วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

พรรคประชาชนเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. 12 จังหวัด ชูนโยบาย 5 ด้าน ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ทำได้จริง ไม่ใช่แค่เทคนิคหาเสียง พร้อมโชว์เว็บไซต์ “พรรคประชาชน” ให้ประชาชนดูข้อมูลผู้สมัครแต่ละคนได้

 


พรรคประชาชนเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. 12 จังหวัด ชูนโยบาย 5 ด้าน ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ทำได้จริง ไม่ใช่แค่เทคนิคหาเสียง พร้อมโชว์เว็บไซต์ “พรรคประชาชน” ให้ประชาชนดูข้อมูลผู้สมัครแต่ละคนได้


วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 ที่ชั้น 7 อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคประชาชน ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และ ศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรค ร่วมแถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. พรรคประชาชน พร้อมชุดนโยบาย 5 ด้าน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้เท่าเทียมประเทศพัฒนาแล้ว


โดยศรายุทธิ์กล่าวว่า การเอาชนะเลือกตั้งท้องถิ่นทุกระดับของพรรคประชาชนมีความสำคัญมากอย่างน้อย 2 ประการ (1) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน อันเป็นเป้าหมายสำคัญตั้งแต่ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ มาสู่อดีตพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชน (2) เพื่อเข้าไปสร้างประสบการณ์การบริหารงานจริงในระดับท้องถิ่น ให้รู้ข้อจำกัด อุปสรรคของกฎหมาย ซึ่ง สส.พรรคประชาชน จะนำไปปรับปรุงแก้ไขผลักดันในสภาฯ ต่อไป


การเปิดรับสมัครผู้ลงเลือกตั้งท้องถิ่นดำเนินการตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ผู้สมัครทุกคนต้องผ่านกระบวนการสัมภาษณ์ของคณะกรรมการสรรหาที่มีองค์ประกอบจากส่วนกลางและระดับจังหวัด เมื่อผ่านการสัมภาษณ์แล้วต้องผ่านการอบรมอีก 2-3 เดือน มีหลักสูตรความรู้ความเข้าใจพื้นฐาน อุดมการณ์ แนวคิดนโยบาย ข้อกฎหมาย นโยบายสาธารณะต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานท้องถิ่น


ที่สำคัญคือการเก็บข้อมูลความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่เพื่อนำมาร่างนโยบาย ใช้เวลาหลายเดือนปรับปรุงแก้ไขจนมั่นใจว่าจะสามารถทำได้จริงหากได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้เข้าไปเป็นนายก อบจ. ดังนั้นยืนยันกับประชาชนว่าทุกนโยบายไม่ใช่เทคนิคการหาเสียงแน่นอน


สำหรับรายชื่อเพิ่มเติม ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. ของพรรคประชาชน จำนวน 12 คน ประกอบด้วย

1. พันธ์ุอาจ ชัยรัตน์ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

2. วีระเดช ภู่พิสิฐ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ลำพูน

3. สุพจน์ สุอริยพงษ์ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.มุกดาหาร

4. อุรุยศ เอียสกุล ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.หนองคาย

5. ชลธี นุ่มหนู ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ตราด

6. นพ.เลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ภูเก็ต

7. นพ.จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี

8. สุทธิโชค ทองชุมนุม ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.พังงา

9. นิรันดร์ จินดานาค ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.สงขลา

10. นันทิยา ลิขิตอำนวยชัย ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรสงคราม

11. นพดล สมยานนทนากุล ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรปราการ

12. เลิศมงคล วราเวณุชย์ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.นนทบุรี


ศรายุทธิ์ กล่าวด้วยว่า ทุกคนสามารถดูข้อมูลของว่าที่ผู้สมัครทั้ง 12 จังหวัด รวมถึงผู้สมัครอีก 2 จังหวัดคือ คณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี เบอร์ 1 และ สิทธิพล เลาหะวนิช ผู้สมัครนายก อบจ.อุบลราชธานี เบอร์ 2 ผ่านเว็บไซต์ https://ppleth.ai/pao2025


ในเว็บไซต์ประกอบด้วย ประวัติผู้สมัคร ชุดนโยบายของแต่ละจังหวัด และช่องทางในการบริจาค ประชาชนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงและอยากเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงท้องถิ่นครั้งนี้ สามารถบริจาคผ่านเว็บไซต์นี้ได้ และหลังจากนี้ยังมีบางจังหวัดที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงนโยบาย จะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครเพิ่มเติมช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม ขอให้ประชาชนรอติดตาม


