‘จุลพันธ์‘
ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองกับ Binance
TH ชูบทบาทไทยต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล
ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญต่อภาคการลงทุนผ่าน Investment token ควบคู่การให้ความรู้แก่ประชาชน
หวัง GDP ปี 2567 ขยายตัว 2.8%
วันที่
21 พฤศจิกายน 2567 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
ร่วมกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “Outlook
of Digital Asset in Thailand: ทัศนียภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยและแนวโน้มสินทรัพย์ดิจิทัล”
ในงาน Chain and Champagne โดย Binance TH โดยมีนายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
นายนิรันด์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท กัลฟ์
ไบแนนซ์ จำกัด
พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงและผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัลเข้าร่วมด้วย
นายจุลพันธ์กล่าวว่า
ภายหลังที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ทำให้ราคาบิทคอยน์พุ่งสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 94,000 ดอลลาร์
นั่นหมายถึงศักยภาพของสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะเป็นตลาดทางเลือกในการลงทุนให้แก่ประชาชน
โดยล่าสุดรัฐบาลได้มีการอนุมัติโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment token) ภายใต้การกำกับดูแลของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
เพื่อยกระดับมาตรฐานการลงทุนในไทยให้เทียบเท่าระดับสากล
อีกทั้งยังส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมด้านการเงินและเทคโนโลยีในตลาดทุน
นายจุลพันธ์กล่าวต่อว่า
รัฐบาลยังให้ความสำคัญในเรื่องของ Digital literacy เนื่องจากเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
และถือเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตของประชาชน
สังคมมีความเปลี่ยนแปลงไปด้วยเทคโนโลยี
ดังนั้นการทำให้ประชาชนสามารถปรับตัวให้สอดรับกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป
จึงเป็นเรื่องจำเป็นโดยเฉพาะในภาคของเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลพยายามผลักดันเรื่องนี้ผ่านนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่ตั้งเป้ากระตุ้นเศรษฐกิจและพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลในกลุ่มประชาชนและผู้ที่ยังไม่คุ้นชินกับเทคโนโลยี
ตลอดจนในเรื่องของ Financial literacy เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการลงทุนในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
นายจุลพันธ์กล่าวย้ำว่า
การได้มาร่วมงานในครั้งนี้ถือเป็นการมาให้คำสัญญาว่ารัฐบาลจะมอบโอกาสและทำให้การลงทุนในภาคสินทรัพย์ดิจิทัลง่ายขึ้น
เพื่อให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านสินทรัพย์ดิจิทัลในภูมิภาค
พร้อมย้ำแนวคิดที่รัฐบาลและภาคเอกชนเป็นพาร์ทเนอร์กัน โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้ตลาดนี้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
“สุดท้ายรัฐบาลยังมีความหวังว่าอาจจะเห็น
NFT ของไทยหรือสินทรัพย์ดิจิทัลสัญชาติไทยที่สามารถไปโลดแล่นในเวทีโลก
รวมถึงการเป็นยูนิคอร์น (Unicorn) ใหม่ๆ
ที่สามารถสร้างมูลค่ามหาศาลทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยได้ในอนาคต“
นายจุลพันธ์กล่าวในที่สุด