วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2566

“ประเสริฐ” นำทีม 13 ส.ส.เพื่อไทย จับเข่าคุย 17 องค์กรภาคเอกชนนครราชสีมา เตรียมพร้อมลุยโครงการพัฒนาโคราช หลัง กกต.รับรอง ส.ส. ทันที

 


“ประเสริฐ” นำทีม 13 ส.ส.เพื่อไทย จับเข่าคุย 17 องค์กรภาคเอกชนนครราชสีมา เตรียมพร้อมลุยโครงการพัฒนาโคราช หลัง กกต.รับรอง ส.ส. ทันที


วันที่ 16 มิถุนายน 2566 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยและนายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยแกนนำพรรค และว่าที่ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ทั้ง 15 คน ประชุมร่วมกับภาคเอกชน 17 องค์กรของจังหวัดนครราชสีมา นำโดย นายสุดที่รัก พันธ์สายเชื้อ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา นายจิรพิสิษฐ์  รุจน์เจริญ ประธาน YECหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา นายพงศ์ภูนาถ รุ่งเรืองประธานเครือข่าย Young smart farmer จังหวัดนครราชสีมา นายธีระ เอื้ออภิธร นายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คุณธิดารัตน์ รอดอนันต์ ประธานสภา อุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา คุณฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์ สมาพันธ์Sme ไทยจังหวัดนครราชสีมา คุณณัฐพงษ์ ประสารศิวมัย นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดนครราชสีมา นายสหพล กาณจนเวนิช ตัวแทนประธานกรรมาธิการสถาปนิกอีสาน คุณผดุง จตุรภักดิ์ ประธานมูลนิธินักข่าวนครราชสีมา นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ นายกสมาคมมิตรภาพไทย-จีนจังหวัดนครราชสีมา นายสุรวุฒิ เชิดชัย อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลนครราชสีมา และ คณะกรรมการหอการค้า เพื่อหารือเตรียมความพร้อม ในการพัฒนาเมืองนครราชสีมา ไปสู่ ‘โคราชมหานคร’ 


นายประเสริฐ กล่าวถึงผลการประชุมร่วมกันว่า ที่ประชุมมีข้อสรุปไปในทิศทางเดียวกันว่าจะร่วมมือในทุกช่องทางเพื่อผลักดันการพัฒนาเมืองนครราชสีมาเพื่อไปสู่ ‘โคราชมหานคร’ โดยเร็ว ดังนี้


1. ให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างตัวแทนพรรคเพื่อไทย กับภาคเอกชน 13 องค์กรในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อผลักดันการพัฒนาเมืองโคราช สู่ ‘มหานครโคราช’ ให้ใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อเร่งผลักดันให้ทุกโครงการเกิดขึ้นจริงและประสบความสำเร็จได้รวดเร็วที่สุด 


2. ให้มีการผลักดันภาคเอกชนให้มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายระดับชาติ 


3. เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว เห็นควรให้มีการดำเนินการใน 7 เรื่องดังนี้

3.1 ด้านการเกษตร โดยเน้นเรื่องผลผลิต การสนับสนุนเงินทุนเกษตรกรรุ่นใหม่ รวมถึงการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ

3.2 ด้านการคมนาคม โดยให้กรมทางหลวงเร่งดำเนินการก่อสร้างทางมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-โคราช ให้แล้วเสร็จ และขอให้เปิดใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ในช่วง ปากช่อง- นครราชสีมา ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จ สำหรับเรื่องสนามบินนครราชสีมา ที่ไม่ได้เปิดใช้ เรื่องการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ความเร็วสูง ให้กระทบกับพี่น้องประชาชนน้อยที่สุดรวมไปถึงเรื่องท่าเรือบก

3.3 เรื่องการศึกษา ให้มีนโนยบายเรื่องโรงเรียนขนาดเล็กให้ชัดเจน

3.4 ด้านการท่องเที่ยวและ Solf power โดนเน้นการท่องเที่ยวเรื่อง จีโอปาร์คโคราช การเตรียมความพร้อมในเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันกีฬา เอเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ในปี 2568 การจัดงานพืชสวนโลก การจัดงานแสดงดนตรี และเห็นควรให้โคราชมีศูนย์ประชุมระดับนานาชาติ

3.5 ด้าน SME ขอให้มีการจัดตั้งกองทุน SME เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย รวมไปถึงการจัดตั้งสภา SME

3.6 ด้านอสังหาริมทรัพย์ และอื่นๆ โดยมีมาตรการขยายเพดานวงเงินค่าโอนซื้อขายบ้านจาก เดิม 3 ล้านบาท เป็น 5 ล้านบาท และทบทวนภาษีที่ดินให้เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน


ที่ประชุมเห็นร่วมกันว่า เราต้องร่วมกันเตรียมความพร้อมที่จะเดินหน้าในโครงการต่างๆ ทันที ซึ่งหลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรอง ส.ส. อย่างเป็นทางการแล้ว ก็จะเร่งเดินหน้านำข้อสรุปที่ได้หารือกับภาครัฐ เพื่อดำเนินการโดยเร็วให้จังหวัดนครราชสีมา” นายประเสริฐกล่าว


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย