ทานตะวัน
ตัวตุลานนท์ : อยากให้ผู้มีอำนาจได้ตระหนักว่าคุณมีทุกอย่างที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
เพียงแต่มีความกล้าที่จะทำ
ณ
สดมภ์นุสรณ์ ลานนวมทองไพรวัลย์
หน้า
สำนักงานใหญ่ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
เมื่อวันที่
31 ตุลาคม 2567
สวัสดีทุกคนอีกครั้งหนึ่ง
วันนี้เรามาเจอกันที่งานรำลึกอีกแล้ว
รู้สึกมั้ยคะว่าเราเจอกันบ่อยมากเลยในงานรำลึกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรำลึก 48 ปี 6ตุลา, งานรำลึกน้องวาฤทธิ์ รวมถึงวันนี้ที่งานรำลึกของลุงนวมทอง ไพรวัลย์
เองก็ตาม ซึ่งเราคงไม่อยากให้มีงานรำลึกการครบรอบการเสียชีวิตของใครอีก เราไม่อยากให้มีชีวิตต้องมาสูญเสียเพราะเผด็จการ
เพราะอำนาจที่มันไม่เป็นธรรมอีก
ในวันนี้ที่เรามาร่วมกันรำลึกลุงนวมทองซึ่งเป็นคนขับแท็กซี่คนหนึ่งที่มีความกล้าหาญ
ต้องพูดก่อนว่าเราตรงนี้ก็เป็นคนธรรมดาเหมือนกับคุณลุงนวมทองนั่นแหละค่ะ
เราไม่มีอำนาจ เราไม่มีกฎหมายในมือ เราไม่มีอะไรเลย
แต่เราเป็นประชาชนที่มีอุดมการณ์ มีความกล้าหาญ
และเรารู้ว่าเรากำลังสู้เพื่ออะไรอยู่เหมือนกับลุงนวมทอง
เพราะว่าเราไม่มีอะไรเลยนี่แหละค่ะ
คุณลุงนวมทองก็เลยเป็นคนอีกคนหนึ่งที่ใช้ทุกอย่างที่เขามี
ไม่ว่าจะเป็นรถแท็กซี่ของเขาที่เป็นเครื่องมือทำมาหากินอย่างหนึ่งในการขับพุ่งชนรถถัง
ซึ่งเป็นอะไรที่กล้าหาญมาก ๆ จนวันนี้เมื่อ 18 ปีที่แล้ว
ท้ายที่สุดเขาก็ตัดสินใจใช้ชีวิต
เป็นอีกอย่างหนึ่งสุดท้ายที่เขาเหลืออยู่ในการประท้วงและบ่งบอกว่ามันมีจริง ๆ ค่ะ
คนที่เขาพร้อมตายเพื่ออุดมการณ์ มันมีจริง ๆ ประชาชนที่เขามีความกล้าหาญและมีอุดมการณ์
คุณอย่าคิดว่าสิ่งที่เราทำที่เราสู้
เราไม่ได้สู้เพื่อตัวเองเหมือนคุณ เราไม่ได้สู้เพื่อผลประโยชน์ของเราเหมือนผู้มีอำนาจที่ตอนนี้ก็เสวยสุขกันอยู่
แต่ว่าเราสู้เพื่อทุกคนจริง ๆ เพราะฉะนั้น หนูก็เลยอยากจะบอกว่าคุณลุงนวมทองเป็นหนึ่งคน
รวมถึงพี่บุ้งเองก็ตามที่เพิ่งเสียชีวิตไปในเรือนจำ
เมื่อเราก้าวขาเข้าไปในเรือนจำแล้วเราไม่เหลืออะไรเลย เราเหลือแต่ร่างกายของเรา
ทุกอย่างเราถอดออกหมด เราเหลือแค่ชีวิต เราเหลือแค่ร่างกาย เราเหลือแค่อุดมการณ์
มันเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เราสามารถใช้เพื่อบอกได้ว่าเรายังสู้อยู่ เรายังไม่ยอม
และแน่นอนว่าการต่อสู้ของพี่บุ้งก็โดนสบประมาท
โดนคำเหยียดหยามมากมาย เช่นเดียวกับคุณลุงนวมทองที่นายทหาร พ.อ.อัคร ทิพโรจน์
รองโฆษก คปค. สมัยนั้นที่บอกว่า “ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้” ตอนหนูอดอาหาร
ตอนพี่บุ้งอดอาหารเอง เราก็โดนแบบนั้นเหมือนกันค่ะ เขาบอกว่าเดี๋ยวเราก็กิน
เดี๋ยวเราก็แอบกิน ไม่ตายหรอก แต่เรารู้อยู่แก่ใจค่ะ เรารู้อยู่แก่ใจดี ในช่วงจังหวะที่เรากำลังจะตาย
ช่วงจังหวะที่หัวใจเราเต้นผิดจังหวะจริง ๆ เรารู้อยู่แก่ใจว่าเรากำลังสู้ เราเลยไม่ได้สนคำสบประมาทหรือคำเหยียดหยามเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย
เลยอยากจะบอกทุกคนว่าหนูไม่อยากให้มีใครต้องมาสูญเสียไปอีกแล้ว
