วันอาทิตย์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2566

นพ.เหวง โตจิราการ : เราจะสามัคคีกันจนกว่าจะเอาชนะศัตรูของประชาชนได้ถึงที่สุด และจะไม่มีวันไปอยู่ฝั่งเผด็จการเด็ดขาด

 


นพ.เหวง โตจิราการ : เราจะสามัคคีกันจนกว่าจะเอาชนะศัตรูของประชาชนได้ถึงที่สุด และจะไม่มีวันไปอยู่ฝั่งเผด็จการเด็ดขาด


วาระ10 มิ.ย. 66 ทำบุญให้ “ผู้ประสานงานคนเสื้อแดงและมิตรร่วมรบ”


ก่อนอื่นผมต้องกราบขอบพระคุณพี่น้องทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้จากหัวใจครับ


ต่อมาต้องขอรบกวนกราบวิงวอนให้ทุกคนปรบมือให้อาจารย์ธิดาหน่อยครับ ปรบดัง ๆ เลยครับ เพราะถ้าไม่มีความคิดสร้างสรรค์ของอาจารย์ธิดา ผมไม่แน่ใจว่างานอย่างนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ครับ นี่มาจากความคิดสร้างสรรค์ ความคิดลึกซึ้งจากหัวใจของอาจารย์ธิดาที่ไม่เคยลืมเลือนเพื่อนร่วมศึกมิตรร่วมรบที่เดินบนเส้นทางเดียวกัน ดังนั้นปรบมืออีกครั้งครับ


แล้วอาจารย์ธิดา นอกจากคิดสร้างสรรค์ในงานวันนี้ขึ้นแล้ว อาจารย์ยังบอกกับพวกเราคนเสื้อแดงทุกคนว่า พวกเรามีพิธีกรรมหรือมหกรรม ผมใช้คำว่ามหกรรมดีกว่า ผมไม่อยากจะใช้คำที่สะท้อนถึงความรู้สึกสิ้นหวังเศร้าสร้อยหรือท้อแท้ เพราะพวกเรายังเต็มเปี่ยมด้วยพลังสู้รบและความหวังใช่มั้ยครับ ดังนั้นอาจารย์ธิดาจึงบอกว่าคนเสื้อแดงมี 3 มหกรรมใหญ่นะครับพี่น้องครับ พวกเราต้องจำกันให้ได้นะครับ มหกรรมที่ 1 ก็คือ มหกรรม10เมษา ครับ 10เมษา ดังนั้นทุกปี 10เมษา เราต้องจัดงานเป็นมหกรรมเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมในการต่อสู้ของพี่น้องเสื้อแดงเรา มหกรรมที่ 2 ก็คือ มหกรรมเดือนพฤษภาของทุกปีที่เราต้องจัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงการต่อสู้ของพี่น้องเสื้อแดงในเดือนพฤษภา ใช่หรือเปล่า และนี่คือการสร้างสรรค์อันใหม่ ๆ ของอาจารย์ธิดาเลย ขอจะขออนุญาตด้วยความเคารพนะครับ ผมก็อยู่ในฐานะที่มีส่วนร่วมในแกนนำของการต่อสู้ด้วยความเคารพอย่างจริงจังและจริงใจนะครับ ผมยังไม่เห็นมีใครคิดเรื่องนี้ แต่ออาจารย์ธิดาคิดขึ้นมาแล้วครับ ปรบมืออีกทีครับ ก็คือให้เดือนมิถุนายนจัดเป็นมหกรรมเพื่อรำลึกถึงมิตรร่วมรบของเรา ถึงแม้จะไม่ได้เสียสละในสนามรบ แต่ก็เสียสละบนเส้นทางเดินไปเผชิญหน้ากับศัตรูของประชาธิปไตยด้วยเช่นกัน ใช่มั้ยครับ? จะเสียสละตอนไหนก็แล้วแต่ แต่พวกเขาไม่เคยทอดทิ้งอุดมการณ์ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย


