วันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

“สุวัจน์” ขอบคุณเพื่อไทยให้เกียรติเชิญปรึกษาการตั้งรัฐบาล ย้ำร่วมรัฐบาลได้หากไม่มีก้าวไกล

 


“สุวัจน์” ขอบคุณเพื่อไทยให้เกียรติเชิญปรึกษาการตั้งรัฐบาล ย้ำร่วมรัฐบาลได้หากไม่มีการแก้ไขมาตรา 112 ของ “ก้าวไกล”


วันนี้ (22 กรกฎาคม 2566) ที่ สำนักงานใหญ่ พรรคเพื่อไทย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า นายวัชรพล โตมรศักดิ์ รักษาการหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้าและแกนนำพรรคร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการหารือแลกเเปลี่ยนความเห็นเพื่อหาแนวทางการจัดตั้งรัฐบาล ตามมติ 8 พรรคร่วม ที่มอบภารกิจให้พรรคเพื่อไทยหาเสียงสนับสนุนเพิ่มเติม


นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้รับมอบหมายภารกิจจากพรรคก้าวไกล ในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และนำแนวทางจาก 8 พรรคร่วมที่ได้มีมติไว้ในการแสวงหาเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน 


นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ กล่าวว่า ขอบคุณพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำ 8 พรรคร่วม ที่ให้เกียรติเชิญพรรคชาติพัฒนากล้ามาปรึกษาหารือในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งก่อนมาหารือกับพรรคเพื่อไทยนั้น พรรคชาติพัฒนากล้าได้ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อกำหนดท่าทีในการเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อให้เกิดความชัดเจน โดยได้มีมติว่า ยินดีที่จะให้การสนับสนุนในการจัดตั้งรัฐบาลจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยเร็วเพื่อไม่ให้เกิดสูญญากาศการบริหารบ้านเมือง เพราะขณะนี้มีวิกฤตเกิดขึ้นหลายด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่พี่น้องประชาชนรอการแก้ไขอย่างเร่งด่วน


นายสุวัจน์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้ามีจุดยืนและแนวนโยบายในทางการเมือง 4 เรื่องที่ได้ประกาศต่อพี่น้องประชาชนไปในการหาเสียงและได้มีมติพรรครับรองอันเป็นเงื่อนไขที่สำคัญในการเข้าร่วมรัฐบาล คือ  1) จะสนับสนุนให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างมาก และไม่ส่งเสริมให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อให้การแก้ไขปัญหามีประสิทธิภาพลุล่วง  2) เรามีแนวทางสนับสนุนพรรคการเมืองที่ได้เสียงอันดับ 1 ในการริเริ่มจัดตั้งรัฐบาล หากไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็เป็นหน้าที่ของพรรคลำดับรองลงมา เพื่อให้เป็นไปตามเสียงของพี่น้องประชาชน 3) เราอยากให้เร่งรัดการแก้ไขปัญหาวิกฤตต่างๆ เพราะที่ขณะนี้พี่น้องประชาชนกำลังเดือดร้อนอย่างมาก โดยเฉพาะปัญหาสินค้าราคาแพง และ  4) พรรคชาติพัฒนากล้ามีจุดยืนและแนวทางที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 และเราได้ประกาศไว้ในเวทีสาธารณะต่าง ๆ  ว่าเราขอคงไว้และไม่มีการแก้ไขแต่อย่างใด


“พรรคชาติพัฒนากล้ามีจุดยืนในการรักษาแนวนโยบาย และคำมั่นสัญญาที่พรรคการเมืองให้ไว้กับประชาชน เพื่อเป็นบรรทัดฐานว่าพรรคการเมืองพูดอะไรไว้ก็ทำในสิ่งนั้น หลังการประชุมรัฐสภาไปแล้ว 2 ครั้งก็ไม่สามารถนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลได้ แล้วได้เปลี่ยนพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย เราก็เชื่อมั่นว่าจะสามารถนำไปสู่การบริหารประเทศ เว้นแต่เรื่อง การแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งพรรคก้าวไกลที่มีแนวนโยบายในการแก้ไข ซึ่งไม่ตรงกับแนวนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า ดังนั้นเราจึงพร้อมเข้าร่วมการจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ และจะสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยให้ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา สำหรับนโยบายการแก้ไข มาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล  ถ้ายังคงอยู่ก็อาจจะไม่สอดคล้องกับแนวทางของพรรคชาติพัฒนากล้า ก็อาจไม่สามารถเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะไม่ตรงตามมติพรรคและไม่ตรงกับคำมั่นสัญญาที่ได้ประกาศไว้กับพี่น้องประชาชน” นายสุวัจน์ กล่าวย้ำ


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #ชาติพัฒนากล้า #จัดตั้งรัฐบาล