสื้อแดง หรือไม่ใส่เสื้อแดง มันไม่สำคัญเท่าจิตใจ ใส่เสื้อแดงแต่ไม่มีจิตวิญญาณนักต่อสู้ก็ได้ และนั่นคือไม่ใช่คนเสื้อแดง และคนที่ไม่ใส่เสื้อสีแดง แต่มีจิตวิญญาณของการต่อสู้เต็มเปี่ยม นั่นคือคนเสื้อแดงจริง


และพรรคการเมืองต้องรู้ว่า ต่อให้คุณได้เสียงมากขนาดไหน คุณก็ถูกจัดการได้โดยง่าย มีอย่างเดียวคือประชาชน ประชาชนต้องแข็งแรง ประชาชนต้องไม่ใช่เครื่องมือของพรรคการเมือง แต่พรรคการเมืองต้องเป็นเครื่องมือของประชาชน ไม่งั้นคุณก็ถูกยุบไปอีกนั่นแหละ คุณได้เป็นรัฐบาลกี่รอบแล้ว ไหวมั้ย? เพราะอะไร? พรรคการเมืองดูแข็งแรง แต่ถ้าประชาชนไม่แข็งแรง คุณเอาประชาชนไปเป็นเครื่องมือ สั่งซ้ายหัน ขวาหัน ตามที่พรรคการเมืองต้องการ แล้วพอพรรคการเมืองถูกรัฐประหารถูกยุบ แล้วยังไง?


ดังนั้น เราจึงมีความจำเป็นที่ฝ่ายที่ไม่ได้อยู่ในรัฐสภา ภาษาคนเสื้อแดง “สองขา” ขาหนึ่งไปสู้ในรัฐสภา อีกขาหนึ่งสู้นอกรัฐสภา บางคนอยู่ขารัฐสภาอย่างเดียว แต่อาจารย์ธิดาก็อยู่ขาประชาชนขาเดียว ไม่อยู่พรรคไหน เพราะถือว่าขบวนการประชาชนต้องเติบใหญ่ ประชาธิปไตยถึงจะเข้มแข็ง แล้วพรรคการเมืองก็จะอยู่รอดปลอดภัยได้แบบอารยประเทศ


เมื่อกี้ที่ดิฉันพูด อันที่ 1 ปัญหาชนชั้น อันที่ 2 คือปัญหาที่อยู่ได้ยืดเยื้อยาวนาน อันที่ 3 สำคัญที่สุดคือ การต่อสู้ของประชาชน ของคนเสื้อแดง มันต่างกับการต่อสู้ 14ตุลา ไม่ใช่แต่เพียงเพราะ14ตุลามีปัญญาชนนะ มันไม่เหมือน 6ตุลา เพราะว่า 6ตุลา มีปัญญาชน และมันไม่เหมือนกับ พฤษภา35 ซึ่งมีพรรคการเมืองและมีขบวนการเอ็นจีโอ ปัญญาชน แต่การต่อสู้ของคนเสื้อแดงมีลักษณะแตกต่างก็คือถูกปราบปรามมากที่สุด ถูกจัดการด้วย ต่อไปอาจจะเป็นสัญลักษณ์ของพวกเราก็คือสัญลักษณ์ของพลซุ่มยิง 6ตุลา สัญลักษณ์เก้าอี้ฟาด สัญลักษณ์ของรุ่น 53 ก็ต้องเป็นสไนเปอร์ พลซุ่มยิง ทำเสื้อออกมาขายเลย


ที่สำคัญที่สุดที่ดิฉันอยากจะพูดว่า ทำไมเราต้องมาทวงความยุติธรรม ทำไมเราไม่จัดงานรำลึกเฉย ๆ เพราะว่าทุกครั้งมันมีการนิรโทษสองฝั่ง 6ตุลา คุณก็ได้แต่มาชุมนุมแล้วบอกว่ามันโหดร้าย มันใช้เก้าอี้ฟาด มันทำอย่างโน้นอย่างนี้ มันลากคนไปตามสนาม ย่ำยีปัญญาชนนักศึกษาผู้หญิง แต่ว่าของคนเสื้อแดงมีครบ แล้วที่สำคัญก็คือว่าคนเหล่านั้น รุ่นเหล่านี้ทวงความยุติธรรมไม่ได้ เพราะได้รับการนิรโทษสองข้าง แต่ว่าของคนเสื้อแดงปี 53 เขาย่ามใจมาก เขาเชื่อมั่นในตัวเองมาก ไม่มีการนิรโทษแม้กระทั่งฝั่งเขา เพราะเขารู้ได้ว่าพวกเขาอยู่รอดปลอดภัย คนที่จะต้องตาย คนที่จะต้องเข้าคุกคือพวกคนเสื้อแดงนี่แหละ แต่เขาอยู่รอดปลอดภัยแน่นอน


พอคดีมันขยับในปี 54 ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ได้มีการช่วยเยียวยา ซึ่งก็ด้วยการผลักดันขององค์กรนปช.ขณะนั้น ก็มีตัวเลขจำนวนหนึ่ง พอคดีคืบหน้าซึ่งถ้าคุณไปฟังหลายท่านที่ถูกคดี โดยเฉพาะอดีตอธิบดีดีเอสไอที่ถูกขู่ไว้ว่า อย่าขยับนะ ถ้ามึงขยับแล้วก็จะต้องถูกออกจากราชการทันที สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือการรัฐประหารปี 57


ดังนั้น เขาใช้การรัฐประหารปี 57 เพื่อฟรีซแช่แข็งคดีความต่าง ๆ ทั้งปวง เรายังมี 62 คดี 62 ศพ ที่ไม่มีกระทั่งการไต่สวนชันสูตรพลิกศพ ซึ่งท่านจะดูได้จากในหนังสือที่เราขาย เรารู้ว่ารัฐไม่ทำอะไร ดังนั้นเราไปหาข้อมูลมาหมด เพราะฉะนั้นรัฐบาลนี้ไม่ต้องทำอะไรเลย เอาตัวนี้แหละ เพราะว่าเราทำงานหาข้อมูลมาตลอด เราจึงจำเป็นที่จะต้องมีคณะประชาชนทวงความยุติธรรม เพราะมันเป็นภารกิจที่เรายังไม่จบ แม้เราจะไม่มีองค์กรไปแล้ว แต่สำนึกของพวกเราก็คือยังต้องรับผิดชอบ นอกจากรับผิดชอบคนในอดีต แต่เราต้องรับผิดชอบว่าอนาคตมันจะมายิงคนตายฟรี ๆ แบบเดิมอีกไม่ได้เป็นอันขาด นี่คือเจตจำนงของเรา เราก็เจียมตัวนะ เราไม่ได้ต้องการเป็นผู้ขับเคลื่อนใหญ่ แต่ว่าในขณะที่เพื่อนเราเขาอาจจะไปทำภารกิจอย่างอื่น ทางพรรคการเมืองบ้าง เรื่องอื่นบ้าง เราก็รับงานนี้มาทำอย่างเต็มกำลัง


เพราะฉะนั้นที่อาจารย์จะพูดทิ้งท้ายไว้ก็คือประการนี้ จริง ๆ มันมีหลายประการ แต่อันที่สำคัญที่สุดก็คือมันยังไม่มีการนิรโทษกรรมสองฝ่าย ก่อนหน้านี้อย่าง 6ตุลา พอสืบไปนะ พอขึ้นศาลไปสักพักหนึ่ง มันก็นิรโทษเลยสองฝั่ง ถ้างั้นแปลว่า 6ตุลา คุณทวงไม่ได้ความยุติธรรม 14ตุลา คุณก็ทวงไม่ได้ พฤษภาคุณก็ทวงไม่ได้ เพราะนิรโทษหมดสองฝ่ายแล้ว มีแต่ของคนเสื้อแดง มันไม่นิรโทษเพราะเขาย่ามใจมากว่าไอ้พวกนี้มันตายกับติดคุกลูกเดียว พวกกูไม่เกี่ยวเลย ประมาณนั้น


