อัยการสูงสุด
ส่งความเห็นถึงศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับดำเนินการคดีทักษิณ-เพื่อไทยล้มล้างการปกครอง
วานนี้
(18 พฤศจิกายน 2567) มีรายงานว่า นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด
ได้ลงนามตอบถ้อยคำต่อศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง)
ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49
โดยกล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคเพื่อไทย
(ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ทั้งนี้
ศาลรัฐธรรมนูญได้มีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุดเพื่อขอทราบว่าได้ดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้องไปแล้วอย่างไร
และรวบรวมพยานหลักฐานได้เพียงใด โดยให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน ซึ่งเดิมนั้นรายงานที่อัยการสูงสุดส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญมีข้อมูลในการสอบถ้อยคำ
ทั้งทางฝั่งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง โดยในส่วนผู้ถูกร้องทราบว่าไม่ได้มีการสอบถ้อยคำ
ทักษิณ ชินวัตร
อย่างไรก็ตาม
มีรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 8 พฤศจิกายน
นอกจากอัยการสูงสุดจะส่งบันทึกสอบถ้อยคำทั้งพยานฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
ยังมีความเห็นแจ้งไปยังศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าเรื่องนี้ไม่เข้าหลักเกณฑ์ว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง
ทางอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ ซึ่งเป็นไปตามความเห็นของคณะทำงานที่เสนอมายังอัยการสูงสุดก่อนหน้านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
สำหรับรัฐธรรมนูญมาตรา 49
บัญญัติไว้ว่า
บุคคลจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้
ผู้ใดทราบว่ามีการกระทำตามวรรคหนึ่ง
ย่อมมีสิทธิร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าวได้
ในกรณีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ
หรือไม่ดำเนินการภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ
ผู้ร้องขอจะยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ การดำเนินการตามมาตรานี้ไม่กระทบต่อการดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำการตามวรรคหนึ่ง
จึงเท่ากับว่าแม้อัยการสูงสุดจะมีมติไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ
แต่ศาลรัฐธรรมนูญจะยังมีอำนาจพิจารณาคดีต่อไปได้
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #อัยการสูงสุด #ศาลรัฐธรรมนูญ #ทักษิณชินวัตร #พรรคเพื่อไทย