“ชลธิชา-สหัสวัต”
แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสียจากสถานการณ์ความรุนแรงในอิสราเอล
ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทำงานเต็มที่ แนะกระทรวงต่างประเทศ-กระทรวงแรงงาน
ร่วมทำงานใกล้ชิดประเมินสถานการณ์ ทบทวนการส่งแรงงานไทยไปประเทศมีสงคราม
วันที่
2 พฤศจิกายน 2567 ชลธิชา แจ้งเร็ว สส.ปทุมธานี เขต 3
ในฐานะกรรมาธิการการต่างประเทศ และ สหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี เขต 7
พรรคประชาชน
กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงของสงครามในอิสราเอลและข้อเสนอถึงรัฐบาลไทยในการดูแลดูแลเยียวยาแรงงานไทยในอิสราเอล
โดยข้อมูลเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนตามการรายงานของกระทรวงการต่างประเทศ
มีแรงงานไทยเสียชีวิต 4 คน บาดเจ็บ 1 คน
จากจรวดที่ถูกยิงใกล้ชายแดนอิสราเอล-เลบานอน
ชลธิชากล่าวว่า
ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้สูญเสีย
และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ไทยทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ในการประสานให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยในยามวิกฤต
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น ตนขอเสนอให้ (1) กระทรวงแรงงานทบทวนการส่งแรงงานไทยไปทำงานในอิสราเอลและประเทศที่มีสงคราม
เปลี่ยนเป็นการบุกเบิกตลาดแรงงานในประเทศใหม่ๆ
ที่มีความต้องการแรงงานไทยและไม่มีสงคราม นอกจากนั้น
กระทรวงแรงงานต้องเร่งฝึกพัฒนาฝีมือแรงงานไทยให้เป็นที่ต้องการในตลาดแรงงานมากขึ้น
(2)
เสนอให้มีการประชุมและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้นระหว่างกระทรวงแรงงานและกระทรวงการต่างประเทศ
เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาทั้ง 2 หน่วยงานยังขาดการประชุมวิเคราะห์สถานการณ์และกำหนดนโยบายต่อกรณีดังกล่าวร่วมกัน
ชลธิชากล่าวต่อว่า
ทราบว่ามีแรงงานไทยหลายคนที่ยังไม่ประสงค์เดินทางกลับประเทศ
เนื่องจากภาระหนี้สินจากการกู้ยืมเงินเพื่อใช้ในเดินทางมาทำงาน ตนและ
กมธ.การต่างประเทศ
มีข้อเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมรับมือสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นตลอดเวลา
ไม่ว่าจะเป็น การเตรียมแผนสำรองอพยพแรงงานไทย การประชาสัมพันธ์ช่องทางการช่วยเหลือ
ที่รวมถึงเงินสำหรับให้แรงงานไทยกู้ยืมเพื่อใช้เดินทางกลับ
โดยขอขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศที่ทำหน้าที่ประสานให้ความช่วยเหลือการอพยพคนไทยกลับประเทศในยามวิกฤตมาโดยตลอด
ด้านสหัสวัตกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ไทยที่ทำงานอย่างหนักในช่วงเวลาที่ยากลำบากและส่งกำลังใจให้แรงงานไทยทุกคนในอิสราเอลรวมถึงครอบครัว
พร้อมย้ำไปทางกระทรวงแรงงานให้พิจารณาออกมาตรการร่วมกับรัฐบาลอิสราเอลและบริษัทจัดหางาน
13 บริษัท ที่ทำหน้าที่จัดส่งและดูแลแรงงานไทยในอิสราเอล
ให้มีมาตรการติดตามแรงงานไทยว่าอยู่ที่ไหน เพื่อที่เมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
จะสามารถเข้าช่วยเหลือได้เร็วที่สุด