ตะวัน-แบม
ผิดหวังเพื่อนไม่ได้รับสิทธิประกันตัว พรุ่งนี้ทนายจะยื่นประกันอีกครั้ง
ทั้งสองขีดเส้น 3
วัน หากไม่ได้รับการตอบรับ ขอออกจาก รพ. หาที่เหมาะสม
อดอาหาร-น้ำต่อ โดยยืนยันข้อเรียกร้องเดิม
วันนี้
(8 ก.พ. 66) เวลา 15.30 น.
ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส
ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
แถลงอาการและการตัดสินใจล่าสุดของนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน
และนางสาวอรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม
กฤษฎางค์แถลงว่า
ตะวันและแบม อดอาหารประท้วงเพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวของผู้ต้องหาคดีการเมือง
จนสภาพร่างกายทรุดลงว่า และตามที่เมื่อวานนี้ (7ก.พ.) ศาลอาญากรุงเทพใต้
มีคำสั่งให้ออกหมายปล่อยแบม ส่วนศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ออกหมายปล่อยตะวัน
โดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำหมายปล่อยเข้ามาที่โรงพยาบาลในช่วงค่ำ
ทั้งนี้
ศาลไม่ได้กำหนดเงื่อนไขใด ไม่มีหลักประกัน ไม่สั่งติดกำไลอีเอ็ม ไม่ห้ามออกจากบ้าน
เพียงแต่ให้ตะวัน ไปรายงานตัวต่อศาลหลังครบกำหนด 1 เดือน อย่างไรก็ตาม
ขอชี้แจงว่าก่อนหน้านี้ทั้งคู่ได้รับการประกันตัวไปแล้ว และขอถอนประกันตัวเอง
ก่อนประท้วงด้วยการอดอาหาร เพื่อให้ศาลปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีการเมือง
โดยทางรพ.ธรรมศาสตร์
เป็นผู้ทำหนังสือยื่นคำร้องต่อศาลให้ปล่อยตัวตะวันและแบม
โดยแนบรายละเอียดทางการแพทย์ และระบุว่า รพ.ธรรมศาสตร์
ได้รับผู้ป่วยทั้งคู่มาจากรพ.ราชทัณฑ์ ซึ่งทั้งคู่มีอาการวิกฤตอาจเสียชีวิตได้
จึงขอให้ศาล ยึดหลักว่าผู้ต้องหายังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่ตัดสิน
เพราะการรักษาพยาบาลภายใต้เงื่อนไขของกรมราชทัณฑ์
มีผลต่อสภาพจิตใจของผู้ป่วย โดยศาลได้อนุมัติหมายปล่อย
พร้อมให้เหตุผลเห็นพ้องตามที่โรงพยาบาลร้องขอ ดังนั้นจากนี้
กรมราชทัณฑ์จะไม่สามารถมาควบคุมตัวทั้งคู่ได้ นอกจากจะมีหมายจับเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม
หลังจากที่ ตะวันและแบมได้ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ทั้งสองรู้สึกผิดหวังที่ศาลไม่ได้ให้สิทธิประกันตัวนักโทษทางการเมือง
โดยกำหนดแนวทางการต่อสู้ว่า
จากวันนี้จะขอให้ทนายความยื่นประกันตัวนักกิจกรรมทางการเมืองที่ยังอยู่ในเรือนจำโดยไม่ได้รับสิทธิประกัน
ซึ่งทางทีมทนายจะดำเนินการในวันพรุ่งนี้ ส่วนคนที่ศาลให้ยื่นเอกสารเพิ่มเติม
ทางทีมทนายก็จะดำเนินการต่อไป
กฤษฎางค์
ได้เปิดเผยต่อว่า โดยระหว่างนี้ทั้งสอง จะไม่รับอาหาร-น้ำ หรือรับยาต่อไป
และรอสิ่งที่ทางทนายไปดำเนินการให้ ตะวันและแบมระบุว่าหากครบ 3 วัน
แล้วยังไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ ทั้งคู่ตัดสินใจว่าจะออกจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ฯ
ด้วยความเกรงใจ และขอขอบคุณโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ที่คอยช่วยเหลือและรักษา
เพื่อหาที่เหมาะสม อดอาหารและน้ำต่อไป เพื่อที่จะต่อสู้ในวิถีทางของตัวเอง
โดยยืนยันข้อเรียกร้องเดิม
เนื่องจากทั้งคู่มองว่าศาลอาจเข้าใจถึงเจตนารมย์การอดอาหารของทั้งคู่ผิด
เพราะไม่ได้ทำเพื่อขอประกันตัวเอง แต่ขอให้ปล่อยผู้ต้องหาคดีการเมืองรายอื่น
ยอมรับว่าตนเองเป็นห่วงทั้งสอง หลังอดอาหารและน้ำ กฤษฎางค์ กล่าว