ประการต่อมา ผมต้องกราบเรียนพี่น้องทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้นะครับว่า เราไม่เพียงแต่มาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับมิตรร่วมรบของเราที่ได้จากเราไปก่อนเท่านั้นนะครับ แต่เรามาบอกกับมิตรร่วมรบของเราพร้อม ๆ กับบอกกับประชาชนทั่วทั่งประเทศว่า พี่น้องครับ ขณะนี้ประชาชนไทย 72% ลุกขึ้นมาแล้วครับ 72% ครับ เขาแสดงตัวออกมาเพื่อบอกกับพวกเผด็จการ บอก เฮ้ย ไอ้พวกเผด็จการ กูไม่เอามึงแล้ว แต่เผด็จการมันจะได้ยินหรือเปล่าผมไม่ทราบนะ แต่ผมเชื่อว่ามันต้องได้ยินแน่นอน 72% นะครับ เพราะฉะนั้นเที่ยวนี้ 27 กว่าล้านนะครับ จาก 39.5 ล้าน คิดเป็น 72% ครับ ที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งและเลือกพรรคฝ่ายประชาธิปไตย 8 พรรคครับ ปรบมือให้คะแนนเสียง 27 ล้านเสียงหน่อยครับ ปรบมือให้ฝ่ายประชาธิปไตยหน่อย แล้วก็โห่ไล่ไอ้พวกเผด็จการหน่อย โห่ไล่หน่อย ผมไม่อยากจะใช้คำหยาบนะเพราะอาจารย์ธิดาเตือนผมอยู่เรื่อย ว่าคุณหมออย่าไปใช้คำหยาบนะคะ ก็คือพวกคุณเนี่ยเปิดตาดู ไม่งั้นผมจะบอก “พวกมึงน่ะแหกตาดู” พวกคุณเปิดตาดูหน่อย คนตั้ง 72% เนี่ย ไม่เอาพวกคุณอยู่อีกต่อไปแล้ว


แต่พี่น้องครับ ท่ามกลางการเดินไปข้างหน้าเป็นเรื่องธรรมดาของคนหมู่มากที่จะมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน แตกต่างกัน ดังนั้นพี่น้องครับ พวกเราพี่น้อง กระทั่งครอบครัวเดียวกัน ผมอยู่ในครอบครัว บางทีพี่น้องทะเลาะกันก็มี ใช่มั้ยครับ พี่น้องทะเลาะกันมีมั้ยครับ ๆ มีครับ มีแน่นอน เป็นไปไม่ได้หรอกครับว่าไม่มีพี่น้องทะเลาะกัน แต่ว่าพี่น้องทะเลาะกันแล้วก็กลับมาดีกัน ใช่มั้ยครับ และต้องใช้ท่าทีที่ถูกต้องต่อพี่ต้องในครอบครัวเดียวกันใช่มั้ยครับ


ที่ผมกำลังกราบเรียนก็คือ ขณะนี้ถึงแม้เรามี 27 ล้านคนนะครับ มี 72% ครับ แต่เรายังไม่ชนะเด็ดขาดนะครับ เรายังไม่รู้เลยว่า 8 พรรคจะจัดตั้งรัฐบาลได้หรือเปล่าใช่มั้ย เรายังไม่รู้เลย ๆ เมื่อเราไม่รู้ เรามาทะเลาะกันเนี่ยดีมั้ยครับ? ดีมั้ยครับ? เรามาจุดไฟเผาตัวเองดีมั้ยครับ? อย่าลืมนะครับ พี่น้องทะเลาะกันเองไม่ต่างอะไรกับการจุดไฟเผาบ้านตัวเอง ผมกราบเรียนทุกท่านนะครับว่า พวกคุณเห็นด้วยกับการจุดไฟเผาบ้านตัวเองหรือเปล่าครับ เห็นด้วยมั้ยครับ ๆ ดังนั้นถ้าหากในบ้านเราพอมีไฟลุกตรงไหน เราต้องเอาน้ำไปดับใช่มั้ยครับ เราไม่ใช่เอาน้ำมันไปราดใส่ไฟใช่มั้ยครับ ดังนั้น ผมเข้าใจครับ พี่น้องเราขณะนี้มีความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติสามัญเลย แต่ผมถามตรง ๆ เลยนะครับว่า เมื่อมีความเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน มันถึงขั้นที่ต้องรบราฆ่าฟันกันมั้ยครับ ต้องรบราฆ่าฟันกันมั้ยครับ ต้องรบราฆ่าฟันกันหรือเปล่า ไฟมันถูกจุดขึ้นมาแล้วคุณจะเอาน้ำหรือจะเอาน้ำมันมารดดับไฟครับ จะเอาน้ำหรือน้ำมันครับ


