วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2567

คปช.53 ยื่นหนังสือถึง'หัวหน้าพรรคก้าวไกล' เชิญร่วมเสนอปฏิบัติการของพรรคการเมืองเพื่อคืนความยุติธรรมให้แก่ผู้ถูกปราบปรามในห้วงเวลาเมษา - พฤษภา53 ในงานรำลึกสดุดีวีรชนวันที่ 10 เม.ย. 67

 


คปช.53 ยื่นหนังสือถึง'หัวหน้าพรรคก้าวไกล' เชิญร่วมเสนอปฏิบัติการของพรรคการเมืองเพื่อคืนความยุติธรรมให้แก่ผู้ถูกปราบปรามในห้วงเวลาเมษา - พฤษภา53 ในงานรำลึกสดุดีวีรชนวันที่ 10 เม.ย. 67


วันนี้ (4 เม.ย. 67) เวลา 12.15 น. ที่รัฐสภา นพ.เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำคณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 (คปช.53) ยื่นหนังสือถึงนายชัยธวัช ตุลาธน สส. บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงเชิญพรรคก้าวไกลเพื่อร่วมงานรำลึกและสดุดีวีรชนวันที่ 10 เมษายน 2567 ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา และร่วมเสนอปฏิบัติการของพรรคการเมืองเพื่อคืนความยุติธรรมให้แก่ผู้ถูกปราบปรามในห้วงเวลาเมษา-พฤษภา 2553 และการสร้างการเมืองในระบอบประชาธิปำตย ที่อำนาจเป็นของประชาชนจริง 


นพ.เหวง กล่าวว่า วันนี้มาด้วยจุดมุ่งหมายประการสำคัญที่สุดก็คือเชิญพรรคก้าวไกลไปร่วมงาน 14 ปี 10 เมษา ของวีรชน ประชาธิปไตยประชาชน พร้อมกันนี้ก็อยากจะฝากภารกิจในการทวงความยุติธรรมให้กับวีรชนเมษา-พฤษภา ปี 53 ด้วย ภารกิจทวงความยุติธรรมที่อย่าไปมองผิวเผินเพียงแค่ทวงความยุติธรรมให้กับประชาชนซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ถ้าเราสามารถเอาทหารที่ฆ่าประชาชนสองมือเปล่าเพียงแต่เขามีความคิดทางการเมืองที่แตกต่างกัน รวมไปถึงหัวหน้าพวกเขาที่สั่งฆ่าได้ซึ่งถ้าทำได้ประเทศไทยจะไม่มีการฆ่าคนกลางถนนสองมือเปล่าอีกต่อไป


เพราะฉะนั้น จึงเป็นภารกิจที่สำคัญมากที่อยากจะฝากพรรคก้าวไกลทำให้สำเร็จถึงแม้จะอยู่ในสถานะของการเป็นฝ่ายค้านก็ทำได้ไม่ว่าผลักดันให้เกิดคณะกรรมการในการที่จะไต่สวนคดีอีก 62 ศพ ย้ำว่าอีก 62 ศพไม่มีการไต่สวน ผิดประมวลวิอาญามาตรา 150 ชัดเจน ในกรณีความฝ่ายที่เกิดขึ้นจากเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องชันสูตรพลิกศพ แล้วก็ยื่นศาลให้มีคำสั่งการตายภายใน 30 วันและขยายเวลาได้ 2 ครั้ง รวมทั้งสิ้นเป็น 90 วัน แต่ 14 ปีแล้ว จึงขอฝากภารกิจใก้ฝ่ายค้าน ในสภาท่านก็สามารถนำเรื่องนี้ไปอภิปรายได้ ที่สำคัญที่สุดก็คือว่าพรรคฝ่ายค้าน สามารถนำเสนอการแก้กฎหมายก็คือทหารที่ทำผิดอาญาต่อพลเรือนต้องขึ้นศาลพลเรือนเพราะว่ากรณีของเมษา-พฤษภาปี 53 DSI ได้เดินเรื่องไปยังศาลทหาร ซึ่งการเดินเรื่องไปทางศาลทหาร ต้องผ่านไปที่อัยการทหารปรากฏว่าทางอัยการทหารปัดตกหมด คือไม่ส่งฟ้อง เพราะฉะนั้นถ้าหากยังเดินไปอย่างนี้เรื่อย ๆ ทุกคดีก็จะต้องถูกปัดตก


