‘รองโฆษกพรรคเพื่อไทย’
เรียกร้อง “ป.ป.ช.” ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง เปิดเผยข้อมูลนาฬิกาเพื่อนต่อสาธารณะ
เนิ่นนานไปยิ่งสร้างความเสียหาย แนะ ‘ป.ป.ช.’
ถ้าไม่รู้ว่าเรื่องนี้ถูกยื้อมานานแค่ไหน ลองยืมนาฬิกา ‘บิ๊กป้อม’ มาใส่ดู
วันที่
27 มิถุนายน 2566 นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย
กล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
(ป.ป.ช.) เปิดเผยรายงานการไต่สวนคดีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี
และ รมว.กลาโหม จงใจยื่นบัญชีทรัพย์อันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริง
กรณีไม่แสดงว่ามีนาฬิกาข้อมือและแหวนประดับหลายรายการว่า คดีประวัติศาสตร์
‘นาฬิกายืมเพื่อน’ ที่เรื่องที่สังคมกังขาการทำงานของ ป.ป.ช. อย่างยิ่ง
ดังนั้นจึงต้องถามดังๆ ไปยัง ป.ป.ช. ว่า ข้อมูลการไต่ส่วนและข้อเท็จจริง นาฬิกาหรู
22 เรือนที่อยู่ในความครอบครองของ พลเอกประวิตร นั้นเมื่อไร ป.ป.ช.
จะเปิดเผยต่อสาธารณะ ตามคำพิพากษาของศาลปกครอง
เพราะขณะนี้เวลาล่วงเลยไปหลายสัปดาห์แล้ว แต่ ป.ป.ช. กลับนิ่งเฉย
ไม่มีความคืบหน้าว่าจะเปิดเผยข้อเท็จจริงต่อประชาชนเมื่อใด
นางสาวตรีชฎา
กล่าวว่า คดีนาฬิกายืมเพื่อนคดีแรก นายวีระ สมความคิด
เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน เป็นผู้ฟ้องคดี
และศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเมื่อเดือนเมษายน 2566 ให้ ป.ป.ช.เปิดเผยข้อมูล 3
รายการภายใน 15 วัน รายการที่ 1 การแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารทั้งหมด
รายการที่ 2 ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช.ที่รับผิดชอบ
และรายการที่ 3 รายงานการประชุมคณะกรรมการการ ป.ป.ช. ส่วนคดีที่สอง สำนักข่าว The Matter ยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองในลักษณะเดียวกัน และศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16
มิถุนายน 2566 ให้ ป.ป.ช.
เปิดเผยรายงานสรุปผลการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการไต่สวน
ภายใน 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนด 15 วันภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้
“ป.ป.ช.
ปล่อยให้คดี ‘แหวนแม่ นาฬิกายืมเพื่อน’ ยืดเยื้อมาเป็นเวลา 4 ปี ตั้งแต่ 2562
จนถึงปัจจุบัน 2566 ส่งผลให้พี่น้องประชาชนขาดความเชื่อมั่นในการทำงานของ ป.ป.ช.
ว่ามีความสุจริต โปร่งใสและมีความยุติธรรมแค่ไหน ปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมาหรือไม่
ทุกวันนี้ทั้งสื่อมวลชนและประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ ป.ป.ช. ในทางลบมาตลอด
โดยเฉพาะการตั้งข้อสังเกตถึงความพยายามในการปกป้อง พลเอกประวิตรหรือไม่
เพราะแม้ศาลปกครองจะมีคำพิพากษามาแล้ว แต่ ป.ป.ช.
ยังไม่ดำเนินการให้เกิดความชัดเจนต่อพี่น้องประชาชน จนสังคมเริ่มมองว่า ป.ป.ช.
ควรยืมนาฬิกาเพื่อนจากพลเอกประวิตร
มาใช้ดูเวลาบ้างว่าคดีนี้ผ่านมานานแค่ไหนและสร้างความเสียหายให้ภาพลักษณ์องค์กร
ป.ป.ช. ขนาดไหน” รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว
