วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ธิดา ถาวรเศรษฐ : ไม่ต้องการพูดให้เสียกำลังใจนะ แต่ตอนนี้คนที่ support พรรคเพื่อไทย อาจจะเหลือครึ่ง/ครึ่งก็ได้

 


ธิดา ถาวรเศรษฐ : ไม่ต้องการพูดให้เสียกำลังใจนะ แต่ตอนนี้คนที่ support พรรคเพื่อไทย อาจจะเหลือครึ่ง/ครึ่งก็ได้


[ถอดเทป] คนดังนั่งเคลียร์ "พรรคประชาชน" ท้ารบ "ทักษิณ" ศึกนี้แพ้ไม่ได้!!


ออกอากาศวันที่ 19 พ.ย. 67 ทาง ช่อง 8

ดำเนินรายการโดย เมย์ ชนิตร์นันทน์ ปุณณะนิธิ

ลิ้งค์ยูทูป : https://www.youtube.com/watch?v=1SYCcukqPSM


***อาจารย์ธิดาเป็นอดีตประธานนปช. และเป็นอดีตคนเสื้อแดงด้วยมั้ยคะ?***


คนเสื้อแดง” หมายถึง คนที่มีจิตวิญญาณรักประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการ ต่อต้านการสืบทอดอำนาจ ตราบเท่าที่คุณยังต่อต้านเผด็จการ ต่อต้านการสืบทอดอำนาจ ไม่เอาพวกจารีตนิยม อำนาจนิยม นั่นก็คือจิตวิญญาณของคนเสื้อแดง เป็นอดีตไม่ได้ เพราะฉะนั้น อาจารย์จะไม่มีวันเป็นอดีตคนเสื้อแดง และอาจารย์มองว่าผู้รักประชาธิปไตยปัจจุบัน ไม่ว่าจะใส่เสื้อสีพรรคอะไร แต่ถ้าจิตวิญญาณเป็นแบบนี้ คุณก็คือคนเสื้อแดง แม้ว่าขณะนี้จะเป็นโหวตเตอร์ให้พรรคอื่น พรรคใหม่ หรือพรรคอะไรก็ตาม แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ข้ามขั้ว หรือไปสนับสนุนเผด็จการ หรือพวกสืบทอดอำนาจ นั่นไม่ใช่คนเสื้อแดง!!!


ถ้าพูดกันตรง ๆ “พรรคเพื่อไทย” ปัจจุบันมาจาก “พรรคไทยรักไทย” สีเดิมไม่ใช่สีแดง เป็นเสื้อสีขาว ก็ยังดีใจเพราะว่าเห็นคุณทักษิณแกใส่เสื้อสีน้ำเงินบ้าง สีขาวบ้างนะ แต่ว่าการเคลมว่าคนเสื้อแดงเป็น support พรรคเพื่อไทยทั้งหมด มันไม่ใช่!!!


***แล้วตอนนี้คนที่ support พรรคเพื่อไทย ยังเหลือสักกี่คน?***


ใน 10 ล้านคนที่เลือกพรรคเพื่อไทยครั้งที่แล้ว (การเลือกตั้ง 2566) อาจารย์ก็ไม่ต้องการพูดให้เสียน้ำใจนะ เพราะว่าจะเห็นได้ชัดที่คุณทักษิณลงพื้นที่ครั้งนี้ อาจารย์มองว่าเป็นยุทธศาสตร์ระยะยาวด้วย ไม่ใช่ทำเฉพาะที่อุดรธานี เป็นยุทธศาสตร์ระยะยาว เป็นเรื่องของการวางยุทธศาสตร์บ้านใหญ่ แต่สำหรับคนเสื้อแดงจริง ๆ ก็คือในช่วงปี 2566 เสียงที่เพื่อไทยได้ประมาณ 10 ล้านเสียง ตอนนั้นได้ในฐานะที่คนเลือกแบบยุทธศาสตร์ด้วย กับคนที่เป็น FC ด้วย


คนเลือกแบบยุทธศาสตร์คือเขาจะดูว่าเขตนี้ก้าวไกลจะชนะมั้ย หรือว่าเพื่อไทยจะชนะ ถ้าพรรคไหนมีท่าจะชนะ เขาจะเลือกพรรคนั้น เพราะเขาเชื่อว่าสองพรรคนี้เป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตย จะมีคนที่โหวตแบบยุทธศาสตร์จำนวนหนึ่ง อาจารย์ประเมินว่าใน 10 ล้านเสียง ไม่ใช่ FC ทั้งหมด แต่อย่าให้เสียกำลังใจนะ อาจจะเหลือครึ่งต่อครึ่งก็ได้ และเขาก็มีสิทธิ์ที่จะหาเสียงใหม่เพิ่มได้ ดังนั้น การตระเตรียมตั้งแต่ตอนนี้ก็เป็นการวางแผนระยะยาว เพราะอาจารย์เชื่อว่าเพื่อไทยต้องเปลี่ยนวิธีการหาเสียง เพราะจากฐานเสียงที่เป็นพลังประชาธิปไตยเดิมถูกแย่งไปเยอะ ก็จำเป็นที่จะใช้ยุทธศาสตร์บ้านใหญ่ หรือแบบการเมืองแบบเดิมแบบเก่า เพื่อที่จะทำให้คะแนนเสียงมากขึ้น มันคือความเสี่ยง!!!