ดังนั้นผมกราบเรียนด้วยความเคารพครับ นี่ผมก็มีภารกิจในการที่จะไปจัดการต่อเนื่องนะครับ ผมอยากจะฝากบอกอย่างยิ่งเลยนะครับว่า ในขณะนี้พวกเราต้องดับไฟในบ้านเราครับ เราต้องดับไฟในบ้านเราก่อน วิธีการดับไฟในบ้านเราก็คือว่า เห็นไฟลุกที่ไหนเอาน้ำไปดับ ไม่ใช่ว่าเห็นไฟลุกเอาน้ำมันไปราดเลย ใช่หรือเปล่า เห็นไฟลุกเราต้องดึงฟืนออกใช่มั้ยครับ ไม่ใช่เห็นไฟลุกเอาฟืนใส่เข้าไป ใส่เข้าไป ๆ อย่างนี้ถูกมั้ยครับ


ดังนั้น ผมจึงฝากประการแรก พี่น้องครับ ในขณะนี้ในบรรยากาศแบบนี้เราช่วยกันดับไฟในบ้านประชาธิปไตยของเราได้มั้ยครับ ๆ 8 พรรค ใครจะเลือกพรรคไหนเราเคารพหมดแหละ คุณจะเลือกพรรคเพื่อไทย หรือจะเลือกพรรคส้มก็คือก้าวไกล คุณจะเลือกพรรคเสรีรวมไทย คุณจะเลือกพรรคประชาชาติ คุณจะเลือกอีก 4 พรรคผมจำไม่ได้ละ ไทยสร้างไทย แล้วก็เอาว่าเป็น 8 พรรคแล้วกัน คุณจะเลือกพรรคไหนคุณก็เป็นพี่น้องเราทั้งนั้น ใช่มั้ย พี่น้องต้องคล้องแขนกันใช่มั้ย พี่น้องต้องเป็นมิตรร่วมรบใช่มั้ย เราจะไม่ทะเลาะกันใช่หรือเปล่า เราต้องผนึกกำลังให้เหนียวแน่นให้ 8 พรรคตั้งรัฐบาลให้ได้ ถึงตั้งรัฐบาลได้ เวลาเดินไปข้างหน้ายังต้องเผชิญกับฝ่ายตรงข้ามนะ ฝ่ายตรงข้ามเขามี ส.ว. 250 คน เราก็หืดขึ้นคอแล้วครับ เพราะ 250 คน มันโหวตปุ๊บไม่รู้ว่าเราจะได้เป็นรัฐบาลหรือเปล่า ดี/ไม่ดี อาจจะคว่ำเจอ 250 โหวตไม่เอาเราก็ได้ ใช่มั้ยครับ


เพราะฉะนั้นอย่าไปทะเลาะกันเองเลยนะครับ ใครพูดอะไรเราหนักแน่นไว้ ผมได้คุยกับคนจำนวนมาก หลายคนเขาบอกว่าคุณหมอหนูทนไม่ไหว ดิฉันทนไม่ไหว ไอ้นี่มันด่าแรงเหลือเกิน ไม่ไหว ผมจำเป็นต้องบอกนะครับ ตอนผมเด็ก ๆ ที่บ้านผม ครอบครัวก็ทะเลาะเบาะแว้งกัน บางทีบางคนก็ใช้ความรุนแรงต่อบางคน แต่ถ้าหากใช้ความรุนแรงตอบบ้านแตก! ฉะนั้น เดี๋ยวนี้ก็เหมือนกันนะครับ ถ้าหากมีใครวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงขนาดไหน ถ้าอยู่ฝั่งเดียวกัน เราต้องหนักแน่นมั่นคงใจเย็นใช่หรือเปล่า อย่าไปทะเลาะกันเลยนะครับ ให้คำมั่นสัญญากับผมได้มั้ยครับว่าเราจะไม่ทะเลาะกันครับ ได้มั้ยครับ และไม่เพียงแต่เรียกร้องในวันนี้นะ แต่ผมเรียกร้องไปจนกว่าประเทศไทยจะมีประชาธิปไตยที่แท้จริง ได้มั้ยครับ


