วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

เด็กหญิงวัย 14 ปี รับหมายเรียก ม.112 รายงานตัวที่ สน.สำราญราษฎร์ 15 ก.พ. นี้

 


เด็กหญิงวัย 14 ปี รับหมายเรียก ม.112 รายงานตัวที่ สน.สำราญราษฎร์ 15 ก.พ. นี้


วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ธนลภย์ (สงวนนามสกุล) หรือสหายนอนน้อย เด็กหญิงวัย 14 ปี สมาชิกกลุ่มนักเรียนล้มฯ ได้รับหมายเรียกในข้อกล่าวหา มาตรา 112 จาก สน.สำราญราษฎร์ โดยมีอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เป็นผู้กล่าวหา


อย่างไรก็ตาม ในหมายไม่ได้ระบุพฤติการณ์อันเป็นที่มาที่ทำให้ถูกดำเนินคดี เพียงแต่ระบุว่าเหตุเกิดเมื่อ 14 ต.ค. 2565 บริเวณเสาชิงช้า


หมายเรียกออกวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมี ร.ต.อ.โยธี เสริมสุขต่อ รองสารวัตรสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ เป็นผู้ออกหมาย โดยระบุว่าให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา มาตรา 112 ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ เวลา 10.00 น.


ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ 'ธนลภย์' (สงวนนามสกุล) หรือ 'สหายนอนน้อย' ถึงหมายเรียกคดีดังกล่าว ซึ่งเธอระบุว่ามีคนนำหมายเรียกมาติดที่หน้าบ้าน เมื่อ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา


ก่อนหน้านี้ตำรวจเคยนำหมายเรียกมาให้ที่บ้านแล้วครั้งหนึ่ง ลงวันที่ 23 ม.ค. 2566 แต่ข้อมูลรายละเอียดผิด จึงทางครอบครัว และเยาวชน จึงให้ทางเจ้าหน้าที่กลับไปแก้ไข และเอาหมายกลับมาให้อีกครั้ง


สหายนอนน้อย ระบุว่า เบื้องต้น เธอไม่กังวลเรื่องการถูกดำเนินคดี แต่ค่อนข้างเป็นห่วงเรื่องการเรียนมากกว่า ดังนั้น การรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 15 ก.พ.นี้ เธอจะขอเลื่อนออกไปก่อน


สำหรับผลกระทบจากการถูกดำเนินคดี เธอตอบว่าไม่กังวล และทบทวนล่วงหน้ามาดีแล้ว ส่วนครอบครัวมีกังวลบ้าง แต่ให้สิทธิลูกสาวเต็มที่ในการตัดสินใจต่อสู้คดี


เยาวชนวัย 14 ปี กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า เธอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันข้อเรียกร้อง 3 ข้อของทะลุวัง และสิทธิการประกันตัวทางการเมืองให้กับผู้ถูกคุมขังทางการเมืองทุกคน เพราะมองว่า หลังจากสมาชิกผู้แทนราษฎรปราศรัยในประเด็นนี้ในสภาแล้ว รู้สึกกระแสเงียบลงไป เลยอยากออกมาช่วยผลักดัน


สำหรับข้อเรียกร้อง 3 ข้อทะลุวัง ประกอบด้วย 1. ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมให้ปราศจากอิทธิพลจากภายนอก และให้มีความเป็นกลางอย่างแท้จริง 2. ยุติการดำเนินคดีทางการเมืองกับผู้ถูกกล่าวหาทุกคน และ 3. พรรคการเมืองทุกพรรคต้องมีนโยบายรับประกันสิทธิเสรีภาพการแสดงออกของประชาชน โดยการยกเลิก มาตรา 112 และมาตรา 116


ในประเด็นมาตรา 112 ที่เยาวชนอายุ 14 ปี ได้รับผลกระทบโดยตรง เธอมองว่า ตัวบทกฎหมายมีปัญหาเนื่องจากมีโทษที่แรงเกินไป ใครสามารถแจ้งความผิดก็ได้ เป็นกฎหมายที่ปิดปากประชาชน และลิดรอนสิทธิเสรีภาพ


"สำหรับพรรคการเมือง หนูอยากให้นโยบายการแก้ไข 112 เป็นยกเลิก 112 มากกว่า การแก้ไข สมมติว่าคุณได้จัดตั้งรัฐบาล หรือว่าคุณไม่แก้ไขในสมัยของคุณ ในสมัยอื่นๆ หรือถ้าเกิดรัฐประหาร สุดท้าย แก้ไขไม่ได้ยกเลิก มันก็พร้อมจะถูกแก้ใหม่ ซึ่งการแก้นั้นอาจจะโทษร้ายแรงกว่าเดิมก็ได้ การแก้ไขไม่ได้เป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน แต่การยกเลิกเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ถ้าพรรคการเมือง จะเข้าไปในสภา อยากให้พรรคการเมืองมีความชัดเจนในการยกเลิก 112" สหายนอนน้อย กล่าวถึงข้อเรียกร้องถึงพรรคการเมือง แม้ว่าตัวเองจะอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ใช้สิทธิการเลือกตั้ง


สุดท้าย สหายนอนน้อย อยากฝากข้อความถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ว่า สถาบันต้องรับฟังเสียงของประชาชน และอยู่ใต้กฎหมาย


"อยากให้คนสนใจประเด็นนี้ อยากให้กษัตริย์อยู่ภายใต้กฎหมาย อยากให้ศาลและตำรวจพิสูจน์ว่าตัวเป็นองค์กลางอย่างแท้จริง" เยาวชนวัย 14 ปี กล่าว


ก่อนที่ตัวเธอจะได้รับหมายเรียกจากทางสถานีตำรวจสำราญราษฎร์ สหายนอนน้อย เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคุกคามด้วยกันอย่างน้อย 3 ครั้ง เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2565 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาหาที่บ้านของเธอและกล่าวกับสมาชิกครอบครัวเธอทำนองว่าให้พาเธอไปพบจิตแพทย์


ก่อนที่ 7 พ.ย. 2565 ตำรวจมาที่บ้านเธออีกครั้ง และได้คุยกับพ่อของเธอ โดยตำรวจพูดจาทำนองว่า สหายนอนน้อยกำลังถูกดำเนินคดี และพูดจาไม่ดีด้วยว่า 'มีลูกแบบนี้ฆ่าตัวตายดีกว่า' ในวันเดียวกัน ตำรวจมีการไปหาเธอที่โรงเรียน แต่ไม่ได้พบเธอ เนื่องจากถูกทางโรงเรียนปฏิเสธ


สหายนอนน้อย ระบุว่า หลังจากวันที่ 7 พ.ย. 2565 เธอไม่ได้ถูกเจ้าหน้าที่คุกคามเลย


ข้อมูลการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นะบุว่า นับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน (12 ก.พ.) มีเยาวชนและเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี ถูกดำเนินคดีด้วยมาตรา 112 แล้ว อย่างต่ำ 18 ราย จากจำนวน 21 คดี


สำหรับกลุ่มนักเรียนล้มฯ ของสหายนอนน้อยนั้น มีเป้าหมายทางการเมือง 3 ข้อ คือข้อ 3 ไฟเย็น เปิดเสรีกัญชา และเด็กอายุ 15 ปี ควรมีสิทธิเลือกตั้ง


ที่มาข่าว https://prachatai.com/journal/2023/02/102743


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #มาตรา112