‘เพื่อไทย’ เตรียมฟ้อง ‘สนธิญา’ ฐานร้องเท็จ ปมดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท เหตุร้องเพื่อ ‘กลั่นแกล้ง รังแก’ เกินไป ชี้ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล
วันที่
8 มิถุนายน 2566 นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยกรณีนายสนธิญา
สวัสดี สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ
ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ
เพื่อยุบพรรคเพื่อไทย โดยอ้างเหตุชะลอนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต 10,000
บาท นั้น การกระทำดังกล่าว ทำให้พรรคเพื่อไทยได้รับความเสียหาย
สร้างความสับสนวุ่นวาย ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดของผู้ที่ลงคะแนนเลือกตั้งผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทย
ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้กระทำการที่เป็นการหลอกลวงประชาชนและขอชี้แจงเพิ่มเติมอีกหลายประเด็น
ดังนี้
1.
นโยบายดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท เป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้มีการวิเคราะห์ ผลกระทบ ความคุ้มค่า
และความเสี่ยงอย่างรอบด้าน ซึ่งที่ผ่านมา นักร้องทั้งหลาย ทั้งนายศรีสุวรรณ
นายเรืองไกร หรือแม้แต่นายสนธิญาเอง ก็เคยร้อง กกต.แต่ในท้ายที่สุด
กกต.ปัดตกยกคำร้อง เพราะเป็นนโยบายที่พรรคการเมืองใช้หาเสียงเมื่อได้เป็นรัฐบาล
2.
นโยบายดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท
ที่เคยเสนอไว้ตอนหาเสียง พรรคเพื่อไทยไม่ได้ยกเลิกและชะลอ
แต่เป็นกระบวนการทางการเมืองในการฟอร์มรัฐบาล
ซึ่งพรรคก้าวไกลในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นหลักในการนำนโยบายว่าด้วยการให้สวัสดิการประชาชน
พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งอันดับสอง เมื่อกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีแล้วเสร็จ ได้คณะรัฐมนตรี
จึงมาร่วมกันจัดทำนโยบายแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งในตอนนั้นจึงจะมีชัดเจนในนโยบาย
ดังนั้นการร้องของนายสนธิญา ที่กล่าวหาพรรคเพื่อไทยหลอกลวง
จึงคลาดเคลื่อนจากข้อจริง
3. นายสนธิญาเพิ่งจะมีจดหมายกราบขอโทษส่งถึง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย หลังถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 6 เดือน ปรับ 50,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา
และศาลแพ่งสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 2,000,000 บาท
กรณีที่นายสนธิญาไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.และ กกต. ซึ่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์
ยังไม่ให้อภัย เพราะต้องการให้นายสนธิญารับกรรมในสิ่งที่ทำไว้
แทนที่นายสนธิญาจะสำนึกว่าการร้องเรียนเพื่อสร้างความเสียหายให้กับฝ่ายตรงข้ามไม่หยุดไม่หย่อน
จนตัวเองถูกศาลสั่งลงโทษ เหตุใดจึงยังไม่เข็ดหลาบ
4.
หากพรรคการเมืองไม่ทำตามนโยบายที่หาเสียงเอาไว้
เหตุใดนายสนธิญาไม่ไปร้อง กกต. กรณีพรรคพลังประชารัฐ อยู่มา 4 ปี ไม่สามารถทำตามนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ตอนเลือกตั้งปี 2562 ทั้งขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 400 - 425 บาท
จบอาชีวะเงินเดือน 18,000 บาท จบปริญญาตรีเงินเดือน 20,000 บาท นโยบายมารดาประชารัฐ ยกเว้นภาษี 5 ปี
ลดภาษีบุคคลธรรมดา 10%
และอีกหลายนโยบายที่ไม่ได้ทำตามที่หาเสียงไว้
ดังนั้น
การกระทำของนายสนธิญา จงใจใส่ร้ายป้ายสี สร้างความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้นในสังคม
เข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560
มาตรา 101 ที่บัญญัติว่า
‘ผู้ใดแจ้งหรือกล่าวหาพรรคการเมือง หรือบุคคลใดว่า
กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ต่อคณะกรรมการ
หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยรู้อยู่ว่า เป็นความเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น’
“ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยจะไม่ทน และไม่ต้องมาขออภัย เพราะที่ผ่านมารังแก
กลั่นแกล้งกันเกินไป
นักร้องต้องได้รับผลพวงของการกระทำของตัวเองที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นเสียที’
นางสาวตรีชฎา กล่าวทิ้งท้าย