เพราะฉะนั้น เวลาลงพื้นที่เราก็จะไม่ได้ยินการพูดถึงเรื่องการหาเสียงทางการเมือง แต่จะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ, แจกเงิน, ยาเสพติด อะไรทำนองนี้มากกว่า (ผู้ดำเนินรายการ : เป็นยุทธศาสตร์ที่เคยประสบความสำเร็จมา) เคยประสบความสำเร็จ ในยุคนั้นไม่มีวิกฤตการเมือง เราเพิ่งได้รัฐธรรมนูญ 2540 เขามาถูกที่ถูกเวลา เหมือนพรรคก้าวไกลก็มาถูกที่ถูกเวลาตอนหลัง เพราะเป็นวิกฤตการเมือง แต่สมัยคุณทักษิณ (ไทยรักไทย) เป็นวิกฤตเศรษฐกิจ เพราะว่าการเมืองเราเพิ่งได้รัฐธรรมนูญ 2540 ตอนนั้นคนกำลังลำบากมาก แล้วคุณทักษิณไม่ได้มาคนเดียว มาพร้อมกับคณะทำงานจำนวนมากและเป็นสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นในการเมืองไทย ดังนั้นถูกที่ถูกเวลา ก็มาจัดการปัญหาเศรษฐกิจ เพราะการเมืองเมื่อเราได้รัฐธรรมนูญ 2540 ก็ดูดีหมดแล้ว เหมือนไม่มีอะไรแล้วนะ เพราะฉะนั้นคะแนนเสียงจึงได้ท่วมท้น


แต่มาตอนนี้ตัวอาจารย์เองมองว่า คนเขาฉลาด เขารู้แล้วว่าวิกฤตการเมืองสำคัญกว่า มิฉะนั้นพรรคก้าวไกลจะไม่ได้คะแนนเสียงมากขนาดนี้ แล้วเขาก็มองได้ว่า วิกฤตการเมืองคือสาเหตุของวิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤตทางสังคม


***อย่างที่อ.ธิดาบอกคือคุณทักษิณมองว่า คือยุทธศาสตร์ภาพรวมภาพใหญ่ที่คุณทักษิณไม่ได้มองแค่อุดรฯ แต่มองภาพใหญ่ว่านี่คือยุทธศาสตร์บ้านใหญ่ที่จะต้องเอากลับมา เพื่อในอนาคตจะต้องสู้กับพรรคประชาชน***


คือในระดับภาพรวม ฐานเสียงผู้รักประชาธิปไตยซึ่งเป็นฐานเสียงเดิมที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยถูกแบ่งไปจำนวนมากให้กับพรรคใหม่ ยังไม่นับคนรุ่นใหม่ ซึ่งคนรุ่นใหม่ค่อนข้างจะเกือบ 100% เป็นพรรคใหม่ไปแล้ว แต่ในส่วนคนดั้งเดิมที่ถูกดึงฐานเสียง ดังนั้นคุณทักษิณก็ต้องกลับมาตั้งหลักที่ยุทธศาสตร์บ้านใหญ่แบบดั้งเดิม แต่ว่าก็ต้องทำระดับชาติไปด้วย ก็เลยมีแซะโน่นแซะนี่ประมาณ “เป็นผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน” อะไรอย่างนั้น แล้วก็พวกนี้เด็ก ๆ เตือนแล้วก็ยังไม่ฟัง อะไรประมาณนั้น


ซึ่งก็ทำให้เกิดสีสันทางการเมือง พรรคประชาชนก็รู้สึกว่าถูกดิสเครดิตหรืออะไร ก็จำเป็นต้องออกมาพูด อาจารย์ก็ดู ก็เป็นเรื่องที่ดี เป็นเรื่องที่ประชาชนจะได้เรียนรู้ อาจารย์เชื่อว่าคนภาคอีสานเขามีประวัติศาสตร์ของการต่อสู้มายาวนาน เฉพาะจังหวัดอุดรฯ ที่ลงคะแนนเสียงไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญ 2560 จำนวน 3.6 แสนคน ถ้าคิดเป็นภาพรวมที่ไม่รับมัน 50 กว่าเปอร์เซ็น


คือภาคอีสานเป็นภาคเดียวในประเทศไทยที่ไม่รับรัฐธรรมนูญของคณะรัฐประหารมากกว่าภาคอื่น อย่างภาคใต้ที่ไม่รับรัฐธรรมนูญดูเหมือนจะ 9 แสนคน ทั้งภาคเลยนะ นี่ยกตัวอย่าง เพราะฉะนั้น ภาคอีสานเป็นภาคผู้รักประชาธิปไตยทั้งหมด ก็เรียกว่าเป็นฐานเสียงเดิมของคุณทักษิณด้วย คุณทักษิณก็คงจะต้องใช้ทั้งยุทธศาสตร์บ้านใหญ่และไปดึงคนเสื้อแดงกลับมาด้วย


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ทักษิณ #เพื่อไทย #อบจอุดร #พรรคประชาชน