วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ปล่อยตัว “4 เสื้อแดง” คดียิง M79 ใส่ กปปส. ภายหลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ เจ้าตัวขอบคุณทุกคน บอกมีความสุขมาก ๆ หลังถูกจองจำ 10 ปี 3 เดือน

 


ปล่อยตัว “4 เสื้อแดง” คดียิง M79 ใส่ กปปส. ภายหลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ เจ้าตัวขอบคุณทุกคน บอกมีความสุขมาก ๆ หลังถูกจองจำ 10 ปี 3 เดือน 


เมื่อวันที่ 4 พ.ย.67 เวลา 15.56 น. ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี นายชัชวาล หรือชัช ปราบบำรุง , นายสมศรี มาฤทธิ์ นายสุนทร ผิผ่วนนอก อายุ 52 ปี และนายทวีชัย วิชาคำ อดีตคนเสื้อแดง และ อดีตผู้ต้องหา คดียิงลูกกระสุนระเบิด เอ็ม 79 ใส่ผู้ชุมนุมกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) คดีหมายเลขดำ อ.3734/2557 โดยเมื่อเวลา 10.00 น. ที่ เรือนจำกลางบางขวาง ได้ปล่อยตัวอดีตผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ภายหลังจากได้รับพระราชทานอภัยโทษ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดตัวไปจากหมายคดีเก่าที่ยกฟ้องไป แล้วจึงต้องไปทำเรื่องลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองนนทบุรี และ สภ.รัตนาธิเบศร์


นายทวีชัย วิชาคำ เปิดเผยว่า วันนี้พวกตนมีความสุขมาก ๆ ที่ได้มาเจอลูกหลาน ภายหลังจากมีการพระราชทานอภัยโทษ ตนรู้สึกดีใจมาก ๆ สำหรับอิสรภาพ ที่ถูกจองจำนาน 10 ปี 3 เดือน ตนขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจและไม่ลืมกัน ซึ่งภายหลังการรัฐประหารปี 2557 พวกตนถูกจับกุมในข้อหาใช้อาวุธสงคราม ซึ่งศาลตัดสินพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต 


นายชัชวาล หรือชัช ปราบบำรุง กล่าวว่า ตนขอขอบคุณสำหรับกำลังใจจากพี่น้องประชาชนที่อยู่เบื้องหลังทุกคน คดีของตนมีความพิเศษกว่าใคร ตนถูกดำเนินทั้งหมด 16 คดี มียกฟ้องไปแล้ว 14 คดี วันนี้ตนได้อิสรภาพแล้ว ก็ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้กำลังใจเสมอมา 


นายชัชวาล เปิดเผยด้วยว่า ช่วงที่ตนถูกจับกุมที่จังหวัดเชียงราย ช่วงนั้นมีการประกาศกฎอัยการศึก และ จนท. นำตัวตนไปที่ค่ายทหาร หลังจากนั้นถูกซ้อมทรมาน ใช้สายไฟเสียบรูทวาร เพื่อให้ตนรับสารภาพ และนำตัวมาส่งที่กรมทหารราบที่ 11 


ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศที่ หน้าสถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ได้มีลูกหลานมารอต้อนรับและให้กำลังใจอย่างอบอุ่น 


สำหรับคดีดังกล่าว คดีหมายเลขดำ อ.3734/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายชัชวาล หรือชัช ปราบบำรุง อายุ 48 ปี , นายสมศรี มาฤทธิ์ อายุ 43 ปี , นายสุนทร ผิผ่วนนอก อายุ 52 ปี และนายทวีชัย วิชาคำ อายุ 42 ปี เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดต่อชีวิตฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ทำร้ายร่างกาย , พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 และความผิด ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2558 หลักฐานที่จำเลย นำสืบมา ไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบได้ จึงพิพากษาว่า จำเลยทั้งสี่ มีความผิดตามฟ้อง ให้ประหารชีวิตสถานเดียว แต่คำให้การของจำเลย เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยทั้งสี่ไว้ตลอดชีวิต และให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนผู้บาดเจ็บ 534,700 บาท ด้วย


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์