‘เศรษฐา’
ยืนยันหลักการฝ่ายประชาธิปไตยต้องจับมือกัน เดินหน้าดัน ‘พิธา’ เป็น
‘นายกรัฐมนตรี’ เชื่อตำแหน่ง ‘ประธานสภา’ หาข้อสรุปได้ด้วยดี
วันที่ 30 มิถุนายน 2566 นายเศรษฐา
ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย
ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวข้อสรุปการพูดคุยระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล
มอบตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรให้กับพรรคก้าวไกล โดยมีเงื่อนไขหากนายพิธา
ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้จากที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา
พรรคก้าวไกลจะร่วมกับพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลว่า
ขณะนี้ยังไม่มีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรเลย
แต่เชื่อว่าในส่วนนี้จะจบลงได้ด้วยดี
เพราะเรายึดมั่นในหลักการที่ฝ่ายประชาธิปไตยต้องจับมือกันไว้และทำงานด้วยกัน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่ระบุถึงพรรคเพื่อไทยจะเป็นนายกรัฐมนตรี
ในกรณีพรรคก้าวไกลไม่สามารถฝ่าด่าน ส.ว. ได้ นายเศรษฐา กล่าวว่า
เป็นเพียงแหล่งข่าว คงต้องรอฟังจากพรรคเพื่อไทย
โดยหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคในฐานะคณะเจรจาจะดีกว่าเพราะตนไม่ได้อยู่ในกระบวนการเจรจาด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 29
มิถุนายนที่ผ่านมาได้ไปประชุมร่วมกับพรรคก้าวไกล ในประเด็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจ
ซึ่งก็เป็นในเชิงสร้างสรรค์
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หากนายพิธา
สะดุดไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายเศรษฐา
กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดตรงนั้น ต้องมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรก่อน อีกทั้งขณะนี้เราต้องพยายามให้นายพิธา
ได้เป็นนายกรัฐมนตรีก่อน เพราะพรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงมากกว่า
“ผมไม่ได้คิดถึงตรงนั้นเลย
เอาทีละขั้นตอนดีกว่า วันนี้ต้องเลือกประธานสภา
ให้ไม่บอบช้ำทั้งสองฝ่ายก่อนและไปเลือกนายกรัฐมนตรี ให้คุณพิธา
ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเขาได้รับเลือกมาเป็นอันดับหนึ่ง
ก็หวังว่าจะไม่มีอุปสรรค”แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าว