เพราะฉะนั้นจึงต้องฝากเป็นภารกิจของพรรคก้าวไกลก็คือการไปแก้พระธรรมนูญศาลทหาร รวมไปถึงกรณีนักการเมืองที่ทำผิดอาญาต่อพลเรือนก็ควรจะต้องขึ้นศาลพลเรือนปกติ ถ้าหากว่าไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งด้วยการเมือง ความผิดที่ได้รับจะไม่ได้สัดส่วน โทษที่ได้รับนั้นจะไม่ได้สัดส่วนกับความผิด 


อีกเรื่องหนึ่งที่ประทับใจมาตั้งแต่สมัยที่ก้าวไกลหาเสียงระหว่างเลือกตั้งก่อนหน้า 14 พฤษภาคม ปี 2566 ก็คือก้าวไกลประกาศชัดว่าก้าวไกลลงนามรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศเฉพาะกรณีเมษา - พฤษภาปี 53 ขีดเส้นใต้เฉพาะกรณีเมษา-พฤษภา ปี 53เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกี่ยวข้องก็คือศอฉ.และรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับส่วนอื่นใด ๆ เพราะฉะนั้นอย่าไปโยงถึงสถาบัน ไม่เกี่ยวเลย


พวกเราคณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 รวมทั้งพี่น้องประชาชนทั้งประเทศเห็นความสำคัญในการที่จะเอาทหารที่ยิงประชาชนสองมือเปล่าและคนสั่งฆ่ามารับโทษทางกฎหมาย ดังนั้นวันนี้เราก็เลยมายื่นกับทางสส.โรม และสส.พรรคก้าวไกลทุกท่าน เพราะฉะนั้นก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไปร่วมงาน และก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งที่เราฝากความหวังไว้นี่คงจะได้รับการตอบสนองเพราะสิ่งที่เราฝากความหวังนี้เป็นความประสงค์ของพี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทั้งประเทศ นพ.เหวง กล่าว


ด้านโรม กล่าวว่า เหตุการณ์เมื่อปี 2553 เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญอย่างยิ่ง เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น หลายคนในพรรคก้าวไกลก็อยู่ตรงนั้นและเห็นกับตาว่าเกิดอะไรขึ้น ตนเองขณะนั้นอายุยังน้อยยังเรียนหนังสือก็ติดตามผ่านสื่อ และเห็นว่ามีความรุนแรงที่เกิดขึ้นในใจกลางเมือง และเป็นสิ่งที่สร้างบาดแผลให้กับสังคมไทย ว่ามีการฆ่าประชาชนมือเปล่า ประชาชนผู้ออกมาต่อสู้เรียกร้องตามสิทธิในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งไม่ควรจะถูกกระทำแบบนั้นแต่มันก็ได้เกิดขึ้นแล้ว และเราก็รอคอยในเรื่องของความยุติธรรมมาโดยตลอด


พรรคก้าวไกลยืนยันกับสังคมมาโดยตลอดว่าเหตุการณ์ปี 2553 เราจำเป็นต้องคืนความยุติธรรมให้กับคนเสื้อแดง และต้องแสวงหาความจริง และต้องนำผู้ที่กระทำความผิด เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มาดำเนินการตามกฎหมาย


เพราะถ้าหากสร้างความยุติธรรมไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เลยที่สังคมไทยจะกลับมาสามัคคีปรองดองได้


เวลาเราดูประสบการณ์จากหลาย ๆ ประเทศ ที่เขาหาทางออกจากความขัดแย้งของสังคม หาทางออกของความแตกแยกที่เกิดขึ้น ในแต่ละประเทศนั้นเริ่มต้นด้วยความเป็นธรรม เริ่มต้นด้วยความยุติธรรม ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องหากลไกที่จะต้องคืนความเป็นธรรมให้ได้


ซึ่งคิดว่าจุดเริ่มต้นก็คือการที่มีเจตจำนงทางการเมือง ที่จะคืนความเป็นธรรมให้กับพี่น้องชาวเสื้อแดง


สำหรับงานที่จะจัดรำลึกในวันที่ 10 เมษายนที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาคมนั้นตนเองก็จะประชาสัมพันธ์ให้กับเพื่อน ๆ สส. ในพรรค และหวังว่าเราจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรำลึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในครั้งนี้ด้วย


โดยโรมได้กล่าวทิ้งท้ายว่า พรรคก้าวไกลยืนยัน ให้ความสำคัญกับเหตุการณ์นี้มากจริง ๆ และจะร่วมผลักดันตามข้อเรียกร้องของคปช.53 เพื่อคืนความยุติธรรมให้กับกรณีดังกล่าว และหลังจากนั้นนพ.เหวง ได้จัวมือแลกับโรม เพื่อส่งมอบกำลังใจ


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #คนเสื้อแดง #คปช53 #พรรคก้าวไกล