วันพุธที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2566

‘เพื่อไทย’ ต้อนรับทูต ‘โมซัมบิก’ ยินดีผลเลือกตั้ง - หารือแลกเปลี่ยนด้านการค้า การลงทุน ‘เศรษฐา’ ชี้พร้อมหนุนผู้นำรัฐบาลใหม่เจรจาการค้า เปิดตลาดใหม่ สร้างรายได้เข้าประเทศ

 


เพื่อไทย’ ต้อนรับทูต ‘โมซัมบิก’ ยินดีผลเลือกตั้ง - หารือแลกเปลี่ยนด้านการค้า การลงทุน ‘เศรษฐา’ ชี้พร้อมหนุนผู้นำรัฐบาลใหม่เจรจาการค้า เปิดตลาดใหม่ สร้างรายได้เข้าประเทศ


วันนี้ (14 มิถุนายน 2566) นายเบลมีรู จูแซ มาลาตี เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม แห่งสาธารณรัฐโมซัมบิกและคณะ เข้าพบแกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย, นางนลินี ทวีสิน ประธานคณะทำงานนโยบายด้านต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย และนางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร ว่าที่ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย และคณะทำงานนโยบายด้านต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย เพื่อหารือถึงแนวทางการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและโมซัมบิกในด้านการค้า การลงทุน และวาระอื่น ๆ ตั้งแต่ความร่วมมือทางการพัฒนาด้านการเกษตร การประมง การพัฒนาสินค้าและการตลาด ตลอดจนด้านพลังงาน ซึ่งที่ผ่านมามูลค่าการค้าระหว่างประเทศไทยและโมซัมบิกมีมูลค่า 175.12 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ โดยประเทศไทยส่งออกสินค้าไปยังโมซัมบิก มูลค่าสูงถึง 149.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าสินค้าจากโมซัมบิก มูลค่า 25.70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ผ่านมาไทยจึงได้เปรียบดุลการค้าราว 123.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยมีตั้งแต่ ข้าว เม็ดพลาสติก รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผ้าผืน น้ำตาลทราย อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และสินค้านำเข้า ได้แก่ เพชร พลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป ไม้ซุง ไม้แปรรูป และผลิตภัณฑ์ด้ายและเส้นใย


ทั้งนี้นายเบลมีรู ได้กล่าวแสดงความยินดีกับพรรคเพื่อไทยกับผลเลือกตั้ง พร้อมขอให้ได้รัฐบาลใหม่และผู้นำใหม่โดยเร็ว เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างกันในอนาคต เนื่องจากนับตั้งแต่การเยือนประเทศโมซัมบิกอย่างเป็นทางการของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้มีการกระชับความสัมพันธ์อีกเลยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างมาก เพราะประเทศโมซัมบิกและทวีปแอฟริกาคือโอกาสทางการค้าของประเทศไทย ประเทศโมซัมบิกและอีกหลายประเทศในแอฟริกามีความสนใจที่อยากกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจกับประเทศในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีอุตสาหกรรมปลายน้ำหลายด้านที่สามารถทำงานร่วมกันได้ เช่น ปิโตรเคมี ปุ๋ย การประมง และการเกษตร เป็นต้น โดยอุปสรรคทางการค้าและการลงทุนในประเทศแถบแอฟริกาคือปัญหาเรื่องความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการเงิน และการขนส่ง (logistics) หลังการขยายท่าเรือน้ำลึกในโมซัมบิกก็จะช่วยขยายโครงการขนส่งสินค้าได้สะดวกมากขึ้นอีกด้วย


ด้านนายเศรษฐา กล่าวว่า ทวีปแอฟริกามีศักยภาพตลาดที่น่าสนใจ มีทรัพยากรทางธรรมชาติเป็นจำนวนมาก มีประชากรเยอะ อัตราการเกิดสูง ซึ่งพรรคเพื่อไทยมองเห็นความสำคัญและโอกาสทางการค้าการลงทุนกับประเทศโมซัมบิกและประเทศในแถบแอฟริกาเป็นอย่างมาก ไม่ว่าใครจะเป็นผู้นำประเทศไทย ควรต้องเป็นผู้นำในการเจรจาค้าขายอย่างจริงจัง ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะช่วยประสานภาคธุรกิจจับคู่เจรจาค้าขายอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะทลายทุกอุปสรรคเพื่อประโยชน์ต่อประเทศแน่นอน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย