วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ชาวเชียงรายแห่ฟัง ‘แพทองธาร’ ล้นพื้นที่ ประกาศเลือกเพื่อไทยเปลี่ยนชีวิต ราคาข้าวปรับขึ้น ที่ดินทำกิน สิทธิของพี่น้องชาติพันธุ์ การค้าชายแดนจะกลับมา ‘พานทองแท้’ ร่วมให้กำลังใจ

 


ชาวเชียงรายแห่ฟัง ‘แพทองธาร’ ล้นพื้นที่ ประกาศเลือกเพื่อไทยเปลี่ยนชีวิต ราคาข้าวปรับขึ้น ที่ดินทำกิน สิทธิของพี่น้องชาติพันธุ์ การค้าชายแดนจะกลับมา ‘พานทองแท้’ ร่วมให้กำลังใจ


วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 พรรคเพื่อไทย จัดปราศรัยใหญ่ “เจียงฮาย เจียงใหม่ คิดใหญ่ทำเป็นเพื่อไทยทุกคน” ณ สนามกีฬาโรงเรียนปล้องวิทยาคม อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย โดยมีแกนนำพรรคเข้าร่วมเวทีปราศรัย ได้แก่ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย  นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย  นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นางสาวขัตติยา สวัสดิผล คณะทำงานด้านกฎหมาย พรรคเพื่อไทย รวมทั้ง ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ได้แก่ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ นายวิสิษฐ์ เตชะธีราวัฒน์ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน น.ส.ละออง ติยะไพรัช รวมทั้งผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ได้แก่ ร.ต.อ.ดร.ธนรัช จงสุทธานามณี นายวิกรม เตชะธีราวัฒน์ น.ส.วิสาระดี  เตชะธีราวัฒน์ นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ นายอิทธิเดช แก้วหลวง  น.ส.ปิยะรัฐชย์  ติยะไพรัช  โดยมีพี่น้องประชาชนเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่นเต็มพื้นที่เกือบ 2 หมื่นคน


นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอบคุณพี่น้องชาวเชียงรายทุกคนที่มาฟังการปราศรัย วันนี้เป็นโอกาสที่ดี จึงขอประกาศในเบื้องต้นว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย คือนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ดังนั้นในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ ต้องเอาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกไป   เพราะในอดีตเอารถถังมายึดอำนาจ แล้วบอกมาจากการเลือกตั้ง กลับคิดกติกาพิเศษ การคำนวณพิเศษ หากสิ่งนั้นทำให้พี่น้องเจ็บช้ำใจ ครั้งนี้ขอให้เข้าคูหากาพรรคเพื่อไทยทั้งสองใบ เราคิดใหญ่และทำเป็น เพราะคนของเพื่อไทยเป็นคนมีความรู้ความสามารถ โดยเฉพาะผู้ประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เชียงราย 8 คน มั่นใจว่าจะได้เป็น ส.ส.เชียงรายทุกคน


สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 5 ตาม กกต.จะกำหนด ในอำเภอเทิง เดิมเป็นเขตเลือกตั้งที่ 4 พรรคเพื่อไทย เรามี ส.ส.ที่มีคะแนนมากที่สุด กว่า 6 หมื่นคะแนน เมื่อเทียบกับทั่วประเทศ จึงหมายมั่นให้มาลงเป็นผู้ประสงค์สมัครรับเลือกตั้งส.ส.อีกครั้ง มั่นใจว่าได้เป็นส.ส.แน่นอน ปรากฎว่าเราจัดงานครอบครัวเพื่อไทยครั้งใหญ่ ที่เชียงราย-เชียงใหม่ เราเชิญขึ้นเวทีแต่เขาไม่ไป สุดท้ายบอกว่าขออนุญาตที่จะไม่อยู่ด้วย อาจจะไม่เล่นการเมืองอีก แต่ตอนนี้ออกไปอยู่พรรคอื่น พรรคเพื่อไทยขอเสนอนายเทอดชาติ ชัยพงษ์  ผู้มีความรู้ความสามารถ  อดีตข้าราชการระดับสูงกระทรวงศึกษาธิการ  และผู้สมัครทั้ง 8 เขตคือความหวังของพรรคเพื่อไทย


