วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

มืดฟ้ามัวดินขอนแก่นแห่ฟัง ‘แพทองธาร’ ปราศรัยใหญ่ ประกาศ ‘เขตเศรษฐกิจพิเศษขอนแก่น’ จะเกิดขึ้นในรัฐบาลเพื่อไทย ยันไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง ขอคนไทยเลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์

 


มืดฟ้ามัวดินขอนแก่นแห่ฟัง ‘แพทองธาร’ ปราศรัยใหญ่ ประกาศ ‘เขตเศรษฐกิจพิเศษขอนแก่น’ จะเกิดขึ้นในรัฐบาลเพื่อไทย ยันไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง ขอคนไทยเลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์  


วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 พรรคเพื่อไทยจัดปราศรัยใหญ่ ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ ที่ตลาดอู้ฟู้ อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมีแกนนำพรรค ได้แก่ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยครอบครัวเพื่อไทย นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้ง ส.ส.ขอนแก่น และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ได้แก่นายจตุพร เจริญเชื้อ นางมุกดา พงษ์สมบัติ น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร นายวันนิวัติ  สมบูรณ์ นายภาควัต ศรีสุรพล นายพชรกร อรรณนพพร น.ส.วิภาณี ภูคำวงศ์ น.ส.รัมภามาศ ทีฆธนานนท์ นายสิงหภณ  ดีนาง นายสุรพจน์ เตาะเจริญสุข ท่ามกลางประชาชนที่เข้ามาร่วมรับฟังปราศรัยอย่างคับคั่งกว่า 30,000 คน


นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในนามหัวหน้าพรรค ขอประกาศความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งถัดไป ทั้งส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ที่มีความรู้ความสามารถ รวมถึงว่าที่นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย อย่างนาสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่พร้อมจะร่วมมือกันทำตามนโยบายให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมเสนอนนโยบายดีๆ ที่ ‘คิดใหญ่ ทำเป็น’ เพื่อพัฒนาขอนแก่นที่มีความพร้อมเป็นเมืองอัจฉริยะ เพื่อไทยจะขอความร่วมมือชาวขอนแก่นพัฒนาให้ขอนแก่นเป็นเขตเศรษฐกิจใหม่ ศูนย์กลางการค้าของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปลดล็อคข้อกฎหมายให้ผู้ประกอบการรายเล็ก รายกลาง ได้มีโอกาสสร้างพื้นที่เศรษฐกิจ ความพร้อมในระดับท้องถิ่น


“หากคนขอนแก่นอยากมีผู้ว่าราชการจังหวัด จากการเลือกตั้งเพื่อไทยก็พร้อมดำเนินการ โดยจัดทำประชามติในจังหวัดที่พร้อมและต้องการผู้ว่าฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง พร้อมทิ้งท้ายฝากพี่น้องประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทย เลือกนโยบายที่กินได้ เราจะได้มีอนาคตที่สดใสกลับคืนมา” นายแพทย์ชลน่านกล่าว


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ตั้งแต่ในอดีตทุกครั้งที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงด้วยนโยบายที่ตั้งใจคิดเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็น โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค, กองทุนหมู่บ้าน หรือโครงการรถไฟความเร็วสูง ต่างถูกคู่แข่งทางการเมืองดูถูกความเป็นไปได้และเยาะเย้ยว่าคิดการใหญ่เกินไป  แต่พรรคเพื่อไทยมองว่าการคิดเล็กๆ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้ต้อง “คิดใหญ่” เท่านั้น ถึงจะขจัดความจนให้ประชาชนได้ ตั้งแต่รัฐบาลไทยรักไทยจนถึงรัฐบาลเพื่อไทยครั้งก่อน เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่า นโยบาย ‘คิดใหญ่’ ของพรรคเพื่อไทย สามารถทำได้ และอยู่ในใจพี่น้องประชาชนเสมอมา


ทังนี้ ระบบเศรษฐกิจปัจจุบันทำให้พี่น้องเกษตรกรเสียเปรียบ พรรคเพื่อไทยเข้าใจถึงปัญหาของพี่น้องประชาชนและตั้งใจพัฒนานโยบายที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยการเกษตร ทั้งในด้านหาแหล่งทุนและตลาดค้าขายสินค้าได้ทั่วโลก รวมถึงเทคโนโลยีการเพาะปลูก ลดภาระให้เกษตรกร ส่งเสริมให้ลูกหลานได้พัฒนาความรู้ความสามารถที่ตนเองชอบ ผ่านนโยบาย ‘1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์’ เพื่อให้ลูกหลานสามารถมีรายได้เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้ จากสิ่งที่ตัวเองรัก ด้วยรายได้ไม่ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อปี


“ตั้งแต่เกิดการรัฐประหารมาเราสูญเสียโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของคนไทยไปมากพอแล้ว ทุกครั้งที่เกิดปัญหาไม่ว่าเรื่องสาธารณสุข ยาเสพติด หรืออนาคตของลูกหลานพี่น้องก็ยังคิดถึงความสำเร็จของเรา ดังนั้นเพื่อไทยคือคำตอบของอนาคตคนไทยทั้งประเทศ แลนสไลด์เลือกตั้งครั้งหน้า ต้องเลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค” นางสาวแพทองธารกล่าว


นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตอนนี้มี 3 ด่านที่ต้องฝ่าฟันเพื่อให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เพื่อให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ด่านแรกคือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ขออยู่ต่ออีกสมัย ด่านที่ 2 คือ 4 พรรคร่วมรัฐบาล  ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา พลังประชารัฐ ที่เป็นตัวการให้พลเอกประยุทธ์อยู่ต่อ และด่านที่ 3 คือ ส.ว.250 คน ที่ออกมาบอกว่าถ้าพรรคเพื่อไทยได้ที่ 1 ก็จะไม่เลือกนางสาวแพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี


