วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

มวลชนพรึบ! "ยืนหยุดขัง" หน้าศาลฎีกา 1.12 ชม. เคียงข้าง "ตะวันแบม" ด้านสน.ชนะสงครามอ่านประกาศให้ปลดป้ายข้อความ-ห้ามจอดรถหน้าศาล ให้เวลา 7 โมงเช้า พรุ่งนี้ (28 ก.พ.)

 


มวลชนพรึบ! "ยืนหยุดขัง" หน้าศาลฎีกา 1.12 ชม. เคียงข้าง "ตะวันแบม" ด้านสน.ชนะสงครามอ่านประกาศให้ปลดป้ายข้อความ-ห้ามจอดรถหน้าศาล ให้เวลา 7 โมงเช้า พรุ่งนี้ (28 ก.พ.)


วันนี้ (27 ก.พ. 66) ที่หน้าศาลฎีกา ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ ตามที่เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม ย้ายออกจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อมาปักหลักอดอาหารบริเวณหน้าศาลฎีกา สนามหลวง เรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้กับนักโทษการเมืองที่เหลืออีก 3 คน ได้แก่ คทาธร อยู่ระหว่างการสืบเสาะเพิ่มเติม 15 วัน ส่วนถิรนัยและชัยพร วานนี้ (26 ก.พ.) ศาลฎีกามีคำสั่งยกคำร้อง หลังทนายยื่นคำร้องเมื่อ 23 ก.พ. อุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันในคดีครอบครองระเบิดปิงปอง คำสั่งระบุ คดีมีอัตราโทษสูง จำเลยรับสารภาพ ศาลชั้นต้นจำคุกคนละ 3 ปี มีเหตุควรเชื่อได้ว่าหากปล่อยชั่วคราวจำเลยจะหลบหนี ที่ศาลอุทธรณ์ไม่ปล่อยชั่วคราวนั้นชอบแล้ว


อย่างไรก็ตาม เวลา 16.50 น. สน.ชนะสงคราม เข้าอ่านประกาศชุมนุมสาธารณะหน้าเต็นท์ที่พัก "ตะวัน-แบม" ที่อดอาหารอดบริเวณหน้าศาลฎีกา ระบุว่าให้แก้ไขการชุมนุม ให้นำรถที่จอดอยู่รวมถึงป้ายต่าง ๆ ออกจากบริเวณดังกล่าวภายใน 07.00 น. วันที่ 28 ก.พ. 66 ทำให้ถูกมวลชนโห่และไล่ต้อนออกไป โดยไม่ยอมให้ติดประกาศชุมนุมฯ


ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเวลา 17.30 น. กลุ่มพลเมืองโต้กลับ นำโดย นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ ทำกิจกรรม “ยืน หยุด ขัง 1.12 ชั่วโมง” เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักกิจกรรมที่ถูกคุมขังทั้งหมด โดยผู้ร่วมกิจกรรมต่างแขวนป้ายข้อความ อาทิ “ปล่อยเพื่อนเรา” “ปล่อยนักสู้ทางการเมือง” “ยกเลิก 112” และ “FREE ALL POLITICAL PRISONERS” รวมถึงรูปภาพตะวันและแบม และผู้ต้องขังทางการเมือง พร้อมชูดอกทานตะวัน 


จากนั้น เวลา 18.42 น. ครบ 1.12 ชม. นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ กล่าวสรุปกิจกรรมประจำวัน โดยระบุว่า เป็นวันที่ 264 แล้ว ที่ทุกคนร่วมยืนหยุดขัง ในรอบที่สาม โดยวันนี้ไม่มีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับคดีความ ยกเว้นเรื่องของตะวันและแบมที่วันนี้มีการยื่นหนังสือถึงประธานศาลฎีกาเพื่อขออนุญาตเข้าไปอดอาหารด้านในรั้วศาล