“ในฐานะที่เป็นแพทย์ บัตรประชาชนคนไทยจะเป็นกรมธรรม์ประกันสุขภาพให้กับพี่น้องประชาชนรักษาพยาบาลได้ทุกที่ คลินิก โรงพยาบาล ร้านขายยา คนสูงวัยที่ไม่มีลูกหลานดูแล เราจะมีศูนย์ชีวาภิบาล เชียงรายจะเป็นประตูรายได้ เปิดกว้างเรื่องการค้าชายแดน ช่วงโควิด ทำรายได้ 7 หมื่นล้านบาท จากปกติ 1.5 แสนล้านบาท รายได้ค้าชายแดนทั้งประเทศ 1.8 ล้านล้านบาท ถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล มากกว่า 3 ล้านล้านบาทแน่นอน ภาคท่องเที่ยว 3 ล้านล้านบาท เกษตรกรรายได้ขึ้น 3 เท่า ถ้าเอาเข้าคูหากาเพื่อไทย แลนด์สไลด์ยกจังหวัดทั้งประเทศ” นายแพทย์ชลน่านกล่าว


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า เลือกเพื่อไทยจะเปลี่ยนชีวิตของพี่น้องเชียงรายได้อย่างถาวร เปลี่ยนคนจนให้เป็นคนรวย พร้อมนำเสนอ 3 นโยบายที่จะแก้ปัญหาให้กับพี่น้องเชียงราย ได้แก่ ที่ดินทำกิน สิทธิ์ของพี่น้องชาติพันธุ์ และการค้าชายแดน


สำหรับการแก้ปัญหาที่ดินทำกินมี 4 ขั้นตอน


1. ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาพิสูจน์สิทธิ์ที่ดินให้แก่พี่น้อง เพื่อให้ความเป็นธรรม ต้องชัดเจนและสร้างความเท่าเทียม

2. ใครไม่มีที่ดินทำกิน ต้องจัดสรรให้อย่างเท่าเทียม 

3. แก้กฎหมาย ขจัดอุปสรรคทั้งหลายให้เข้าข้างพี่น้องประชาชนอย่างยุติธรรมและเท่าเทียม

4. ที่ดินของภาครัฐ ถ้าไม่ได้ใช้เราจะนำมาจัดสรร แบ่งปันให้พี่น้อง ให้ทุกคนมีที่ดินทำกิน


นอกจากปัญหาที่ดินทำกินยังมีปัญหาชาติพันธุ์ ที่ตอนนี้มีกว่า 30 ชาติพันธุ์ที่อยู่ในเชียงราย พี่น้องบางคนยังไม่ได้สิทธิ์ ไม่มีบัตรประชาชน ยังไม่มีโอกาสเป็นประชาชนไทย ทำให้เข้าไม่ถึงสวัสดิการ ทั้งการศึกษาและการรักษาพยาบาล


“พรรคเพื่อไทยจะลดขั้นตอนความยุ่งยากให้น้อยลง เพื่อให้มีบัตรประชาชนได้ง่ายขึ้น ให้สมกับเป็นคนไทยคนหนึ่งค่ะ” แพทองธารกล่าว 


นางสาวแพทองธาร กล่าวอีกว่า เชียงรายเป็นจังหวัดชายแดนแต่การค้าขายชายแดนไม่ได้สะดวก ทุกวันนี้มีอุปสรรคขัดขวางทางรวยของพี่น้องมากมาย เราจะนำอุปสรรคเหล่านั้นออกไปให้หมด  จะเพิ่มด่านการค้าให้มากขึ้น ขยายสนามบิน เพิ่มรถไฟ เพิ่มศักยภาพให้พี่น้องค้าขายได้มากขึ้นอีกหนึ่งเท่า  หากพัฒนาได้ทั้งหมด พี่น้องเชียงรายจะอยู่ดีกินดี พี่น้องทั้งประเทศจะอยู่ดีกินดี เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์ทั้งเชียงราย


ด้าน นายจาตุรนต์ ฉายแสง  กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมีด่านการค้าในเชียงรายปิดอยู่ 3 ปี ทั้งที่สถานการณ์โควิดผ่อนคลาย จากที่เคยมีรายได้ 5-8 หมื่นล้านบาทหายไป  ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะเปิดด่านการค้าชายแดน ส่งเสริมการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยว เพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนจาก 5 หมื่นล้านบาทเป็น 1 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าทันที ทั้งนี้ ในสมัยพรรคไทยรักไทยหาเสียงด้วยการเสนอนโยบายเป็นพรรคแรก ๆ ทำให้ชาวเชียงรายเชื่อมั่น และเลือกพรรคไทยรักไทยอย่างถล่มทลายยกจังหวัด การมาหาเสียงที่เชียงรายในวันนี้บรรยากาศไม่แตกต่างจากในวันนั้น จึงเชื่อมั่นว่า ด้วยนโยบายตั้งแต่สมัยไทยรักไทยจนมาถึงเพื่อไทย จะช่วยให้พี่น้องเชียงรายและภาคเหนือมีชีวิตที่ดีขึ้น มีรายได้ดีขึ้น  เราพูดแล้วทำได้คือเพื่อไทย ในขณะที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีมา 8 ปี พูดว่าทำแล้ว ทำอีก จะทำต่อ แต่สิ่งที่ทำ ทำให้คนไทยเดือดร้อน


