‘โรม’ ยื่นหลักฐานถึง ผบ.ตร. เอาผิด ‘ส.ว.ทรงเอ’
แง้มบางเอกสารไม่เคยเปิดเผยที่ไหน ยืนยันไม่หยุดแค่นี้
เตรียมยื่นต่ออัยการสูงสุด-ก.ต.
วันที่
28 กุมภาพันธ์ 2566 ที่รัฐสภา รังสิมันต์ โรม
โฆษกพรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบเอาผิด ส.ว.ทรงเอ
สืบเนื่องการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ประเด็นความเกี่ยวข้องระหว่าง
ส.ว.ทรงเอ หรือ อุปกิต ปาจรียางกูร กับ นักธุรกิจชาวเมียนมาที่มีข้อครหาเรื่องการฟอกเงินและการค้ายาเสพติด
รังสิมันต์
กล่าวว่า ตามที่ตนอภิปรายในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ ส.ว.ทรงเอ และไทยดำจีนเทา
มีหลักฐานต่างๆ ที่เชื่อว่าเป็นประโยชน์ในการทำคดี ทั้งกรณีของ ส.ว. ทรงเอ และ
ไทยดำจีนเทา ที่เกี่ยวข้องไปถึงนายกรัฐมนตรี
และเนื่องจากวันนี้เป็นวันสุดท้ายในสภาฯ ชุดนี้ เอกสิทธิ์และความคุ้มกันของ
ส.ส.จะไม่มีอีกต่อไป จึงขอเริ่มต้นด้วยการยื่นหนังสือต่อ ผบ.ตร.
โดยหลักฐานเอกสารที่เตรียมมา บางส่วนไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน
เชื่อว่าจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น
ประกอบกับวันนี้
ตนทราบว่า ผบ.ตร. จะชี้แจงกรณี พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.
ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ตนจึงต้องยื่นหนังสือถึง
ผบ.ตร. เพื่อให้การทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำได้ดีมากยิ่งขึ้น
ยืนยันว่าการยื่นหนังสือจะไม่หยุดเพียงเท่านี้
เพราะตั้งใจจะไปยื่นกับอัยการสูงสุดด้วย เนื่องจากบางประเภทคดี
เป็นคดีนอกราชอาณาจักร รวมถึงยื่นต่อสำนักคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.)
เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการถอนหมายจับ ส.ว.ทรงเอ
ด้าน
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวภายหลังรับหนังสือ ว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่องนี้
จะเร่งตรวจสอบดำเนินการต่อไป ซึ่งกรณีที่อภิปรายในครั้งที่แล้ว
ขอทำความเข้าใจว่ากรณี ส.ว. ทรงเอ เมื่อพบว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักร
ก็ได้เสนออัยการสูงสุด และได้มอบหมายผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 เป็นผู้รับผิดชอบร่วมกับอัยการสูงสุด
ในลักษณะคล้ายกับคดี “ตู้ห่าว” ซึ่งตน
ในฐานะหัวหน้าหน่วยได้สั่งการให้ติดตามความคืบหน้า พบว่ากำลังดำเนินการ
และได้เร่งรัดให้ดำเนินการด้วยความโปร่งใส รวดเร็ว และให้การสนับสนุนเรื่องการสืบสวน
ตนได้แนะนำไปหลายเรื่อง แต่ทางคดี ตนไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้
เป็นหน้าที่ของอัยการสูงสุด
รังสิมันต์
ย้ำต่อว่า จะนำเรื่องดังกล่าว ไปยื่นต่อผู้รับผิดชอบโดยตรงอย่างอัยการสูงสุดต่อไป
โดยแบ่งเป็น 2
ประเด็นหลัก คือ คดีหลานชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งอาจเกี่ยวเนื่องกับคดีตู้ห่าว
และคดี ส.ว.ทรงเอ ว่าทางเจ้าพนักงานจะดำเนินการอย่างไร เพราะสมัยประชุมกำลังจะหมด
เอกสิทธิ์ที่ ส.ส.เคยได้รับการคุ้มครองจะหมดไป สิ่งที่ตนทำทั้งหมด
หวังว่าให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ไม่เช่นนั้น คนชั่วจะลอยนวล