วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

‘วีระ’ เผย ‘จตุพร’ ต่อสาย ‘แรมโบ้’ ช่วยเคลียร์ กรณีหลอกวิ่งเต้นโครงการรัฐ 600 ล.

 


วีระ เผย จตุพร ต่อสาย แรมโบ้ช่วยเคลียร์ กรณีหลอกวิ่งเต้นโครงการรัฐ 600 ล.


ตามที่เมื่อวานนี้ (3 ก.พ. 2566) นายวีระ สมความคิด พร้อมผู้เสียหาย ได้ไปยื่นหนังสือที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อเปิดเผยพฤติกรรมคนสนิทของพล.อ.ประยุทธ์ ตามที่มีผู้มาร้องเรียนว่าถูกหลอกว่าสามารถวิ่งเต้นให้ชนะการประกวดราคาโครงการของรัฐได้เมื่อปีงบประมาณ 2563 มูลค่าเกือบ 600 ล้านบาท แต่สุดท้ายไม่ชนะการประกวดราคาดังกล่าว แต่เมื่อทวงถามเพื่อขอเงินคืน ปรากฏว่าไม่ได้รับเงินคืน และยังถูกทำร้ายร่างกายอีก


นายวีระ สมความคิด ได้กล่าวว่า “ผมจะมาพบนายเสกสกลที่ทำงาน ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้โอกาสนายเสกสกลเคลียร์คำกล่าวหาต่าง ๆ ที่คุณเอกยื่นให้กับผม ผมบอกล่วงหน้าเลยว่าให้นายเสกสกลเตรียมหลักฐานมาหักล้างข้อกล่าวหา ซึ่งนายเสกสกลรู้หมดแล้วว่าเขาถูกกล่าวหาอะไร ผมถือว่าการตรวจสอบมันต้องเปิดเผย โปร่งใส ตรงไปตรงมา ไม่ใช่ไปเคลียร์กันลับหลัง ไปเคลียร์กันลับหลังแล้วเกิดนายเสกสกุลอุ้มผมไปฆ่าล่ะ ให้ผมไปคนเดียวอย่างงี้ ใครจะรับผิดชอบชีวิตผม หรือว่าไปพบแล้วนายเสกสกลก็เอาไปพูดกับสังคมว่าผมไปตบทรัพย์เขาอีกล่ะ”


นอกจากนี้ นายวีระ เผยอีกว่า “เรื่องนี้คุณเอกเคยเอามายื่นให้ผมแล้วเมื่อปีที่แล้ว กลางเดือนเมษายน 2565 แต่ช่วงนั้นคุณเอกถูกล็อบบี้จากเพื่อน ๆ ของคุณเสกสกล โดยมีการยอมจ่ายเงินคืนให้จำนวนหนึ่ง ก็เลยทำให้คุณเอกพอใจระดับหนึ่ง แล้วคุณเอกก็ยอมที่จะยุติเรื่อง ช่วงนั้นในช่วงต้นเดือนเมษายนปีที่แล้ว 2565 ที่นายเสกสกลถูกกล่าวหาเรื่องคลิปเสียงที่คุยกับคุณจุรีพร สินธุไพร กรณีโควต้าหวยกองสลาก จนทำให้คุณเสกสกลต้องลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในช่วงนั้นแหละที่คุณเอกก็ไปยื่นเรื่องนี้กับนาย ไทกร พลสุวรรณ”


นายวีระ กล่าวอีกว่า “นายไทยกร พลสุวรรณ ก็เตรียมที่จะยื่นเรื่องร้องเรียนทั้งหมดนี้ให้กับท่านเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตของสภาผู้แทนราษฎร แต่ปรากฎว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ ทราบเรื่อง ก็เลยบอกให้นายไทกรหยุด แล้วก็มีการเคลียร์กับนายเสกสกล”


ซึ่งนายเอก (ผู้เสียหาย) ยืนยันว่าผู้เจรจาประกอบด้วย นายไทกร พลสุวรรณ, นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายเสกสกล อัตถาวงศ์ เพื่อให้นายเอกยุติเรื่องร้องเรียน และนำเงินบางส่วนมาคืนที่สถานีโทรทัศน์พีซทีวี นายเอก กล่าว


นายวีระยังกล่าวอีกว่า นายเสกสกลรับปากว่าจะนำเงินส่วนที่เหลือมาคืนให้ แต่นอกจากไม่ชำระเงินส่วนที่เหลือแล้ว นายเสกสกลยังมีพฤติการณ์ที่ไปทำร้ายร่างกายของคุณเอก โดยนายเอกได้ไปดักคอยนายเสกสกลที่พรรครวมไทยสร้างชาติ หรือแม้กระทั่งวันที่เปิดตัว “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งนายเสกสกลให้ลูกน้องมาขอร้องว่าอย่ายื่นหนังสือร้องเรียนและรับปากว่าจะนำเงินมาชำระคืน แต่แล้วก็เบี้ยวเรื่อยมา กระทั่งมาเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ นายเอกกล่าวว่า “เขาก็ทำทีพูดดีกับผม พอผมเผลอก็ล็อคคอผมแล้วก็ต่อยผม แล้วก็ดันผมไปยังลูกน้องเขาแล้วก็สั่งให้ลูกน้องเขาทำร้ายผมต่อ แต่ผมพยายามดิ้นหลุดออกมาแล้วตะโกนให้คนช่วย ผมวิ่งหลุดออกมาได้ แต่เผอิญว่าตรงนั้นไม่มีกล้องวงจรปิดเพราะเป็นโซน VIP หลังเหตุการณ์นั้นแล้วผมก็คิดว่ามันไม่ไหวแล้วครับ จึงนำเรื่องมาแจ้งให้กับพี่วีระ”


ทั้งนี้ นายวีระ ตั้งคำถามถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า “คุณเป็นคนตั้งคน ๆ นี้กลับเข้ามาเป็นที่ปรึกษานายกฯ ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาสังคมก็ไม่เคยเชื่อมั่นในพฤติการณ์ของเขา คุณประยุทธ์จะรับผิดชอบอย่างไร?


สุดท้าย นายวีระกล่าวว่า “ต่อไปนี้ผมจะตามไปทุกที่ที่นายเสกสกลอยู่ นายเสกสกลหลบผมไม่ได้ตลอดหรอกครับ ผมไปตามนี่ไม่ใช่ไปตามหาเรื่องนะ แต่ผมจะไปตามเพื่อต้องการให้โอกาสนายเสกสกลตอบคำถาม เพื่อให้นายเสกสกลพูดความจริง ทางที่ดีออกมาเผชิญหน้ากับความจริง ออกมาเผชิญหน้ากับสื่อมวลชน ตรวจสอบกันต่อหน้าสื่อมวลชน ถ่ายทอดความจริงให้สังคมได้รับรู้พร้อม ๆ กัน นี่คือสิ่งที่ผมต้องการ และผมถือว่านี่คือสิ่งที่สมควร และเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้วในสังคมประชาธิปไตยที่การตรวจสอบเรื่องต่าง ๆ ต้องทำอย่างเปิดเผยโปร่งใสตรงไปตรงมา นายวีระกล่าวในที่สุด


เครดิต : คลิปมติชนทีวี


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์