โอ้โห ฝ่ายตรงข้ามมันแข็งแรงจะตายไป มันเข้มแข็งมาก มีสารพัดอย่างผมไม่พูดหรอก เดี๋ยวพูดผมติดคุกเสียก่อน มีสารพัดเลย เข้มแข็งมาก เราไม่มีอะไรเลย เรามีประชาชน มีสันติวิธี เรามีหย่อนบัตรลงคะแนนเสียงเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่นเลย ดังนั้นพลังของเรามีเรื่องเดียวคือพลังสันติวิธีกับพลังของการหย่อนบัตรเลือกตั้ง ถ้าเรามาทะเลาะกันก็จบ ผมยังสงสัยนะว่าไอ้ที่ทะเลาะกันหนัก ๆ นี่ ส่วนหนึ่งอาจจะพี่น้องผิดใจกัน แต่ส่วนหนึ่งศัตรูมันโยนไฟใส่เข้ามาด้วยใช่หรือเปล่า? ผมกำลังคิดนะว่า อีกส่วนหนึ่งมาจากพวกศัตรูที่แหย่เข้ามา ดังนั้นเราจบนะฮะ จบนะ ต่อหน้ามิตรร่วมรบเราที่ได้พลีชีพไปก่อนเรา เราให้คำมั่นสัญญาว่าพวกเราจะสามัคคีกันต่อสู้กับศัตรูของประชาธิปไตยจนกว่าจะได้ชัยชนะ ได้มั้ยครับ ๆ ข้างหน้ายังมีอุปสรรคอีกเยอะ ผมยังประหวั่นพรั่นพรึงนะครับว่า 8 พรรค ไม่รู้จะจัดตั้งรัฐบาลได้หรือเปล่า ผมยังกลัวนะครับ ถึงคุณจะได้ 312 เสียง คุณอย่าไปชะล่าใจนะ ของเขามี 250 + 188 เป็นเท่าไหร่ 400 กว่า แล้วคุณคิดว่าคุณจะชนะเขาหรือ? ถ้าเราไม่สามัคคีกัน ไม่แน่ครับ ผมยังไม่แน่ใจแต่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นนะครับ เราอาจจะเหนื่อยกันอีกทีครับ พร้อมเหนื่อยหรือเปล่าครับ ผมไม่อยากให้เหนื่อยนะ ผมอยากให้เราสามัคคีกันเหนียวแน่น แล้วก็ผลักดันให้การจัดตั้ง 8 พรรค ประสบผลสำเร็จ


ฉะนั้น ผมฝากความกังวลใจแล้วก็ฝากความหวังของผมกับพวกเราทุกคนว่า 1) เราจะสามัคคีกันเหนียวแน่นในปัจจุบันและต่อไปในอนาคตจนกว่าเราจะเอาชนะศัตรูของประชาชนได้ถึงที่สุด ทำได้มั้ยครับ 2) พวกเราทุกคนจะไม่มีวันกระโดดข้ามฝั่งไปอยู่ฝั่งปฏิปักษ์ประชาธิปไตย ไปอยู่ฝั่งเผด็จการอย่างเด็ดขาด สัญญาได้มั้ยครับ


ผมอยากจะทิ้งท้ายไว้ว่าอาจารย์ธิดาได้บอกแล้วว่า พวกเราจะมีมหกรรม 3 เดือนติดต่อกันนะครับ ก็คือ เมษา 1 เดือน พฤษภา 1 เดือน และก็มิถุนาอีก 1 เดือน ขอบพระคุณมากครับ สวัสดีครับ


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #คนเสื้อแดง #ครอบครัวคนเสื้อแดง