วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

“ณัฐวุฒิ” ชี้! ส.ว. ชุดนี้ชัดเจนเปิดเผยดี ในสายตาเห็นแต่ “ประยุทธ์กับประวิตร” ไม่เคยเห็นหัวประชาชน!

 


“ณัฐวุฒิ” ชี้! ส.ว. ชุดนี้ชัดเจนเปิดเผยดี ในสายตาเห็นแต่ “ประยุทธ์กับประวิตร” ไม่เคยเห็นหัวประชาชน!

 

เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ได้กล่าวผ่านยูทูป ทางช่อง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ Official ในประเด็น “ส.ว.พอเถอะ ก้มหัวให้ 3ป. ไม่เห็นหัวประชาชน” โดยนายณัฐวุฒิ กล่าวในรายการว่า

 

วินาทีที่ผมกำลังบันทึกเทปอยู่นี้ ในสภามีการอภิปรายรัฐบาลโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ท่ามกลางกระแสข่าวก่อนถึงวันอภิปรายว่าจะมีเล่นเกมนับองค์ประชุมให้สภาล่มหรือไม่?

 

ฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแตกนะครับว่าไม่มีสภาล่มในสองวันนี้อย่างแน่นอน อาจจะมีกึกกั๊กยึกยักกันบ้างก็พอหอมปากหอมคอ แต่ในที่สุดการอภิปรายก็จะผ่านพ้นไปด้วยความเรียบร้อยตามเวลาที่ตกลงกันไว้

 

ส่วนใครจะฝากรอยแผลให้กับฝ่ายไหนได้มากกว่า เชื่อว่าวันนี้รัฐบาลเขาไม่สนใจแล้วแหละครับ เพราะว่ารัฐบาลชุดนี้พันธุ์หนา หนาทั้งหน้า หนาทั้งตัวและหัวใจ รอไปวัดผลกันในสนามเลือกตั้งทีเดียวล่ะครับ อาจจะเหลือแค่วันเดียวแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ถึงตัดสินใจยุบสภาก็เป็นได้ แต่เชื่อว่ายังไงก็ยุบสภาแน่ ๆ

 

แต่หลังจากจบการอภิปรายตามมาตรา 152 ขอให้พี่น้องประชาชนโบกมือบ๊ายบายบอกลาสภาชุดนี้ได้เลยนะครับ ไม่ได้หมายความว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะยุบสภาทันที แต่ผมเชื่อว่าสภาชุดนี้จะไม่สามารถเดินการประชุมพิจารณาผ่านร่างกฎหมายได้อีกแล้ว มันก็จะค่อย ๆ ล่มไปเรื่อย ๆ ทุกนัดจนหมดวาระไปเองในวันที่ 28 กุมภาพันธ์

 

ก็ ส.ส. ที่ไหนเขาจะมีแก่ใจมาประชุมแล้วล่ะครับ เดี๋ยวนี้ทุกคนหัวใจอยู่ในพื้นที่ ไปพบปะประชาชน ไปหาเสียงกันอยู่โน่น ขนาดที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเขายังลาการประชุมไปหาเสียงกันเลย

 

วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร เลิกเล่นซ่อนหากันแล้วนะครับ แต่ถึงขั้นซ่อนหน้าไม่ให้เห็นกันในที่ประชุมแล้ว นัดล่าสุดประชุมครม. พล.อ.ประวิตร ลากิจสำคัญไปขึ้นรถแห่พื้นที่กทม. เลือกเขตเอาเคล็ดเอาฤกษ์เอาชัยเสียด้วย ที่เขต “ป้อมปรามศัตรู่พ่าย”  8 ปีแล้วนะไอ้...

 

เกิดมาเพิ่งเคยเห็นนี่แหละครับว่ารองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลที่อยู่ด้วยกันมายาวนาน 8 ปี ลาประชุมครม.ไปขึ้นรถแห่หาเสียง แข่งกับนายกรัฐมนตรีของตัวเอง

 

พี่น้อง 2ป เขาแข่งกันจริงแล้วล่ะครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะห้ำหั่นเอาเป็นเอาตายจนกลายเป็นศัตรู เขาเพียงแค่แย่งกันเป็นที่หนึ่งในฝ่ายอนุรักษ์นิยมเพื่อชิงชัยเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น หมายความว่าแม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นเต็งหนึ่งในซีกรัฐบาลปัจจุบัน แต่ถ้าเลือกตั้งแล้ว “พลังประชารัฐ” ได้มากกว่า “รวมไทยสร้างชาติ” อย่านึกว่า พล.อ.ประวิตร จะยอมง่าย ๆ

 

