วันอังคารที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

“เพื่อไทย” แถลงมติที่ประชุมพรรค ยันพรุ่งนี้เสนอชื่อ “พิธา” เป็นนายกฯ คนที่ 30 พร้อมขานสนับสนุนครบ 141 เสียง

 


“เพื่อไทย” แถลงมติที่ประชุมพรรค ยันพรุ่งนี้เสนอชื่อ “พิธา” เป็นนายกฯ คนที่ 30 พร้อมขานสนับสนุนครบ 141 เสียง


ช่วงเย็นวันนี้ (18 กรกฎาคม 2566) ที่ สำนักงานใหญ่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายประเสริฐ จันทร์รวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวถึงการประชุมของพรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา


นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มติสำคัญที่จะเรียนไปยังพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องที่ประธานรัฐสภาได้นัดหมายสมาชิกรัฐสภาให้เข้าประชุมร่วมในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.) วาระประชุมก็คือการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยมีมติชัดเจนว่าเห็นชอบกับการเสนอชื่อ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ตามวาระการประชุมนี้ โดยมติที่ประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้ขอให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยเป็นผู้เสนอชื่อ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีมติให้ ดร.สุทิน คลังแสง เป็นผู้เสนอชื่อต่อที่ประชุม


นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า เมื่อมีการเสนอชื่อคุณพิธา เป็นนายกฯ แล้ว หากมีสมาชิกรัฐสภาเสนอญัตติขึ้นมาพิจารณาว่าญัตตินี้ตกไปแล้ว ถ้ามีการลงคะแนน มติพรรคเพื่อไทยเห็นค้านกับผู้เสนอญัตตินี้ พรรคเพื่อไทยมีความเห็นว่าการเลือกนายกฯ ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภาเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 คือสามารถเสนอชื่อซ้ำได้ นี่เป็นมติแรกที่เรามีความเห็นร่วมกัน


มติที่สองที่สำคัญคือ 141 เสียงของพรรคเพื่อไทยยินดีที่จะขานชื่อสนับสนุนคุณพิธาเป็นนายกฯ คนที่ 30


ผู้สื่อข่าวถาม กรณีหากสมาชิกรัฐสภามีการโหวต กรณีพิจารณาตามข้อบังคับการประชุมฯ ข้อ 41 แล้ว ฝ่าย 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลแพ้เสียงโหวต จะเป็นอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า 8 พรรคร่วมฯ มีเสียง 311 เสียง (ประธานรัฐสภางดออกเสียง) หากแพ้เสียงโหวตในรัฐสภา นั่นหมายความว่าญัตติที่เขาเสนอสมาชิกรัฐสภาเห็นชอบว่าญัตตินี้ตกไปแล้ว ถ้าตีความและมีมติอย่างนั้น หมายความว่าญัตติเสนอชื่อ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ที่เสนอโดย ดร.สุทิน คลังแสง ต้องตกไป ไม่ต้องโหวต


เมื่อเป็นเช่นนั้น ประธานรัฐสภาต้องปิดประชุม และจะมีการนัดหมายที่จะให้ความเห็นชอบนายกฯ ใหม่ในวันต่อไป ซึ่งขึ้นอยู่กับที่ประชุมของประธานรัฐสภากับวิป 3 ฝ่ายและพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้อง


นพ.ชลน่าน ตอบผู้สื่อข่าวกรณีหากพรุ่งนี้ ไม่มีการโหวตหรือผลโหวตไม่ผ่านอีก 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลต้องหารือพูดคุยกันกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าพรรคอันดับ 1 จะมีท่าทีอย่างไรต่อไป จะไปต่อ หรือจะให้พรรคอันดับ 2 เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ถ้าประกาศเช่นนั้นก็เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยจะต้องดำเนินการต่อไป


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #โหวตนายก