วันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ส.ว. ไม่ทน เดินหน้าดำเนินคดี เอาผิดอาญา-แพ่ง คนหมิ่นประมาท-คุกคาม ส.ว.และครอบครัว หลังลงมติไม่เห็นชอบ-งดออกเสียงพิธา ชี้ ไม่ใช่หลักประชาธิปไตย ประเดิมฟ้องทนายเดชา-ทนายอั๋น บุรีรัมย์


ส.ว.ไม่ทน เดินหน้าดำเนินคดี เอาผิดอาญา-แพ่ง คนหมิ่นประมาท-คุกคาม ส.ว.และครอบครัว หลังลงมติไม่เห็นชอบ-งดออกเสียงพิธา ชี้ ไม่ใช่หลักประชาธิปไตย ประเดิมฟ้องทนายเดชา-ทนายอั๋น บุรีรัมย์


วันนี้ (17 กรกฎาคม 2566) เวลา 11.00 น. ที่อาคารรัฐสภา ฝั่งวุฒิสภา นายเสรี สุวรรณภานท์และคณะวุฒิสภา (ส.ว.) ได้แถลงถึงกรณีที่ตนได้แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคล หลังจากที่ตนและสมาชิก ส.ว. คนอื่น ๆ “ถูกคุกคามและได้รับความเสียหายจากสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์” ส่งผลต่อธุรกิจส่วนตัวและมีการล่วงไปถึงคนในครอบครัว โดยขณะนี้ได้มีการฟ้องไปแล้วเป็นจำนวน 2 รายและยังคงดำเนินการตรวจสอบดำเนินคดีกับรายอื่นๆ ซึ่งยังอยู่ในขั้นการรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม


นายเสรีกล่าวว่า ในปัจจุบันมักมีการแสดงออกต่อฝ่ายที่เห็นต่างด้วยการใช้วาจาและพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรง มีการใช้ถ้อยคำหยาบคายดูถูกดูหมิ่น โดยเรื่องที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือคนบางกลุ่มได้มีการใช้คำที่มีการล่วงละเมิดไปถึงครอบครัวหรือแม้แต่การให้ร้ายต่อธุรกิจของ ส.ว. บางท่าน อันเป็นผลให้ธุรกิจดังกล่าวต้องได้รับความเสียหาย ดังนั้นวันนี้ตนและพรรคพวกที่ได้รับผลกระทบ จึงต้องการที่จะฟ้องร้องและดำเนินคดีกับบุคคลซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายดังกล่าว


ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายเสรีได้มีการให้ตัวแทนเดินทางไปยังศาลอาญาตลิ่งชัน เพื่อยื่นฟ้องกับ 2 บุคคลที่ได้มีการโพสต์ข้อความทางสื่อโซเชียลมีเดียส่งผลให้ตนได้รับความเสียหาย ซึ่งนายเสรีก็ได้บอกว่า ทั้ง 2 รายที่ตนได้ฟ้องไปนั้นประกอบด้วย

1. ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ “ทนายคลายทุกข์”

2. นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ “ทนายอั๋น บุรีรัมย์”


ซึ่งขณะนี้สมาชิก ส.ว. ท่านอื่น ๆ ก็กำลังรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มของบุคคลที่ได้ใช้สื่อโซเชียลมีเดียทำให้พวกตนได้รับความเสียหาย โดยได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่หลายๆ หน่วยงาน คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการสืบเสาะหาตัวและดำเนินคดีต่อไป


ด้านนายสมชาย กล่าวว่า ความพยายามในการใช้ทุกช่องทางสื่อสารมายัง ส.ว ถือเป็นการสื่อสารที่ผิด ในสภามีนักกฎหมายมีจำนวนมาก และเห็นตรงกันว่าไม่ควรปล่อยผ่าน ตอนนี้ครอบครัวของ ส.ว.ทั้ง 250 คน ถูกคุกคามทั้งหมด ส.ว.จึงได้แจ้งความดำเนินคดีทั้งหมด พร้อมทั้งประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจที่มาสอบสวนสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จนรู้ตัวเจ้าของแอคเคาท์ทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะเพจที่เชิญชวนให้บุคคลอื่นทำการคุกคามส.ว. บางแอคเคาท์ข่มขู่จะข่มขืนลูกสาว ส.ว.บางคน ทั้งกาย วาจา ใจ ขณะที่บางแอคเคาท์พบว่าเป็น AI ยิงข้อความทีเดียว 4 แสนครั้ง หลังจากการลงมติให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้น ยืนยันจะดำเนินคดีทั้งหมดให้ถึงที่สุด ไม่รับคำขอโทษ เพราะนี่ไม่ใช่วิถีทางในการแสดงออกถึงความเห็นต่างตามหลักประชาธิปไตย แต่เป็นการคุกคามบุคคลอื่น จึงขอเตือนให้หยุดพฤติกรรมเหล่านี้


ขณะที่นายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร  ระบุว่า ธุรกิจยาหมอเส็งได้รับผลกระทบอย่างมาก หลังจากการลงคะแนนเสียง โดยมีการส่งข้อความโจมตีในเพจกว่าพันข้อความ ว่าขอให้เลิกซื้อเลิกสนับสนุน ส่งผลกระทบกับธุรกิจอย่างมาก แม้ว่าตนเองไม่ได้เกี่ยวข้อกับธุรกิจดังกล่าว เพราะเป็นธุรกิจของพ่อ

.

นายวิวรรธน์ กล่าวด้วยว่าจึงได้ปรึกษาตำรวจไซเบอร์และนักวิชาการ โดยจะดำเนินคดีอาญาและคดีแพ่ง ถ้าเข้าข่ายผิดกฎหมายคอมพิวเตอร์ก็จะดำเนินการแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ แต่หากเป็นข้อความที่มีลักษณะคลุมเครือแต่สร้างความเสียหายก็จะดำเนินการเรียกค่าเสียหายในคดีแพ่ง


โดยย้ำว่าจะไม่โหวตให้นายพิธา ในวันที่ 19 ก.ค. อย่างแน่นอน พร้อมเล่าย้อนถึงประวัติของตระกูลด้วยว่าที่สามารถทำการค้าขายได้ในวันนี้เพราะพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ทุกครั้งที่รวมญาติมีการพูดเสมอว่าเราเป็นหนี้บุญคุณของแผ่นดิน ย้ำไม่กลัวทัวร์ลง ตนเองรักสถาบันถ้าจะทำลายก็ข้ามตนเองไปก่อน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #สว #หมิ่นประมาท #คุกคาม