ไม่อยากต้องมาจัดงานรำลึกครบรอบกี่ปีให้กับชีวิตอีกมากมายที่อาจจะต้องมาสูญเสียในเส้นทางนี้
ซึ่งไม่อยากให้มีหรือเกิดขึ้นอีก ในวันนี้เราอยู่กันตรงนี้แล้ว หลาย ๆ คนก็ได้มาพูดเรื่องนิรโทษกรรมไปแล้ว
หนูรู้สึกว่าเรื่องนิรโทษกรรมเป็นการแก้ปัญหาอย่างหนึ่งที่ดี และถ้ารวม 112
ด้วยจะสามารถช่วยขจัดความขัดแย้งได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วข้อเรียกร้องของพี่บุ้งในเรื่องของการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมก็สำคัญเช่นกัน
เพราะตราบใดที่ต่อให้เรามีการนิรโทษกรรมแล้วรวม 112 เองก็ตาม
แต่ถ้ากระบวนการยุติธรรมซึ่งเป็นอำนาจตุลาการ อำนาจที่สามารถชี้ขาดได้ว่าสิ่งไหนถูก
สิ่งไหนผิด เป็นอำนาจที่สำคัญมาก
ถ้ามีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
ไม่มีใครต้องโดนกระทำเหมือนนักการเมืองหรือหลาย ๆ
คนที่ได้รับความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอากง
ไม่ว่าจะเป็นพี่บุ้งเองก็ตาม สุดท้ายหากนิรโทษกรรมได้แล้ว
การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมยังคงล้มเหลวอยู่ ยังคงไม่เกิดขึ้น
ผู้พิพากษายังคงไม่มีความเป็นอิสระจริง ผู้พิพากษายังไม่มีความกล้า
มีแต่อำนาจแต่ไม่มีความกล้า
เราจะกลับมาวนอยู่จุดเดิมแล้วก็บอกให้มีนิรโทษกรรมเหมือนเดิม มีการบอกให้ปล่อยเพื่อนเราเหมือนเดิม
เพราะฉะนั้น ข้อเรียกร้องของพี่บุ้งก็สำคัญมากเช่นกันที่ต้องการให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
เพื่อไม่ให้เรากลับมาวงจรอุบาทว์เช่นนี้อีก
อยากฝากถึงผู้มีอำนาจทั้งหลาย
คุณมีอำนาจแล้ว คุณมีทุกอย่างที่สามารถเปลี่ยนแปลงระบบ เปลี่ยนแปลงอะไรได้
แล้วก็ช่วยเหลือคนที่ถูกความไม่ยุติธรรมกระทำได้ คุณมีอำนาจ คุณมีทุกอย่างเลย
แต่คุณขาดสิ่งที่คุณลุงนวมทองมี คุณขาดในสิ่งที่พี่บุ้งมี คือความกล้าหาญ
ความกล้าของมนุษย์คนหนึ่ง คุณอาจจะรู้สึกว่าคุณมีอำนาจ มีเงิน มีทุกอย่าง
แต่สุดท้ายแล้วหากคุณไม่มีความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงอะไร
คุณลืมไปว่าคุณเรียนนิติศาสตร์มาเพื่ออะไร คุณเรียนตำรวจ
คุณเรียนเพื่อที่จะมาเป็นอัยการเพื่ออะไร
สุดท้ายแล้วมันก็จะยังล้มเหลวอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ
เพราะฉะนั้น
ก็เลยอยากจะฝากไปถึงผู้ใหญ่หลาย ๆ คน ช่วยตระหนักถึงตรงนี้ด้วย
แล้วก็ช่วยมีความกล้าให้มากพอเหมือนกับเด็ก ๆ คนอื่น หรือว่าคุณลุงนวมทองหรือคนอื่นที่เขามีความกล้า
ท้ายที่สุดหนูก็อยากจะขอบคุณผู้ใหญ่หลาย
ๆ คน อ.ธิดา หรือหมอเหวง และหลาย ๆ คนก็ตามที่ให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด
ขอบคุณที่ยังมีผู้ใหญ่ใจดีที่ยังรับฟังเด็กอย่างพวกเราด้วย
ต่อให้เราโดนทำร้ายมามากแค่ไหนจากผู้ใหญ่ที่ใจร้าย แต่ว่ายังมีพื้นที่ตรงนี้
มีพ่อแม่พี่น้องทุกคน ก็ขอบคุณมากเลยค่ะ อยากให้ทุกคนมีความหวังต่อไปนะคะ
เราอาจจะโดนทำร้ายกันมามาก แต่ว่ามันก็ทำร้ายเราได้แค่นี้แหละค่ะ ขอบคุณค่ะ
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #นวมทองไพรวัลย์ #ต่อต้านรัฐประหาร #แท็กซี่ชนรถถัง