นิสิต
ม.เกษตร จัดชุมนุมขจัด ส.ว.ใจทราม
วันที่
21 กรกฎาคม 2566 เวลา 16.30 กลุ่มนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
และกลุ่มพรรคอาทิตย์ใหม่ จัดกิจกรรม “ขจัด ส.ว.ใจทราม” ที่บริเวณหน้าหองประชุมใหญ่
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน
ซึ่งผู้จัดการชุมนุมได้มีการโพสต์ข้อความเชิญชวนผ่านโซเชียลมีเดียมีการแนะนำเส้นทางการเดินทาง
สำหรับพื้นที่การจัดกิจกรรมทางกลุ่มผู้จัดงานได้ใช้พื้นที่ด้านหน้าของหอประชุม
มีการนำรถเครื่องขยายเสียงมาจอด
เพื่อทำเป็นเวทีปราศรัยและจะให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมนั่งบริเวณถนนและสนามหญ้าหน้าอาคารหอประชุม
โดยกิจกรรมจะเริ่มในช่วงเวลา
17.00 น. เป็นต้นไป จะมีแกนนำของพรรคอาทิตย์ใหม่ ที่เป็นกลุ่มนิสิตของม.เกษตรศาสตร์
ขึ้นรถขยายเสียงปราศรัย ก่อนที่จะมีแกนนำคนอื่น ๆ ที่มาร่วมปราศรัยอีก เช่น มายด์
ภัสราวลี, สมยศ พฤกษาเกษมสุข, บอย ธัชพงศ์, และ อานนท์ นำภา
รวมถึงจะมีการอ่านแถลงการณ์แสดงจุดยืนจากพรรคอาทิตย์ใหม่ รวมถึงจะมีการแสดงดนตรีสดจากวงสามัญชนด้วย
สำหรับบรรยากาศการจัดกิจกรรมเริ่มมีกลุ่มนิสิตและประชาชนทั่วไทยมาจับจองพื้นที่ในการร่วมรับฟังการปราศรัย
รวมถึงยังมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ามาจอดขายอาหารและของที่ระลึกด้วย
เวลา
18.00 น. มีการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ คือการชักธงดำ ขึ้นสู่ยอดเสาธงรวงข้าว
หน้าหอประชุมใหญ่มฟาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน และมีการเปิดเพลง "Do
You Hear the People Sing?" หนึ่งเพลงประกอบภาพยนตร์ Les
Miserable
ผู้ปราศรัยท่านแรก
ผศ.ดร.ศรันย์ สมันตรัฐ สาขาวิชาภมูิสถาปัตยกรรมคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ :
ตราบใดที่เรายังมีเสรีภาพทางวิชาการ เราก็จะมีพลังในการค้นหาความจริง
และ เวลาอยู่ข้างเราก็จริง แต่เงินภาษีของเราอยู่ที่ข้างเขา อยากให้มันจบที่รุ่นเรา
อย่าให้เงินภาษีของเราเป็นค่าไถ่
ช่วยกันเปลี่ยนประเทศนี้จากรังโจรให้เป็นประเทศจริง ๆ
อย่าให้เป็นรังโจรที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างที่มันเป็นอยู่หรือกำลังจะเป็น
น้องกะทิ
ตัวแทนจากพรรคอาทิตย์ใหม่ ม.เกษตรศาสตร์ : 19 ก.ค. 2566 เป็นวันที่ทำให้เราทุกคนรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย ทำให้เรารู้ว่า
14 ล้านเสียงของเราไม่มีความหมายเลย
สิ่งที่ส.ว.ได้ทำลงไปนั้นเป็นเหมือนการดูถูกเสียงของประชาชน
เป็นการไม่ให้เกียรติเสียงข้างมาก
อย่างนี้เราจะกล้าพูดได้อย่างไรว่าประเทศไทยมีระบอบการปกครองอยู่ในกรอบของประชาธิปไตย
มายด์
ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล : วันนี้เรามารวมตัวกันเพราะความคับแค้นใจที่เกิดขึ้นจากรัฐสภา
ความคับแค้นใจที่เกิดจากผลพวงของรัฐประหารที่มาคู่กับรัฐธรรมนูญ 60 มาด้วยความคับแค้นใจที่เราออกไปเลือกตั้งกันมาแล้ว
แต่เราก็ไม่ได้รัฐบาลอย่างที่เราอยากได้ เราแบกความฝันความหวังไปเลือกตั้ง
แต่สุดท้ายเราต้องมาติดล็อคที่ส.ว. 250 คน
ที่เราไม่ได้เลือกมา เลือกตั้งเสร็จแล้วไม่แล้ว เลือกตั้งเสร็จแล้วต้องออกมาปกป้องคะแนนเสียงของเราอีก
มันเป็นสิ่งที่เราต้องออกมาเพราะคนในสภามองข้ามหัวเรา
พวกเราไม่ได้ออกมาปกป้องก้าวไกล ไม่ได้ปกป้องพิธา
แต่พวกเราออกมาปกป้องผลการเลือกตั้งที่พวกเราไปเลือกมา
สมยศ
พฤกษาเกษมสุข :
วันนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น แค่การอุ่นเครื่องของการชุมนุมต่อสู้ภาคประชาชน
การประชุมรัฐสภาในวันที่ 13 ก.ค. 66 ได้ทำลายมติมหาชน
ทำลายหลักการเสียงส่วนใหญ่ในการจัดตั้งรัฐบาลลง
หมายความว่าพวกส.ว.ได้เหยียบหัวประชาชน พอมาวันที่ 19 ก.ค.
ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ “พิธา” หยุดปฏิบัติหน้าที่ วันนี้ก้าวไกลส่งไม้ต่อให้เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
27 ก.ค.นี้ ผลการโหวต “เศรษฐา” ก็เหมือนเดิม
เพราะเขาอยากให้ก้าวไกลออกไปจากการเป็นรัฐบาล ให้ไปเป็นฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้น 8 พรรคร่วมฯ จะแตกแถวไม่ได้ ยืนหยัดต่อสู้จนกว่าจะได้นายกฯ จาก 8 พรรคร่วมฯ
บอยด์
ธัชพงศ์ แกดำ :
เราต้องการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองที่เราถูกยึดอำนาจมาตลอด 9 ปี ให้เป็นขั้วทางการเมืองของรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย แต่วันนี้เรากำลังสูญเสียโอกาสหลาย
ๆ เรื่อง ตอนนี้ส.ว.กำลังทำหน้าที่จัดตั้งรัฐบาลแทนส.ส. สิ่งที่ศักดินาทำตอนนี้มันเป็นการดิ้นครั้งสุดท้ายของพวกเขา
พวกเราคือปีศาจแห่งกาลเวลาที่คอยหลอกหลอนพวกเขาให้หนีตายทุกวินาที
อานนท์
นำภา : นายกฯต้องมาจากฝ่ายประชาธิปไตยที่เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก
และต้องไม่ใช่นายกฯฟอกขาวของเผด็จการ /
มีส.ส.บางพรรคที่มาแอบอิงฝั่งประชาธิปไตย วันนี้มาบอกว่าก้าวไกลต้องเสียสละ
เสียสละอะไร เขาชนะอันดับ 1 ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 ส.ส.มากที่สุด / การที่เขา (ก้าวไกล)
กล้าเสนอนโยบายที่แหลมคมนั่นคือการเสียสละของพวกเขาแล้ว
จากนั้นเป็นการอ่านแถลงการณ์ของพรรคอาทิตย์ใหม่
โดยยืนยัน 3
ข้อเรียกร้องของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้แก่ 1.
สมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ขัดขวาง และอนุวัติตามเจตจำนงของประชาชน
ด้วยการลาออกจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาโดยทันที 2. พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย 8
พรรค ต้องธำรงความสามัคคีอย่างเหนียวแน่น จับมือร่วมกันเพื่อรักษาความเป็นปึกแผ่นในพรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตยอย่างมั่นคง
และ 3. พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย 8 พรรค ต้องยึดมั่นในสัญญาข้อตกลงร่วม
และไม่ลดระดับสัญญาทางนโยบายใด ๆ ที่ได้ให้ไว้แก่พี่น้องประชาชน
จบการปราศรัยเป็นการเล่นดนตรีของวงสามัญชน
อาทิ เพลงเราคือเพื่อนกัน ก่อนยุติการชุมนุมและประกาศให้ผู้ชุมนุมช่วยกันเก็บขยะซึ่งเป็นภาพที่คุ้นชินในการชุมนุมที่ผ่านมา
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ม็อบ21กรกฎา66 #KUไม่เอาสว #KUสั่งให้มึงลาออก