ด้านณัฐพงษ์กล่าวว่า พรรคประชาชนสื่อสารมาตลอดว่าเรามีเจตจำนงในการอาสาลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับท้องถิ่น ส่วนการเมืองระดับประเทศ เราผลักดันเรื่องการกระจายอำนาจมาตลอด ครั้งนี้จะเป็นอีกโอกาสพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่าเราสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เฉพาะเชิงโครงสร้าง แต่ไปถึงระดับฐานรากอย่างเป็นรูปธรรม


โดยต้องพูดให้ชัดว่าภารกิจของรัฐบาลส่วนกลางและของพรรคการเมืองในระดับประเทศ คือการกำหนดเป้าหมายกำหนดภารกิจของตัวเองให้ชัดเจนว่าเราเข้าสู่อำนาจรัฐเพื่อทำอะไร สำหรับพรรคประชาชน ภารกิจของเราชัดมากคือการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับประชาชนอย่างน้อย 5 ด้านต่อไปนี้


(1) น้ำประปาดื่มได้ น้ำเกษตรทั่วถึงตลอดปี เพราะเรื่องน้ำมีความสำคัญต่อการความเป็นอยู่และการทำมาหากินของประชาชน ประเทศไทยไม่ได้ขาดแคลนน้ำ แต่ขาดการบริหารจัดการที่ดี พรรคประชาชนจะเข้าไปแก้ไขเรื่องนี้ เช่นน้ำประปาดื่มได้ซึ่งท้องถิ่นที่ร่วมงานกับคณะก้าวหน้าทำสำเร็จมาแล้ว


(2) ขนส่งมวลชน ถนนทั่วถึง รถเมล์ตรงเวลา เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่ดี สะดวก ปลอดภัย ประหยัดค่าใช้จ่าย อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว เกิดเศรษฐกิจชุมชนสองข้างทาง


(3) สาธารณสุขบริการทั่วถึง อยู่ไหนก็ใกล้หมอ นำเทคโนโลยี Telemedicine มาอำนวยความสะดวกประชาชน ทำงานเชิงรุกกับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ นอกจากจะยกระดับด้านสาธารณสุข ยังกระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดการเปลี่ยน “อาสา” ดูแลผู้ป่วยให้เป็น “อาชีพ” ที่มีรายได้ประจำ


(4) อบจ. โปร่งใส ทำงานไว รับใช้ประชาชน เพราะที่ผ่านมาหลายคนมองว่าท้องถิ่นยังขาดความโปร่งใส ขาดประสิทธิภาพ และขาดกระบวนการประชาธิปไตย เราเชื่อว่าการได้นายก อบจ. ที่มาจากประชาชน ทำงานตรงไปตรงมา ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับประชาชน จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้


(5) โรงเรียนคุณภาพ สอนทักษะอนาคต เรียนไปได้ใช้จริง เช่น ปรับปรุงหลักสูตรโรงเรียน อบจ. ให้มีความหลากหลายตามความถนัดของเด็ก สามารถเชื่อมโยงสู่อนาคต ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในทุกโรงเรียน อบจ.


ณัฐพงษ์ทิ้งท้ายว่า ผู้สมัครท้องถิ่นของเราหลายคน มีประสบการณ์การทำงานในระดับท้องถิ่น สะท้อนว่าพรรคประชาชนยินดีเปิดกว้างทำงานร่วมกับทุกฝ่าย การเดินทางของอนาคตใหม่ ก้าวไกล มาถึงประชาชน เราเชื่อว่าได้เปิดประตูแห่งความหวังให้กับหลายคนที่ต้องการทำงานการเมืองเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง


สำหรับงบประมาณในท้องถิ่น 14 อบจ. ที่เราลงแข่งขันอยู่ในขณะนี้ หลายปีที่ผ่านมารวมกันปีละ 10,000 - 20,000 ล้านบาท ไม่ใช่เงินที่น้อยเลย อย่างไรก็ดี เราทราบข้อจำกัดพื้นที่ทางการคลังของท้องถิ่นที่หลายอย่างเป็นงบประจำ แต่เชื่อว่าถ้ามีนายก อบจ. ที่ใช้จ่ายอย่างใส่ใจ ใช้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย โปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นประชาธิปไตย จะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนได้

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #อบจ #พรรคประชาชน