ส่วน “ภูมิใจไทย” แม้จะถูกมองว่าอาจเป็นพรรคอันดับหนึ่งในบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน แต่โอกาสจะเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ง่ายนะครับ จะข้ามลุงตู่ ลุงป้อมไป ผมว่าเหนื่อยเต็มทน

 

ในทางยุทธศาสตร์วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์และชาวคณะ เลือกวางตำแหน่งตัวเองที่ปีกขวาสุดแทนที่ “พรรคประชาธิปัตย์” เป็นตัวเลือกของฝ่ายอนุรักษ์นิยม 100% ส่วน พล.อ.ประวิตร ก็เลือกยืนอยู่ฝั่งขวา แต่พยายามจะหุบเข้ามาใกล้ ๆ กลางสนาม

 

การเมืองในบรรยากาศเลือกตั้งช่วงนี้ยังไม่มีอะไรล่ะครับ เป็นเรื่องของการเปิดตัวผู้สมัคร ลงพื้นที่พบปะประชาชน เปิดตัวนโยบาย ปราศรัย อาจจะมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ลำหักลำโค่นยังไม่มี ลูกหนัก ๆ ต้องรอหลังการยุบสภาครับ

 

แต่สิ่งที่ฮือฮาและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันทั่วบ้านทั่วเมืองวันนี้ก็คือท่าทีของส.ว.บางคนนะครับที่ประกาศชัดถึงขั้นว่า ต่อให้เพื่อไทยแลนด์สไลด์ได้เสียงเกินครึ่งก็จะไม่โหวตให้ “แพทองธาร ชินวัตร” ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี

 

ที่จริงทางพรรคเพื่อไทยเขาก็ยังไม่ได้ประกาศนะครับว่า 3 รายชื่อของแคนดิเดตนายกฯ อย่างเป็นทางการจะเป็นใครบ้าง และถ้ามีรายชื่อคุณแพทองธาร จะเป็นลำดับ 1 ของว่าที่นายกรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งก็ต้องติดตามหลังยุบสภากันต่อไป

 

แต่การออกมาชักธงแบบนี้ของสมาชิกวุฒิสภาที่ ประวิตรเลือก ให้ประยุทธ์ตั้ง คือความพยายามสร้างเงื่อนไขใหม่ทางการเมือง เพิ่มแรงเสียดทานเข้าไปในสถานการณ์ และอาจจะบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งใหญ่หลังการเลือกตั้งขึ้นมาได้

 

ลึกสุดใจของคนกลุ่มนี้ก็คือไม่เคยเคารพ ไม่เคยศรัทธาต่ออำนาจอธิปไตยของประชาชน วางตัวเองอยู่เหนือคนผู้เป็นเจ้าของประเทศ ไม่ว่าประชาชนส่วนใหญ่จะตัดสินใจมาอย่างไร ต้องถามใจคน 250 คนเท่านั้น!

 

ซึ่งผมฟันธงว่าไม่ได้ตัดสินใจโดยอิสระ แต่ตัดสินใจโดยรอสัญญาณคำสั่งจากคนที่ตั้งพวกเขามานั่นเอง พูดออกมาชัดขนาดนี้จึงมีทางเดียวครับ ฝ่ายประชาธิปไตยต้องได้ชัยชนะเด็ดขาดในสนามเลือกตั้ง ให้เกินครึ่งในสภาผู้แทนราษฎร

 

ส.ว.จะมาตั้งโจทย์ใหม่ว่าต้องรวมกันให้ได้ 376 ที่นั่ง ผมไม่เชื่ออย่างนั้นนะครับ ผมอยากจะเห็นหน้าเหมือนกัน ว่าถ้าฝ่ายประชาธิปไตยเขายืนหนึ่งเกินครึ่งมาก่อน ส.ว.คนไหนบ้างจะโหวตสวนฉันทามติของประชาชน

 

ปล่อยวางกันบ้างเถอะครับ “เจ้านาย” ที่ตั้งท่านมา ในสายตาประชาชนเละไม่มีชิ้นดีอยู่แล้ว จะอุ้มจะแบกจะหามกันไปถึงไหน? แต่ถ้าพวกเขาทำได้ หมายถึงเอา พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเป็นนายกฯ หลังการเลือกตั้งได้อีกครั้ง ฟันธงได้ต่อเลยนะครับว่าการแก้รัฐธรรมนูญ ปลดล็อคนายกฯ 8 ปี พวกเขาทำแน่ ๆ

 

ความคิดของส.ว.กลุ่มนี้ชัดเจนเปิดเผยดีนะครับว่าในสายตาเห็นแต่ พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร เท่านั้น แต่ไม่เห็นหัวประชาชน!!!

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ณัฐวุฒิใสยเกื้อ #ประยุทธ์