ส่วน นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า วันนี้ เห็นนางสาวแพทองธาร และนายพานทองแท้ ชินวัตร ทำให้คิดถึง ดร.ทักษิณ ชินวัตร หลังจากลงพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 เวที เชื่อว่าอีสานจะชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์ทั้งหมด ส่วนตัวคาดว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.ในสภา 382 คน มั่นใจว่าประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน 


นายอดิศร ยังกล่าวอีกว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกจะมาพลิกประเทศไทย จะพลิกได้อย่างไร หมดเวลาคนอายุ 80 แล้ว เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เป็นนายกรัฐมนตรีได้แล้ว รวมพลังคนเชียงราย เลือกพรรคเพื่อไทย เอาพลเอกประยุทธ์ออกไป ถ้าเพื่อไทยได้ 380 คน ก็เป็นรัฐบาลพรรคเดียวไปเลย ขอให้คนเชียงราย ได้นายกรัฐมนตรีชื่อแพทองธาร ได้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ครบ 8 เขต  พร้อมฝากกลอนที่แต่งขึ้นพิเศษในเวทีปราศรัยว่า


“ทำแล้ว คือ ก่อการกบฎ ยึดอำนาจ

ทำอยู่ คือ ทำให้ชาติเดินถอยหลัง

ทำต่อ ประชาธิปไตยจะพินพัง” 


ต่อมา นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยและกล่าวว่า การเลือกตั้งใหญ่รอบนี้ ประชาชนต้องเลือกให้ชัดว่าจะเลือกเผด็จการหรือเลือกประชาธิปไตย ถ้าจะเอาชนะเผด็จการประยุทธ์ต้องเลือกเพื่อไทยให้ชนะขาดเท่านั้น  ที่ผ่านมาหากพรรคเพื่อไทยไม่ถูกรัฐประหาร พี่น้องประชาชนจะได้ประโยชน์จากนโยบายเต็มเม็ดเต็มหน่วย ถ้าพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาล จะมีนโยบายพักหนี้เกษตรกร ลดทั้งต้น ทั้งดอก ราคาพืชผลการเกษตรดี มีรายได้ พอครบกำหนดพี่น้องประชาชนจะเหลือเงินเก็บไปชำระหนี้ เมื่อเศรษฐกิจดี ผู้ประกอบการมีกำไรเพิ่ม ก็สามารถเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำให้พี่น้องเป็น 600 บาทต่อวัน เพิ่มเงินเดือนให้ลูกหลานเราเป็น 25,000 บาทต่อเดือนได้ 


ทั้งนี้ นโยบายพรรคเพื่อไทย ผ่านการคิดวิเคราะห์ วางแผน ปรึกษา รวมถึงใช้การคิดนอกกรอบมาแก้ปัญหาให้พี่น้องมาอย่างดี เช่น การแก้ไขปัญหาราคายางพารา สมัยตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เราผลักดันโครงการเอายางพาราเป็นส่วนผสมทำถนน นำร่องที่อำเภอทุ่งใหญ่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศ ยางส่งออกลดลง ส่งสัญญาณตลาดโลกให้ราคาปรับสูงขึ้นโดยอัตโนมัติ รัฐบาลพลเอกประยุทธ์  ลอกแบบเอาไปทำถนน แต่เอาไปให้ท้องถิ่นทำที่เรียกว่าถนนพาราซอยล์ซีเมนต์ แต่โครงการไม่เกิด


นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า สำหรับพี่น้องเสื้อแดงในเชียงรายและภาคเหนือ มาสู้กันอีกครั้งด้วยความชอบธรรม ตามหลักประชาธิปไตย แค่ออกจากบ้านไปคูหากาพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 ใบแล้วเราจะชนะให้เด็ดขาด  และยังเป็นภารกิจของคนทุกคน เพื่อให้ชีวิตไปสู่ทิศทางที่ดีกว่า เลือกอยู่ข้างประชาชน เผด็จการต้องออกไป


“เผด็จการต้องออกไปด้วยการเลือกเพื่อไทยให้ชนะให้ขาด กาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ เลือกทั้งคนทั้งพรรค เลือกเพื่อไทยเชียงรายให้แลนด์สไลด์ทั้งประเทศ” นายณัฐวุฒิกล่าวในที่สุด


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #เชียงราย #เลือกตั้ง66