“แม้ 250 ส.ว.จะไม่โหวตให้พรรคเพื่อไทยก็ไม่เป็นไร เพราะเราจะไม่เป็นรัฐบาลด้วยมือ ส.ว. แต่เราจะเป็นรัฐบาลด้วยมือพี่น้องประชาชน ขอเพียงประชาชนเลือกเพื่อไทยให้เกิน 250 คนขึ้นไป เกินกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น ใครไม่เลือกก็ช่างเขา เพราะประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทย ในบัตรเลือกตั้งทั้ง 2 ใบ ทั้งคนทั้งพรรค” นายสุทินกล่าว


นายสุทิน กล่าวอีกว่า ขณะนี้โพลทุกสำนัก พรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับ 1 ตอนนี้ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ทุกเขต เชื่อว่าได้รวมแล้วกว่า 280 คน หากได้แบบนี้จริง หากพลเอกประยุทธ์อยากเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ บอกเลยว่านรกรออยู่ เพราะ ส.ว.ได้แค่ยกมือให้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้ตามมายกมือในสภาผู้แทนราษฎรแน่นอน ถ้าพลเอกประยุทธ์เสนอกฎหมาย เพื่อไทยจะไม่ยกมือโหวตให้ในสภาแน่นอน


นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย  กล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะเสนอให้ขอนแก่นเป็น ‘เขตเศรษฐกิจพิเศษ’ เป็นจังหวัดนำร่อง  เป็นศูนย์กลางด้านการค้า การเกษตร คมนาคม ท่องเที่ยว และสาธารณสุข จะเป็นจังหวัดศูนย์กลางของภูมิภาคและขยายความเจริญออกไปยังจังหวัดรอบข้าง สร้างรายใหม่ให้พี่น้องประชาชนในจังหวัดและใกล้เคียง รวมทั้งภาคอีสาน  รวมทั้งยังมีโครงการ ‘โคเนื้อล้านตัว’ ส่งเสริมอุตสาหกรรมโคเนื้อ  โคนม ส่งออกรายใหญ่ มีสินเชื่อที่จะช่วยเหลือให้พี่น้องประชาชนกู้ยืมได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อลงทุนสร้างรายได้ให้ประชาชน


“ถ้าไม่ถูกรัฐประหารเสียก่อน ขอนแก่นมีศักยภาพยกระดับขึ้นมาเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์หรือเมดิคัลฮับ นักท่องเที่ยว นักธุรกิจ จากลาว จีน และเวียดนามที่เข้ามาทำงานลงทุนการค้า คนไทยจะได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ด้านคมนาคมขนส่ง รถไฟฟ้าความเร็วสูงกรุงเทพ-หนองคาย จะสร้างเสร็จ ด้านการเกษตร แผนบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ที่บริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำโขงชีมูล และลุ่มน้ำเจ้าพระยา จะทำให้พื้นที่ภาคอีสานไม่ท่วม ไม่แล้งซ้ำซาก” นายจาตุรนต์ กล่าว


นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีพันธมิตร ไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง ไม่ต้องบอกว่าเลือกเพื่อไทยได้ประยุทธ์หรือประวิตร เพราะถ้าเลือกพรรคอื่นได้ประวิตร-ประยุทธ์แน่  แต่เลือกเพื่อไทยจะได้คนเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี แน่นอน ส่วน ส.ว.ที่ประกาศจะไม่หนุนนางสาวแพทองธาร  ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นการไม่สำนึกในฉันทามติของมหาชน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพรรคเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์เท่านั้น  ถ้าพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ไม่ถึง 250 คน พลเอกประยุทธ์หรือพลเอกประวิตร เอาตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปแน่นอน แต่ถ้าถึง 250 คน ประชาชนจะได้ประชาธิปไตยกินได้  ได้นโยบายจากพรรคเพื่อไทย ได้กองทุนหมู่บ้าน ได้โอทอป และได้โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคกลับมา


นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า การจะดูว่าพรรคการเมืองใด มีศักยภาพความพร้อมที่จะบริหารประเทศหรือไม่ ให้ดูตอนประเทศชาติมีวิกฤติ ตอนสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ดร.ทักษิณ ชินวัตร ใช้หนี้ IMF ก่อนกำหนดเวลา แต่รัฐบาลประยุทธ์ก่อหนี้นับ 10 ล้านล้านบาท ตอนเกิดเหตุการณ์มหาวาตภัยสึนามิ ดร.ทักษิณ ลงพื้นที่บริหารสถานการณ์จนต่างชาติยกย่อง แต่พอเกิดสถานการณ์น้ำท่วม พลเอกประยุทธ์บอกว่าเพราะฝนตก สมัย ดร.ทักษิณ เกิดเหตุการณ์ไข้หวัดนกผู้คนเจ็บป่วยก็แก้ไขปัญหากินไก่โชว์ สร้างความเชื่อมั่นให้คนไทยกล้าออกมาใช้ชีวิต ในสถานการณ์โควิด รัฐบาลพลเอกประยุทธ์บริหารวัคซีนโควิดจนมีแต่คนสงสัยว่ามีการทุจริตหรือไม่ ดร.ทักษิณปราบยาเสพติดได้เด็ดขาด แต่พลเอกประยุทธ์ปล่อยยาเสพติดเต็มเมืองจนถึงขั้นเด็กพกบ้องกัญชาไปโรงเรียน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #ขอนแก่น