‘ปานปรีย์’ ชี้ รัฐบาลรักษาการ ‘ไม่ควร’
จัดประชุมอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ
ควรรอรัฐบาลใหม่
กังวลอาเซียนถูกมองว่าแตกแยก
วันที่ 19 มิถุนายน 2566 ดร.ปานปรีย์
พหิทธานุกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย
กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศ
จัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างอาเซียน-เมียนมา ซึ่งจัดขึ้นในวันนี้ว่า
การจัดประชุมดังกล่าวไม่ควรเกิดขึ้น ต้องรอให้รัฐบาลใหม่ที่กำลังจัดตั้ง
ได้ดำเนินการนโยบายการต่างประเทศ เพราะ
1. สถานะของรัฐบาลในปัจจุบันเป็นรัฐบาลรักษาการ
2. จัดการประชุมกระทันหันเกินไป
ออกหนังสือเชิญประเทศสมาชิกก่อนการจัดประชุมเพียง 5 วันเท่านั้น และหากจำเป็นต้องจัดประชุมไม่เป็นทางการ
ต้องมีเหตุการณ์ที่จะกระทบจนเกิดความเสียหายรุนแรงต่อประเทศไทย เช่น
มีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักร เกิดสงคราม เกิดปัญหาด้านความมั่นคงที่รุนแรง
และกระทบต่ออธิปไตย เป็นต้น
พรรคเพื่อไทย มองว่า
นโยบายการต่างประเทศรัฐบาลใหม่ จะให้ความสำคัญกับอาเซียนเป็นหลัก เพราะอาเซียนถือเป็นเวทีสำคัญในการแก้ไขปัญหาในระดับภูมิภาค
กลุ่มอาเซียนเป็นที่ติดตามของชาวโลก จากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง
จีดีพีอาเซียนอยู่ที่ 3.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
และคาดว่าในปีนี้จีดีพีอาเซียนจะเติบโต 5% (จากการคาดการณ์ของธนาคารพัฒนาเอเชีย)
มีประชากรประมาณ 700 ล้านคน การค้าการลงทุนจะเลี้ยวมาอาเซียน ดังนั้น
ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน (Unity)
จึงมีความสำคัญสูงสุด ซึ่งเราจะผลักดันให้ประเทศไทยและอาเซียน
ยืนอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญและเหมาะสมในเวทีโลก
ดร.ปานปรีย์ กล่าวอีกว่า เป็นที่น่าสังเกตว่ารัฐบาลที่นำโดยพลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชา เป็นเจ้าภาพจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างอาเซียน - เมียนมา
มาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งไม่มีความคืบหน้า ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่
3 อีก จึงถือว่าเป็นเรื่องใ.หญ่ โดยในความรู้สึกส่วนตัวตนมองว่าเป็นเรื่องผิดปกติ
เพราะการประชุมข้ามประเทศต้องใช้ระยะเวลาในการเตรียมงานนานพอสมควร
และต้องมีความมั่นใจในระดับหนึ่งว่าผู้นำระดับสูงของแต่ละประเทศจะตอบรับเข้าร่วมประชุม
ซึ่งการทำงานในลักษณะดังกล่าว โดยหลักควรหารือและขอความเห็นจากอินโดนีเซียซึ่งเป็นประธานอาเซียนก่อน
แต่พบว่าอินโดนีเซียปฏิเสธการเข้าประชุมรวมถึงสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์
เวียดนาม ต่างปฏิเสธที่จะเข้าร่วม
เพราะการประชุมจัดขึ้นอย่างกระทันหันแบบไม่มีปีมีขลุ่ย ทั้งที่ในเวลานี้เราต้องการความเข้มแข็งของอาเซียน
เพราะถือเป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญของโลก
“การจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างอาเซียน-เมียนมา
ยังไม่จำเป็นต้องทำในตอนนี้ ข่าวเผยแพร่ออกไปทั่วโลก ผู้นำหลายประเทศไม่มา
อาจทำให้ชาวโลกมองว่า อาเซียนเห็นไม่ตรงกันและอาจถูกมองเลยเถิดไปได้ว่า
อาเซียนมีความเห็นที่แตกแยกในประเด็นของเมียนมาไม่ตรงกับกับฉันทามติที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ได้”
ดร.ปานปรีย์ กล่าว