ฎีกายืนคุก
1 ปี ไม่รอลงอาญา “เอกชัย” กรณีโพสต์เฟซ
ยั่วยุกามรมณ์ เพศสัมพันธ์ในเรือนจำ โต้เดือดกับศาลเรื่องนับวันลงโทษ จนเพื่อนให้สงบสติอารมณ์
วันนี้
(6 กรกฎาคม 2566) เวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณา 711 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก
ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีดำ อ. 1032/62
ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเอกชัย
หงส์กังวาน อายุ 48 ปี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นจำเลย
ฐานกระทำผิด ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (4)
จากกรณีเมื่อวันที่
23 เมษายน 2560 “เอกชัย” จำเลย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก
ของตัวเองโดยมีข้อความลามกอนาจารเกี่ยวกับประสบการณ์การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำ
ซึ่ง “เอกชัย” ให้การปฏิเสธและต่อสู้คดี
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า
“เอกชัย” จำเลย กระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาจำคุก 1 ปีโดยไม่รอการลงโทษ จากนั้น
“เอกชัย” ยื่นอุทธรณ์ และได้รับการประกันตัว 100,000 บาท
ต่อมาศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้ว
เห็นว่า นายเอกชัย กระทำผิดตามฟ้องจริง ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษมานั้นศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย
อุทธรณ์จำเลยฟังไม่ขึ้น มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
โดยวันนี้
“เอกชัย” เดินทางมาศาลและเปิดเผยก่อนฟังคำพิพากษาว่า คดีนี้เป็นคดีที่ 2
ที่สู้มาจนถึงศาลฎีกา ตนเองโดนมาถึง 30 คดี จบไปแล้ว 16 คดี ส่วนใหญ่จะจบที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง แต่มีคดีนี้ เป็นคดีที่ 2 ที่สู้มาจนถึงศาลฎีกา ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ พิพากษาจำคุก 1 ปี กรณีที่โพสต์ข้อความการมีเพศสัมพันธ์ในเรือนจำ
และฟ้องคดีในปี 2560 ถึงตอนนี้ 50/50
หลังจากศาลอุทธรณ์ตัดสิน จำคุก 1 ปี
ตนเองเข้าไปอยู่ในเรือนจำนานถึง 5 เดือน
การยื่นฎีกาครั้งนี้เพราะความเห็นของตนเองกับทนายไม่ตรงกัน ทนายเห็นว่าโทษ 1 ปี ไม่สูงมากนัก ควรจะให้จบในชั้นอุทธรณ์ เพราะในปีนั้นจะมีการอภัยโทษในช่วงเดือนส.ค.
แต่ตนเองไม่เห็นด้วย ยืนยันว่าจะยื่นฎีกา
“เอกชัย”
เผยว่า สำหรับคดีนี้ ตนไม่มีความกังวลอะไร อาจจะต้องกลับเข้าไปอยู่ในเรือนจำอีกครั้ง
เพราะมาถึงจุดนี้แล้ว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
ต่อมา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า
ข้อมูลที่จำเลยได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กเป็นข้อมูลที่บรรยายยั่วยุกามอารมณ์ มีการเล้าโลม
ส่อคุกคามอารมณ์ บรรยายถึงอวัยวะเพศล่วงล้ำหลายครั้ง ซึ่งเป็นข้อมูลอันลามก
อีกทั้งเฟซบุ๊กของจำเลยเปิดสถานะเป็นสาธารณะ จงใจเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้
ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมานั้นศาลฎีกาไม่เห็นแย้ง
มีข้อวินิจฉัยอีกว่า
ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปีหนักไปหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่าที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษนั้นเหมาะสมแล้ว
ไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่ง ฎีกาจำเลยไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้รับฟัง พิพากษายืน
ตามศาลอุทธรณ์ ลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี ไม่รอลงอาญา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
อย่างไรก็ตามระหว่างที่ศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น “เอกชัย” ได้โต้เถียงผู้พิพากษาถึงการคำนวณวันลงโทษของศาลชั้นต้นไม่ถูกต้อง
โดยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 54 ที่ให้เพิ่มโทษก่อนแล้วจึงลดโทษ
แต่ศาลให้ลงโทษน้อยก่อนแล้วมาเพิ่มโทษภายหลัง โดยยืนพูดตะโกนเสียงดัง
ไม่เรียบร้อยในศาล จนผู้พิพากษาเตือนว่าหากกระทำการไม่เรียบร้อยอีก
ตั้งเรื่องละเมิดอำนาจศาลด้วย จนเพื่อนของ “เอกชัย” ได้ขออภัยต่อศาลแล้วดึง “เอกชัย”
ให้ใจเย็นและนั่งลง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์
จะควบคุมตัวออกไปเพื่อรับโทษในเรือนจำตามคำพิพากษาศาลฎีกา