วันพุธที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2566

‘เศรษฐา’ จ่อลงพื้นที่ น่าน-แพร่-ลำปาง-เชียงใหม่ หาวิธีปลูกพืชเศรษฐกิจแก้ปัญหาไร่เลื่อยลอย เตรียมเลือกตั้ง 4 ปีข้างหน้า เผยคุยนักลงทุนนับ 100 ประเทศลุ้น 8 พรรคตั้งรัฐบาลเสร็จโดยเร็ว

 


‘เศรษฐา’ จ่อลงพื้นที่ น่าน-แพร่-ลำปาง-เชียงใหม่ หาวิธีปลูกพืชเศรษฐกิจแก้ปัญหาไร่เลื่อยลอย เตรียมเลือกตั้ง 4 ปีข้างหน้า เผยคุยนักลงทุนนับ 100 ประเทศลุ้น 8 พรรคตั้งรัฐบาลเสร็จโดยเร็ว


วันที่ 14 มิถุนายน 2566 เวลา 13.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ภาคธุรกิจมีความเป็นห่วง การตั้งรัฐบาลล่าช้าอาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนว่า ในงานสัมมนาออนไลน์ที่จัดโดย บริษัทหลักทรัพย์ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา ในฐานะที่บทบาทเดิม เคยเป็นผู้บริหารบริษัทขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าสูงในตลาดหลักทรัพย์ และมีการพูดคุยกับนักลงทุนเป็นประจำ จากวงการธุรกิจ มาสู่การเมือง จึงได้ถูกเชิญให้ร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยน ถึงสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน  และสถานการณ์เศรษฐกิจ  มีนักลงทุนต่างประเทศเข้าฟัง 85 -107 ราย ซึ่งมีการสอบถามสถานการณ์บ้านเมือง ประมาณ 1 ชั่วโมง ตนเองได้ยืนยันว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูง มีสิ่งดี ๆ อยู่มาก แต่ความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาลช่วงการเปลี่ยนถ่าย อาจทำให้การลงทุนหยุดชะงัก ซึ่งในส่วนของนักลงทุน อยากให้จัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว ตนเองในฐานะที่ทำงานในพรรคเพื่อไทย ไม่ได้อยู่ในคณะประสานงานจัดตั้งรัฐบาล ตนเองได้แถลงเจตจำนงชัดเจนว่า จุดยืนของพรรคเพื่อไทย อยากให้ 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี จะช่วยแก้ไข ผ่อนคลายปัญหาได้ ซึ่งนักลงทุนมีท่าทีว่าหากจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว ทุกอย่างจะดีขึ้น 


ส่วนกรณีกระแสข่าว บ.อีซูซุ เตรียมย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศไทย นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่แน่ใจว่าจริงหรือไม่ แต่อีซูซุได้ออกมาปฏิเสธแล้วว่ายังไม่ย้าย ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับเขา แต่การเจรจาการค้า FTA เรื่องผลประโยชน์การลงทุน และผู้นำที่จะต้องลงขายดีๆให้กับประเทศไทย ถือเป็นเรื่องจำเป็น ที่จะดึงดูดนักลงทุนกลับมา และหากการตั้งรัฐบาลยังไม่เกิดขึ้น หรือล่าช้าไปอีกครึ่งเดือน อาจจะทำให้ ภาคการลงทุนเหนื่อย  ซึงตนเองก็มั่นใจว่า หากรัฐบาลใหม่ ที่มีพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจากที่เห็นผ่านสื่อนายพิธา ได้ให้ความสำคัญกับการค้าต่างประเทศเยอะ และน่าจะสนับสนุนการลงทุนในประเทศไทยเยอะ หากตั้งรัฐบาลได้จะเป็นอีกหนึ่งเรื่องใหญ่ที่นายพิธาจะทำ


ส่วนการเดินสายไปพูดคุยกับภาคธุรกิจ หลายๆส่วนนั้น จะสร้างความมั่นใจให้กับการลงทุนได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เชื่อว่าความตั้งใจของว่าที่นายกรัฐมนตรี เป็นเจตจำนงที่ดีที่จะคุยกับทุกภาคส่วน เข้าใจภาพรวมเศรษฐกิจไทยและจะได้ทราบถึงภาพรวมของ SME สภาอุตสาหกรรม และหอการค้าไทย ซึ่งได้ไปพูดคุยมาแล้ว เชื่อว่าคณะทำงาน จะนำเอาข้อมูลไปประกอบการเตรียมตัวตั้งรัฐบาล เมื่อตั้งรัฐบาลได้ หรือเลือกนายกรัฐมนตรีได้ก่อนจะดึงดูดใจนักลงทุนไทยอีกครั้ง และขออย่าคาดการณ์ว่าการเมืองจะเกิดเหตุการณ์อะไร วันนี้ต้องอยู่กับความเป็นจริง และอยู่ในช่วงของการจัดตั้งรัฐบาลอยู่ แม้จะมีตัวแปรและเหตุการณ์ทำให้ล่าช้าบ้าง แต่ขอให้อยู่กับความเป็นจริงก่อน และยังมั่นใจว่าการตั้งรัฐบาลทำได้ และนักลงทุนก็อยากให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะมีเพื่อนนักธุรกิจต่างชาติ อยากย้ายฐานการผลิตเข้ามาที่ไทยหลายราย เพียงแต่คอยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มาบริหารจัดการเต็มที่ และออกนโยบายที่ดีที่สุดจริง ๆ และตนเชื่อว่า นักธุรกิจทุกคน นักลงทุนในตลาดทุน ก็หวังว่าจะเกิดขึ้นโดยเร็ว


ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเป็นห่วงหรือไม่ที่การจัดตั้งรัฐบาลอาจทำได้ยาก และอยากให้เกิดขึ้นโดยเร็ว นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่าใช้คำว่าเป็นห่วง  ตนเองมีหน้าที่มาช่วยด้านการสื่อสารพรรคเพื่อไทย โฟกัสเรื่องภายในพรรค โดยในวันนี้มาหารือ กับนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง  เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับความคืบหน้าในการทำงานการสื่อสารของพรรค


นายเศรษฐา กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าเตรียมลงพื้นที่พบผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่ที่พรรคเพื่อไทยมีตัวแทน ส.ส.หรือว่าที่ ส.ส. เพื่อสอบถามความต้องการ โดยอาจจะไปที่ จ.น่าน เพื่อดูการปลูกพืชท้องถิ่น เช่น กาแฟ โกโก้ รวมถึงไป จ.แพร่ ลำปาง เชียงใหม่ เส้นทางนั้นรวม 3 วัน เพื่อไปดูพืชผลทางการเกษตรที่จะปลูกแทนไร่เลื่อนลอย เพราะการปลูกกาแฟ ต้องใช้เวลานาน ระหว่างนี้จะหารายได้ทดแทนอย่างไร   ยืนยันการลงพื้นที่ เป็นการทำงานเพื่อเตรียมตัวเลือกตั้งใน 4 ปีข้างหน้า ให้พรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นพรรคอันดับหนึ่ง พร้อมชูมือหมายเลข 1 ด้วย


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #เศรษฐาทวีสิน