“กิตติ์ธัญญา” อัด “ประยุทธ์” ไม่จริงใจแก้อาชญากรรมทางไซเบอร์ ชี้ 8 ปีล้มเหลว แก้ปัญหายาเสพติด
ยาบ้าเกลื่อนเมืองซื้อง่ายขายคล่องเยาวชนติดยาเสพติดทุกพื้นที่
วันที่
14 กุมภาพันธ์ 2566 นางสาว กิตติ์ธัญญา วาจาดี ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน
พบว่า ในพื้นที่เป็นห่วงปัญหาอาชญากรรม และการแพร่ระบาดของยาเสพติดมากที่สุด เพราะปัจจุบันยาเสพติดหาซื้อง่ายมาก
ราคาถูกมีโปรโมชั่น ทั้งแจก ทั้งแถม เหมือนซื้อขนม ยาบ้ามีขายทุกหมู่บ้าน
ที่เป็นเช่นนี้เพราะรัฐบาล ไม่เอาจริงในการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง จากปัญหาที่เกิดขึ้นเรื่องที่เกิดขึ้น ผู้ปกครองในพื้นที่กังวลมากที่สุด
เพราะขบวนการค้ายาเสพติดระบาด เข้าไปในสถานศึกษาแล้ว
8 ปีที่ผ่านมา ผลงานของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ล้มเหลวการแก้ปัญหายาเสพติดในทุกมิติ เพราะไม่เพียงแต่แก้ไม่ได้
แต่กลับส่งเสริมให้เยาวชนเข้าถึงกัญชาอย่างถูกกฎหมายด้วย จึงเป็นการซ้ำเติมสังคมให้เสพติดหนักขึ้นไปอีก
หากมองด้วยใจเป็นธรรมไร้อคติ จะพบว่านโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลในอดีตตั้งแต่พรรคไทยรักไทยจนมาถึงพรรคเพื่อไทยสามารถแก้ปัญหายาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่งผลให้สังคมปราศจากยาเสพติดที่พี่น้องประชาชนมีรอยยิ้มมีเสียงหัวเราะ
เพราะในช่วงเวลาดังกล่าว ยาบ้าหาซื้อยากมาก รวมทั้งมีราคาสูงมาก เม็ดละ 200-300 บาท ต่างจากยุคพลเอกประยุทธ์ราคายาบ้าอยู่ที่ 5
เม็ด 100 บาท ซื้อไปเสพก่อนจ่ายที่หลังได้
ในฐานะที่พลเอกประยุทธ์กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ไม่เคยมีนโยบายปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง
ส่งผลกระทบกับเยาวชนทั้งประเทศ
นางสาวกิตติ์ธัญญา
กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้พลเอกประยุทธ์ปล่อยปละละเลยธุรกิจสีเทา
ปล่อยให้เกิดการหลอกลวงให้เยาวชนเป็นเหยื่อ กลุ่มพนันออนไลน์
กลุ่มปล่อยเงินกู้นอกระบบ หรือ ที่รู้จักกันว่าแก๊งหมวกกันน็อค
ขบวนการปล่อยเงินกู้ออนไลน์ และแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ จัดว่าเป็นหันตภัยร้ายของสังคมไทย
ล่าสุดเด็กอายุ 14 ปี ตกเป็นเหยื่อแก๊งค์หลอกลวงทางออนไลน์ หลอกให้สมัครงานผ่านระบบโซเชียลมีเดียสูญเงินของครอบครัวไปหลักหมื่น
หาทางออกไม่ได้เลือกจบชีวิตตัวเอง อยากถามพลเอกประยุทธ์จะปล่อยให้ชีวิตคนไทยต้องตกเป็นเหยื่ออีกกี่ชีวิตถึงจะจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงใจ
“ในการอภิปรายตามมาตรา 152 พรรคเพื่อไทย
จะหยิบยกปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มาอภิปรายให้ประชาชนเห็นถึงความร้ายแรงของปัญหาและความล้มเหลวในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นพร้อมแนะวิธีในการแก้ปัญหาว่าต้องทำอย่างไร
ที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ปล่อยให้กลุ่มธุรกิจสีเทาเหิมเกริมทำร้ายสังคมไทย
สร้างความเสียหายทางธุรกิจไม่ต่ำกว่า 300,000 ล้านบาท
พลเอกประยุทธ์มีเครื่องมือในการช่วย เหลือประชาชนมากมาย แต่กลับไม่เลือกใช้
แสดงให้เห็นถึงไม่จริงใจที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
ที่ผ่านมาพฤติกรรมพลเอกประยุทธ์แสดงออกมาชัดเจนว่าต้องการอยู่เพื่ออำนาจ และใช้งบประมาณเพื่อสนองความอยากของตัวเองหรือมากกว่าอยู่เพื่อทำงานให้ประชาชน
หากพลเอกประยุทธ์ยังคิดจะไปต่อทางการเมือง ชีวิตของประชาชนคงหายนะแน่นอน” นางสาวกิตติ์ธัญญา
กล่าว
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย