วันอังคารที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2566

"ศิริกัญญา" เผย คกก.เปลี่ยนผ่านฯ สรุปข้อเสนอส่งที่ประชุม 8 หน.พรรค ลงมติ 22 มิ.ย. นี้ รับมีคุยการเมืองหลังกกต.รับรองส.ส. 500 คน เพื่อประเมินกรอบการทำงาน แต่ยังไม่คุยจัดสรรตำแหน่ง ด้าน “เผ่าภูมิ” เผย “เพื่อไทย” เสนอ 4 นโยบายเศรษฐกิจ มองเป็นโอกาศดีได้หาจุดร่วม ถือความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย

 


"ศิริกัญญา" เผย คกก.เปลี่ยนผ่านฯ สรุปข้อเสนอส่งที่ประชุม 8 หน.พรรค ลงมติ 22 มิ.ย. นี้ รับมีคุยการเมืองหลังกกต.รับรองส.ส. 500 คน เพื่อประเมินกรอบการทำงาน แต่ยังไม่คุยจัดสรรตำแหน่ง ด้าน “เผ่าภูมิ” เผย “เพื่อไทย” เสนอ 4 นโยบายเศรษฐกิจ มองเป็นโอกาสดีได้หาจุดร่วม ถือความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย


วันนี้ (20 มิถุนายน 2566) นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะคณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล แถลงประชุมในครั้งที่ 2 ว่าข้อสรุปจะนำเสนอต่อที่ประชุม 8 หัวหน้าพรรคการเมืองวันที่ 22 มิถุนายนนี้   เพื่อขอมติก่อน ซึ่งวันนี้มีการหารือหลายเรื่อง เช่น ภัยแล้ง เอลนีโญ คุยทางออกบริหารจัดการน้ำ อ่างเก็บน้ำ


ส่วนคณะเอสเอ็มอีได้คุยเรื่องการส่งออกที่ชะลอตัว หนี้ครัวเรือน และการส่งเสริมเอสเอ็มอี คณะแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 หารือเรื่องการส่งเสริมการออก กฎหมาย พ.ร.บ.อากาศสะอาด จัดทำแผนที่ความเสี่ยงไฟป่า  และคณะดิจิดัลฯ หารือการส่งเสริมใช้ดิจิทัลในรัฐบาล ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำเสนอรายละเอียดแต่ละด้านในที่ประชุมพรรคร่วมเพื่อลงมติอีกครั้ง


คณะค่าไฟน้ำมัน พลังงาน ได้มีการเสนอปรับลดค่าไฟ และเสนอกับการต่ออายุเพื่อลดภาษีสรรพสามิตนำมันดีเซล ส่วนคณะจังหวัดชายแดนใต้มีความหน้าในการตั้งเป้าหมาย และนำไปสู่สถานที่คุยสันติภาพใน 4 ปีของรัฐบาล และสำหรับเรื่องการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาขน ได้กำหนดโรดแมปแต่ละพรรค ที่นำไปสู่ ส.ส.ร. ที่มาจากเลือกตั้ง


ทั้งนี้คณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ได้กำหนดเวลาที่จะปิดตัวลงเมื่อมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ โดยจะประชุมครั้งสุดท้ายหลังประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกประธานสภาฯและรองประธานสภาฯแล้ว ก่อนจะแจ้งคณะย่อยจัดทำรายงานสรุปเพื่อรายงานที่ประชุมพรรคร่วมอีกครั้ง


นางสาวศิริกัญญา ยังกล่าวถึง MOU 23 ข้อ ว่าจะเป็นภาพใหญ่ในการจัดทำนโยบาย โดยจะต้องลงรายละเอียดแต่ละกระทรวง โดยจะต้องได้รับความเห็นชอบจากแต่ละพรรคในการนำเสนอความเป็นเจ้ากระทรวง อาจจะเพิ่มเติมจาก 23 ข้อของ MOU แต่จะต้องไม่ขัดแย้งกัน เพราะทั้งหมดจะต้องนำเสนอต่อหัวหน้าพรรคอีกครั้ง


