“กลุ่ม
24 มิถุนาประชาธิปไตย” ยื่นหนังสือจี้ กกต. เร่งรับรองผลการเลือกตั้ง หยุดคิดชงยุบ
“ก้าวไกล” ขู่อย่าเตะถ่วงเอื้อขั้วเก่า ทำให้โปร่งใส ขีดเส้น 20
มิ.ย.ไม่ประกาศผลจะมาใหม่ “สมยศ” มอง “พิธา” ถูกกลั่นแกล้งประเด็นหุ้น
ห่วงลามยุบพรรค คนจะเคลื่อนไหวหนักกว่าอดีต
วันที่
8 มิถุนายน 2533 เวลา 13.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) “กลุ่ม 24
มิถุนาประชาธิปไตย” นำโดย สมยศ พฤกษาเกษมสุข และ ธนพร วิจันทร์
ตัวแทนเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน เดินทางมายื่นหนังสือถึง กกต.
เพื่อเรียกร้องให้รับรองผลการเลือกตั้งทันที และหยุดดำเนินการยุบพรรคการเมือง
ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง และตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน
กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.อคฝ.บก.น.2) เป็นจำนวนมาก
ธนพร
กล่าวว่า เป็นระยะเวลาเกือบ 1 เดือนแล้วหลังเลือกตั้ง
ที่วันนี้เรายังไม่ได้รับสัญญาณจาก กกต. ว่าจะประกาศผลเมื่อไหร่
เพราะจะทำให้ประชาชนได้รับความเสียหาย รวมถึงพรรคการเมืองที่กำลังจัดตั้งรัฐบาลด้วย
แต่ทว่า กกต.กลับทำเรื่องร้องเรียนของนักร้องต่าง ๆ
ที่มาร้องเรียนพรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตย ฉะนั้นกลุ่มฯ จึงคิดว่า
กกต.ควรประกาศรับรองให้แล้วเสร็จภายใน 20 มิ.ย.นี้ เพื่อทำให้การเลือกประธานสภา
เลือกนายกรัฐมนตรีดำเนินการต่อไป
และหากยังไม่มีความคืบหน้าจะกลับมาติดตามผลที่สำนักงาน กกต.อีกครั้ง
ส่วนข้อวิจารณ์
กกต.ที่ให้พรรคก้าวไกล ชี้แจงภาพที่มีสัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมอิลูมินาติ
มีรูปค้อนเคียวนั้น ธนพร ชี้แจงว่า อยากฝาก กกต.ว่า สัญลักษณ์ดังกล่าวเป็นการสื่อถึงตัวแทนกรรมกรและชาวนา
โดยค้อนสื่อถึงตัวแทนกรรมการ และเคียวคือบรรพบุรุษเราที่เป็นชาวนา
ไม่ได้มีการสื่อถึงการล้มล้างการปกครองระบบประชาธิปไตย แต่อย่างใด
ด้าน
สมยศ กล่าวว่า จากที่ติดตามการเมืองมาตั้งแต่ปี 2549 แปลกใจทำไมกรณีนักร้องอย่าง
ศรีสุวรรณ จรรยา,
สนธิญา สวัสดี ที่ร้องเรียนการเลือกตั้งซึ่งมาจากประชาชน 14-15
ล้านเสียง กลับรวดเร็ว แต่วันนี้ พิธา กลับเจอแต่การขัดขวาง ฉะนั้น กกต. ควรพิจารณาและฟังเสียงประชาชนที่เลือกพรรคอันดับหนึ่งบ้าง
พร้อมมองว่า
กกต. ที่มาจาก ส.ว. และ
ส.ว.มาจากการแต่งตั้งการสืบทอดอำนาจและเชื่อมโยงการรัฐประหารปี 2557 ของ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
จึงมองว่ามีความพยายามขัดขวางการตั้งรัฐบาลของคนที่มาจากประชาชน ดังนั้นจึงขอส่งสัญญาณถึง
กกต. ขอให้ทำการเลือกตั้งครั้งนี้โปร่งใส และดำเนินการับรองผลโดยเร็ว
เพื่อที่จะได้เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร และเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไป
พร้อมเสนอว่า
หากกังวลจะมีปัญหาก็ขอให้ กกต. รับรองไปก่อน และค่อยสอยภายหลังก็สามารถทำได้
ฉะนั้นขอแนะนำ กกต. ให้ประกาศรับรองผลทันที ไม่ใช่รอจนถึงวันที่ 13 ก.ค.
ไม่เช่นนั้นจะมองว่ามีเจตนาร้ายที่จะโค่นล้มระบอบประชาธิปไตย
ส่วนกรณีถือหุ้นสื่อของ
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯ สมยศ
มองว่าเป็นการกลั่นแกล้งไม่ให้พิธาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะไอทีวีไม่มีอยู่จริงในการเป็นสื่อเพื่อทำข่าวแล้ว
และพิธาไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นมาตั้งแต่ต้น แต่ได้รับมรดก
ซึ่งวันนี้ก็โอนหุ้นเรียบร้อยแล้ว
จึงถือว่ามีเจตนาชัดเจนและไม่ได้มีอิทธิอิทธิพลในไอทีวีแต่อย่างใด
เมื่อถามว่า
ประเมินอย่างไรถ้า กกต. ส่งศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาประเด็นยุบพรรค สมยศ กล่าวว่า
กกต. ควรพิจารณาเฉพาะรายหรือบุคคลไป เพราะถ้าเป็นการกระทำผิดของ 1 คน
แต่ถึงขั้นยุบพรรค ถือเป็นการก้าวล่วงระบบประชาธิปไตย ซึ่งทางกลุ่มก็กังวลใจ
เพราะเห็นบทเรียนในอดีตมาหลายครั้ง ที่วันนี้มีความพยายามทำลายพิธาและพรรคก้าวไกล
เหมือนครั้ง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคอนาคตใหม่ หากเป็นเช่นนั้น
ก็เชื่อว่าผู้คนจะมาโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องมีการนำ
และจะมีการเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้นมากขึ้น นายสมยศกล่าว
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #กกต #หุ้นไอทีวี #พิธาลิ้มเจริญรัตน์