นายพันธ์ศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า วันนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อมาทางกลุ่มพลเมืองโต้กลับ โดยตนมาเป็นตัวแทนกลุ่มเพื่อพูดกับผู้ร่วมกิจกรรมหน้าศาลฎีกาทุกคนว่า ประการแรกเลยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ชนะสงครามมาประกาศเมื่อช่วงเย็นนั้นพวกเราไม่ได้มีพฤติกรรมดังที่ถูกกล่าวหา แต่ตำรวจก็เชื่อไปแล้วว่าผู้จดแจ้งการชุมนุมคือ นางสาวอรัญญิกา จังหวะ สั่งให้แขวนป้ายหรือสั่งให้กระทำการใด ๆ จึงขออธิบายว่าเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยปกติที่กลุ่มฯทำมาก็จะมีการยืนหยุดขังในเวลา 17.30 น แล้วพอถึงเวลา 18.42 น. ครบ 1.12 ชั่วโมง พวกเราก็จะแยกย้ายกันกลับ


ส่วนที่ 2 กิจกรรมอดอาหารของตะวันและแบม เพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัวของผู้ต้องขังทางการเมืองที่เหลืออยู่ ซึ่งอยู่ภายใต้การจัดการของกลุ่ม "ทะลุวัง" ที่มาใช้พื้นที่ร่วมกัน ณ ปัจจุบันนี้ ซึ่งเรายินดีอย่างยิ่ง เราเข้าใจดีว่าพี่น้องที่มาทำกิจกรรมมากขึ้นกว่าเดิม


โดยตำรวจขอความกรุณาจากพวกเราไม่ให้ยืนบนถนน ให้ขึ้นไปยืนบนทางเท้า และในส่วนของการจอดรถที่บริเวณหน้าศาลฎีกาขอความร่วมมือให้ย้ายไปจอดที่บริเวณแม่ธรณีบีบมวยผมใกล้ ๆ กับจุดจอดรถห้องน้ำสาธารณะที่กทม.นำมาจอดไว้บริการ และในส่วนของป้ายข้อความ ตำรวจขอร้องให้ปลด ป้ายที่มีข้อความหมิ่นประมาทศาล นายพันธ์ศักดิ์ระบุว่า ก็เข้าใจดีว่าพี่น้องอาจจะมีความไม่พอใจเกี่ยวกับศาลที่ไม่ได้ให้สิทธิประกันตัวผู้ต้องขังทางการเมือง แต่อยากให้ลองคิดว่าตอนนี้เราอยู่ในฐานะเจรจาต่อรองกับศาล อยากจะขอร้องให้พี่น้องที่นำป้ายที่มีลักษณะหมิ่นประมาทนั้นนำป้ายออก ทั้งหมดนี้เราต้องการจะทำกิจกรรมยืนหยุดขัง ไปเรื่อย ๆ จนกว่าพี่น้องของเรา ซึ่งตอนนี้ที่เหลืออยู่ 3 คนคือ คทาธร, ธีรนัย และชัยพร จะได้รับสิทธิในการประกันตัวตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 ได้ระบุเอาไว้ เราจึงจะหยุดทำกิจกรรม เพราะฉะนั้นเราไม่อยากที่จะหยุดกิจกรรมก่อนเวลาที่พี่น้องของเราจะถูกปล่อยตัวออกมา ก็อยากขอให้พี่น้องได้โอนอ่อนผ่อนปรนกัน และทางเราก็กำลังเจรจากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่


จากนั้นนายพันธ์ศักดิ์ ได้ชวนให้ผู้ร่วมกิจกรรมหันหน้าเข้าหาศาลฎีกา พร้อมชู 3 นิ้ว และเปล่งเสียงว่า ”ปล่อยเพื่อนเรา ปล่อยผู้บริสุทธิ์ คืนสิทธิการประกันตัว ยกเลิก 112″ 3 ครั้ง ตามด้วย “เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ” 3 ครั้ง 


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์