เพราะฉะนั้น นี่ก็เลยอยากจะเพิ่มเติมลักษณะพิเศษ แล้วอยากจะเรียนว่า เราไม่รู้ว่ารัฐบาลนี้และรัฐบาลต่อไปจะทำอะไรได้มากแค่ไหน แต่สิ่งที่เราทำคือรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ทั้งหมดซึ่งพี่น้องประชาชนสามารถซื้อหนังสือที่เราจำหน่ายอยู่ข้างหน้าได้ ลดราคาแล้วก็แถมหนังสือของมูลนิธิวีรชน แล้วก็แถมหนังสือโรงเรียนการเมืองนปช. ในราคาพิเศษ ในนั้นเราจะมีข้อมูลทั้งหมดว่าใครตาย แล้วมีคำสั่งศาล 17 คน ว่ากระสุนมาจากเจ้าหน้าที่ แล้วพอหลังรัฐประหาร กระสุนไม่รู้มาจากไหนเลย ทั้ง ๆ ที่ตายในที่และเวลาเดียวกัน นี่ยกตัวอย่างเป็นต้นอย่างเช่น ฮิโรยูกิ แล้วนี่จึงเป็นเหตุที่ว่า หนังสือเราต้องการทำเพื่อฟ้องร้องประชาชน เราพิมพ์ครั้งแรกเราไม่แน่ใจว่าเราจะขายได้มาก เราพิมพ์เพียง 1,500 เล่ม แต่ต้องขอบคุณมีคนมาซื้อเมื่อกี้ คนเดียวสั่ง 100 เล่มเลย ก็ต้องขอขอบคุณ หนังสือเล่มนี้จะเป็นการเปิดเผยตัวเลขต่าง ๆ ทั้งหมด คุณไม่ต้องไปรอดูผลเจ้าหน้าที่ เมื่อกี้ได้ยินเลขาต๋อมบอกว่าถามไปทางหน่วยงานต่าง ๆ บอกคุณไม่ต้องไปถามเลย คุณอ่านหนังสือที่เราทำ นี่แหละอัพเดทที่สุด เพราะเราไปติดต่อมาหมดแล้ว ข้อมูลอันนี้มันใช่เลย เราจึงจำเป็นต้องต่อสู้ทุกทาง


แล้วในขณะนี้จาก 8 ข้อเรียกร้อง สำหรับคนเสื้อแดงเหลือ 3 ข้อ เราบอกรัฐบาลเหลือข้อเดียวก็ยังเอาวะ! ข้อ 1 ก็คือตั้งคณะกรรมการเร่งรัดตรวจสอบคดีความซึ่งต้องไต่สวนชันสูตรพลิกศพตามกฎหมายภายใน 30 วัน นี่ 14 ปีมันยังไม่ทำเลย แล้วทหารตายมันยังไม่สนใจ เพราะฉะนั้นี่เป็นข้อเรียกร้องตามกฎหมาย ส่วนข้อ 2 เราก็ฝากพรรคก้าวไกลและเพื่อไทยที่ยังเหลืออยู่ ณ ตอนนี้ว่า ต้องแก้ไขกฎหมายให้ทหารและนักการเมืองที่ทำความผิดทางอาญาต่อประชาชนให้ขึ้นศาลแบบประชาชนธรรมดาค่ะ อันนี้พอเราส่งไปการเมือง ป.ป.ช.บอกไม่เอา ทำตัวเป็นศาล พอส่งไปทางอัยการทหาร บอกไม่เอา ยกฟ้อง


ดังนั้น ทั้งทหารและนักการเมืองมันก็คือประชาชนี่แหละ เมื่อทำความผิดทางอาญาก็ขึ้นศาลเหมือนประชาชนทั่วไป มันถูกหรือเปล่าล่ะพี่น้อง ดังนั้นเราจึงขอฝากกับพรรคการเมืองว่าในการแก้กฎหมายอันนี้มันต้องสามัคคีกัน เราทำเพื่ออนาคต ไม่ใช่ทำเฉพาะเพื่อครอบครัวที่นั่งอยู่แถวนี้ แต่นี่คือเพื่อประเทศชาติ ไม่ให้มาฆ่ากันฟรี ๆ ถ้าทหารถูกนำขึ้นศาลแล้วถูกตัดสิน มันจะได้ไม่ต้องเชื่อนายมันอีกในอนาคตถ้าเขาสั่งให้ไปยิงประชาชน เพราะมันต้องขึ้นศาลด้วย เจ้านายก็คุ้มหัวไม่ได้ นี่คือสิ่งที่เราต้องทำ


ส่วนข้อไป ICC เราไม่หวังว่ารัฐบาลชุดนี้จะทำอะไรได้ เพราะว่าเรารู้ว่าเขาอยู่ในภาวะซึ่งทำได้เฉพาะที่ได้รับอนุญาตให้ทำเท่านั้น อาจารย์คิดอย่างนั้นนะ เราเข้าใจ แต่ว่าในการต่อสู้ของประชาชนนั้นต้องเดินต่อไปแม้นจะยากลำบาก


สุดท้าย ดิฉันก็ต้องขอขอบพระคุณทุกท่านมา ณ ที่นี้ แต่ขอบอกให้รู้ว่านี่ไม่ใช่งานเช็งเม้ง นี่ไม่ใช่งานรำลึกวีรชนเฉย ๆ แต่นี่มันเป็นงานที่ต้องการให้ประวัติศาสตร์ประเทศนี้ ทหารและรัฐบาลเผด็จการจะมาฆ่าประชาชนฟรี ๆ ตายกลางถนนไม่ได้อีกต่อไปค่ะ ขอบคุณค่ะ


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #คปช53 #คนเสื้อแดง