วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

“ทนายด่าง” แถลง พรุ่งนี้ “ตะวัน-แบม” จะขออนุญาตปธ.ศาลฎีกา เข้าไปอดอาหารด้านในศาล เหตุมีอันตราย! มือดีป่วนขว้างสิ่งของใส่เต็นท์ตอนดึก

 


“ทนายด่าง” แถลง พรุ่งนี้ “ตะวัน-แบม” จะขออนุญาตปธ.ศาลฎีกา เข้าไปอดอาหารด้านในศาล เหตุมีอันตราย! มือดีป่วนขว้างสิ่งของใส่เต็นท์ตอนดึก


วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 16.00 น. นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในฐานะทนายความของ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และแบม อรวรรณ ภู่พงษ์ พร้อมด้วยพ่อ-แม่ของทั้งสอง ได้ออกมาเปิดเผยอาการของทั้งสองคนว่า ในตอนนี้ไม่สามารถออกมาแถลงการด้วยตนเองได้ เนื่องจากสภาพร่างกายไม่แข็งแรง และจำเป็นต้องพักผ่อน


ซึ่งวันนี้มี 2 หัวข้อในการแถลง คือเรื่องอาการของน้องทั้งสอง ว่าในตอนนี้มีสภาพร่างกายผอมแห้งและไม่มีเรี่ยวแรง อยู่ได้เพราะสารอาหารผ่านทางน้ำเกลือ ซึ่งน้องทั้งสองอดอาหารมาตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค. 2566 จนถึงตอนนี้รวมแล้ว 38 วัน หมอจากรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ  จึงมีความเห็นว่าควรส่งตัว “ทานตะวันและแบม” กลับเข้ารักษาตัวที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ โดยทันที เนื่องจากตอนนี้ไม่สามารถกินอาหารปกติได้และรับสารอาหารผ่านทางน้ำเกลือได้น้อยลง บวกกับสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ที่ไม่อำนวยความสะดวก ทำให้ร่างกายของทั้งสองแย่ลง


จากการถามตัวน้องทั้งสอง ไม่ยอมกลับเข้ารพ.และจะเดินหน้าอดอาหารอยู่ที่หน้าศาลฎีกาต่อตามที่ตั้งใจไว้  หลังทราบว่านายถิรนัยและนายชัยพร ผู้ต้องขังที่ถูกศาลชั้นต้นจำคุก 3 ปี ในคดีหมิ่นสถาบัน ไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวเมื่อเช้านี้ ส่วนนายคทาธร ผู้ต้องขังอีก 1 คนที่ถูกดำเนินคดีเดียวกัน ศาลอยู่ระหว่างสืบเสาะเงื่อนไขในการให้ประกันตัว


โดยน้องทั้งสองคนกล่าวว่า สิ่งที่ทำไม่ใช่แค่ต้องการให้ปล่อยตัวเพื่อนผู้ต้องขังคดีการเมือง แต่ต้องการเรียกร้องหลักการที่ถูกต้อง คือ ผู้ต้องหาคดีอาญาให้ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด


โดยพรุ่งนี้จะยื่นหนังสือต่อประธานศาลฎีกา ขออนุญาตเข้าไปอดอาหารที่บริเวณอนุสาวรีน์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ซึ่งอยู่ภายรั้วของศาลฎีกา ด้วยเหตุผลว่า


1. เป็นที่โล่งไม่กีดขวางใคร คืนพื้นที่หน้าศาลฎีกาเพื่อความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ศาลฎีกาและประชาชนผู้ที่มาติดต่อราชการ

2. มีกระแสข่าวถึงความไม่ปลอดภัย มีการโทรมาข่มขู่ทนายความและเพื่อน ๆ ของ “ตะวัน-แบม” จากบุคลที่ไม่รู้จักมาก่อกวน โดยช่วงกลางคืนมีคนขี่รถจักรยานยนต์ปาสิ่งของเข้ามาบริเวณเต็นท์ที่น้องทั้งสองพักอยู่

3. บริเวณอนุสาวรีย์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ เป็นอนุสรณ์ของการต่อสู้ของนักศึกษาที่ต่อสู้กับเผด็จการทหารเพื่อความเป็นอิสระของตุลาการเมื่อปี 2515


นายกฤษฎางค์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า พรุ่งนี้หาก “ตะวัน-แบม” เดินไหว ทั้งสองจะเดินเข้าไปขออนุญาตประธานศาลฎีกาด้วยตนเอง หากเดินไม่ไหวก็คงจะให้เพื่อน ๆ เข้าไปยื่นหนังสือแทน ขอให้ประธานศาลฎีกาส่งเจ้าหน้าที่มารับหนังสือของเด็กด้วย


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ตะวันแบม #คืนสิทธิประกันตัว