ทั้งนี้ ยอมรับว่าในที่ประชุมวันนี้มีการหารือสถานการณ์การเมืองหลังกกต.รับรองส.ส.ทั้ง 500 คน โดยมองว่าเป็นการทำหน้าที่ได้อย่างรวดเร็ว และรับรองครบ 500 คนในเวลาเดียวกัน ทำให้กระบวนการต่าง ๆ ทำได้รวดเร็วมากขึ้น วันนี้จึงได้พูดคุยเรื่องปฏิทินการเมือง เพื่อประเมินกรอบการทำงานของคณะกรรมการเปลี่ยนผ่าน และในการประชุมในวันนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการจัดสรร ครม. แต่อย่างใด


ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า  วันนี้คณะกรรมการฯ ได้รับฟังข้อเสนอและผลศึกษาของคณะย่อยเป็นประโยชน์ในการทำงานร่วมกัน เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชน


ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ได้เสนอ 4 นโยบาย ของพรรคต่อที่ประชุมและมอบหมายให้คณะทำงานย่อยไปศึกษาเพิ่มเติม  คือ


1. นโยบายเขตธุรกิจใหม่ของพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา การอนุญาต การแก้กฎหมาย ซึ่งเพื่อไทยมีโมเดลที่จะเข้าไปเติมเต็ม แก้ไขปัญหาด้านกฎหมายที่จะส่งเสริมเอสเอ็มอี ในเขตธุรกิจใหม่นำร่อง 4 พื้นที่ คือเชียงใหม่ ขอนแก่น กรุงเทพ และสงขลา


2. เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ที่พรรคเพื่อไทยมีความเห็นว่าควรเซ็ตเป้าหมายในระยะไกลออกไปคือปี 2570 ที่เพื่อไทยประกาศว่าค่าแรงจะอยู่ที่ 600 บาท เพื่อให้ภาคเอกชนรู้ว่าในระยะยาวจะไปถึงจุดไหน นอกจากนี้ยังเสนออีกกลไก คือเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท คู่ขนานไปด้วย เป็นการยกระดับทั้งส่วนล่างและส่วนกลาง เป็นสองโมเดลที่ทำควบคู่กัน ทั้งนี้การขึ้นค่าแรงทำไม่ได้ถ้าไม่ดูแลภาคเอกชน และการดูแลภาคเอกชนที่ดีที่สุดคือการทำให้เศรษฐกิจขยายตัว จะทำให้ภาคเอกชนมีรายได้เพิ่มขึ้น มีความสามารถในการจ่ายค่าแรงเพิ่มขึ้น จึงสนับสนุนการขึ้นค่าแรงตามภาวะเศรษฐกิจ ตามรายได้ของประเทศ


3. นโยบายการเข้าถึงแหล่งทุนของเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นเรื่องที่เพื่อไทยและก้าวไกลเห็นตรงกัน ในการใช้กลไกค้ำประกันสินเชื่อ สนับสนุนให้เอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อมากขึ้น เพื่อปลดล๊อคการเข้าถึงสินเชื่อของเอสเอ็มอี เพื่อไทยตั้งวงเงินไว้ 30,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ บสย. ทั้งงบประมาณและประสิทธิภาพ 


4. นโยบายตลาดทุน ซึ่งเพื่อไทยให้ความสำคัญกับการระดมทุน ปัจจุบันภาคเอกชนสามารถหาแหล่งทุนได้จาก 2 แหล่ง คือเงินกู้ธนาคารพาณิชย์และการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งสองกลไกจะต้องเดินควบคู่กัน เพื่อไทยสนับสนุนการสร้างตลาดทุนให้แข็งแกร่ง มีหัวใจอยู่ที่สภาพคล่อง เพื่อจะเป็นแหล่งระดมทุนในการสร้างเศรษฐกิจประเทศ โดยตลาดทุนของพรรคเพื่อไทยยังมีตลาดทุนคู่ขนานในเรื่องของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ในการระดมทุนเพื่อสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลให้เกิดขึ้น นี่คือสี่นโยบายที่เพื่อไทยนำเสนอต่อที่ประชุม


นายเผ่าภูมิยังระบุว่า วันนี้เป็นโอกาสดีที่แต่ละนโยบาย ถูกเผยออกมาและพูดถึงข้อดี ข้อเสียหาจุดลงตัวร่วมกันเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชน ก่อนทิ้งท้ายว่านี่คือความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ประชุมคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล