ก้าวไกลยินดีที่สภากลาโหมยืนยันแผนปฏิรูปกองทัพ
ลดนายพล 50%
เชื่อว่ารัฐบาลก้าวไกลจะสามารถแสวงหาความร่วมมือในการปฏิรูปกองทัพได้แน่นอน
วันนี้ (1 มิ.ย. 66)
พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล
ให้ความเห็นต่อกรณีที่รองโฆษกกระทรวงกลาโหมแถลงว่า
กองทัพมีแผนปฏิรูปกองทัพที่จะลดนายพลลง 50% และลดกำลังพลลง 12,000
นาย ภายในปี 2570 ว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ทิศทางจากการประชุมสภากลาโหมที่ประกอบด้วยผู้บัญชาการและเสนาธิการของเหล่าทัพต่างๆ
มีนโยบายสอดรับกับการปฏิรูปกองทัพของพรรคก้าวไกล
แต่ทั้งนี้
พิจารณ์กล่าวว่าปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การปฏิรูปกองทัพตามแผนทำได้สำเร็จ คือเจตจำนงทางการเมืองของผู้บริหารประเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เพราะสิ่งที่อยู่ในแผน ที่กองทัพพูดล้วนไม่ใช่เรื่องใหม่
เป็นสิ่งที่ได้ยินมาตั้งแต่เริ่มเป็น ส.ส. เมื่อปี 2562 แต่ 4 ปีที่ผ่านมา ได้ยินแต่แผนที่เป็นเป้าหมาย
ล้วนยังไม่เคยเห็นรายละเอียดเลยว่าการลดกำลังพลและลดนายพลลงครึ่งหนึ่งจะมีวิธีการอย่างไร
ความคืบหน้าในแต่ละปีก็ไม่เคยเห็น ขอข้อมูลไปก็ไม่เคยได้
พิจารณ์กล่าวเพิ่มเติมว่า
มีเรื่องที่รับทราบใหม่จากการแถลงของกองทัพเมื่อวานคือ
การยุติแผนการเสริมสร้างกองพลทหารราบที่ 7 กองพลทหารม้าที่ 3 ของกองทัพบก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจ แต่ยังคงต้องลงไปดูในรายละเอียด
ว่ายุติแผนการเสริมสร้างแล้วทำไมยังต้องคงกองพลเหล่านี้เอาไว้
หลังจากนี้เราจะสามารถพิจารณาไปถึงการยุบทั้งสองกองพลเลยได้หรือไม่
ส่วนการปฏิรูปกองทัพที่ยังไม่เห็นความชัดเจนจากการแถลงเมื่อวาน
ยังมีอีกหลายประเด็น เช่น ความโปร่งใสของธุรกิจกองทัพจากการใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุ
ที่อดีต ผบ.ทบ. ได้เคยทำ MOU
ไว้กับกรมธนารักษ์ว่าจะเปิดเผยรายละเอียด
เรื่องที่ดินราชพัสดุทั้งหมดที่ถูกนำไปเป็นธุรกิจกองทัพมีอะไรบ้าง
ความคืบหน้าล่าสุดจากที่ตนได้ทราบมีเพียงแค่ 3-4% เท่านั้น
ที่ทำข้อตกลงกับกรมธนารักษ์ไปแล้ว
ตนอยากสื่อสารไปยังนายทหารที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบ
ให้เร่งรัดการทำข้อตกลงกับกรมธนารักษ์ให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด
รวมถึงความชัดเจนต่อเรื่องทหารรับใช้
และการให้อดีตนายทหารยังสามารถอยู่บ้านในค่ายทหารได้ สิ่งเหล่านี้จะเป็นการปฏิรูปเพื่อสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกองทัพ
สุดท้าย
พิจารณ์ให้คำมั่นว่าภายใต้รัฐบาลก้าวไกล
เชื่อมั่นว่าเราจะสามารถแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่ายในกองทัพ
เพื่อเดินหน้าการปฏิรูปกองทัพได้อย่างแน่นอน
“นี่เป็นเรื่องที่ดีที่กองทัพจะเริ่มมีทิศทางอย่างจริงจังเพื่อขานรับนโยบายของรัฐบาลพรรคก้าวไกล
เราเชื่อมั่นว่านโยบายปฏิรูปกองทัพของพรรคก้าวไกลจะทำให้นายทหารที่รักในประชาธิปไตยและทำงานอย่างซื่อตรงต่อหน้าที่ของตัวเอง
เข้าใจและยินดีสนองนโยบายอย่างแน่นอน
เราจะทำให้การใช้จ่ายงบประมาณของกองทัพมีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีความโปร่งใส
สามารถตรวจสอบได้ เราจะดูแลสวัสดิการและสวัสดิภาพของนายทหารชั้นผู้น้อยให้ดีขึ้น
เราพร้อมที่จะร่วมทำงานกับทุกฝ่าย เพื่อเรียกคืนศักดิ์ศรี เกียรติยศ
ความไว้วางใจของประชาชนต่อกองทัพ
และสร้างกองทัพที่เข้มแข็งตามอย่างประเทศที่เป็นประชาธิปไตยสากล”
พิจารณ์กล่าวทิ้งท้าย