วันอังคารที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2566

เกษตรกรตบเท้าพบเพื่อไทย ดันนโยบายเพิ่มรายได้ ขายสินค้าเกษตรสู่ตลาดโลก

 


เกษตรกรตบเท้าพบเพื่อไทย ดันนโยบายเพิ่มรายได้ ขายสินค้าเกษตรสู่ตลาดโลก


วันที่ 13 มิถุนายน 2566 สภาอาชีพเกษตรกร สมาชิกเกษตรผู้ปลูกลำไยภาคเหนือ 8 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา ลำปาง แพร่ น่าน และแม่ฮ่องสอน พบนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะทำงานนโยบายการเกษตร พรรคเพื่อไทย และคณะ ขอเพื่อไทยสานต่อนโยบายเพื่อชาวเกษตรกรลำไย มั่นใจเพื่อไทยคือความหวัง พาเกษตรกรพ้นทุกข์ ขายสินค้าเกษตรไทยออกไปทั่วโลก


นายมานพ จินะนา ตัวแทนสภาอาชีพเกษตรกร กล่าวว่า นโยบายเพิ่มรายได้เกษตรของพรรคเพื่อไทย  สร้างความหวังให้กับเกษตรกรทั้งประเทศ สำหรับสมาชิกเกษตรผู้ปลูกลำไยภาคเหนือ 8 จังหวัด เราได้จัดประชุมคณะกรรมการบริหารผู้นำและสมาชิก 200 คน เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา สรุปปัญหาและความต้องการคือการประกันไว้ซึ่งสิทธิของเกษตรกรชาวสวนลำไยที่จะได้รับความคุ้มครอง มีความมั่งคงและได้รับความเป็นธรรมในระบบการผลิตลำไยคุณภาพ


นายวิสุทธิ์ ประธานคณะทำงานนโยบายการเกษตร กล่าวว่า ยินดีและเป็นเกียรติยิ่ง ที่พรรคเพื่อไทยเป็นที่พึ่งที่หวังของเกษตรกรไทย ยืนยันเราจะทำงานหนักไม่หยุด จนกว่าพี่น้องเกษตรกรจะพ้นทุกข์ยาก ซึ่งสาเหตุแห่งทุกข์ยากข้อแรกขณะนี้คือลำไยขายไม่ได้ราคา ต้องถูกขจัดไป


ปีนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ประมาณการณ์ผลผลิตลำไยอยู่ที่ 1.03 ล้านตัน ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว โดยผลผลิตจะออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-กันยายน  ซึ่งน่ากังวลใจ เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมาต้องเผชิญกับปัญหาลำไยล้นตลาด ซึ่งเรา พรรคเพื่อไทยในฐานพรรคฝ่ายค้าน ได้ยื่นกระทู้ สอบถาม ถึงขั้นหอบลำไยเข้าสภาแถลงข่าวประท้วง รวมทั้งเสนอวิธีการ เพื่อส่งสัญญาณถึงรัฐบาลผู้มีอำนาจเตรียมการรับมือปัญหาล่วงหน้า แต่จนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีรูปธรรมที่ชัดเจนเพื่อจัดการปัญหาแต่อย่างใด


“สำหรับพรรคเพื่อไทย ความเดือนร้อนของเกษตรกร คือความเดือนร้อนของเรา การรับมือปัญหาลำไยในระยะเร่งด่วน ทำได้ทันที เร็วที่สุดคือใช้การต่างประเทศเพื่อการค้า มองหาโอกาสใหม่ มองหาลู่ทางใหม่ ไปยังตลาดต่างประเทศยังมีความต้องการลำไยอยู่อีกมาก เช่น ตลาดเอเชียใต้ อินเดีย บังคลาเทศ และตลาดอินโดนีเซีย เพียงรัฐเจรจาหาตลาด และแก้ปัญหาอุปสรรคเพื่อการส่งออกเท่านั้น ส่วนระยะกลางและระยะยาว การจัดการมาตรฐานสินค้า และการแปรรูป ไปถึงขั้นการสกัดสารสำคัญจากลำไย คือวิธีการยกระดับราคาลำไยอีกหลายเท่าตัว เราทำงานเกาะติดพื้นที่จนรู้ว่าสถาบันการศึกษาทำแล้ว เอกชนพร้อมแล้ว แต่เรายังไม่ไปถึงไหน เพราะไม่ถูกส่งเสริมผลักดันอย่างจริงจังด้วยรัฐบาลที่ใส่ใจเท่านั้น” ประธานคณะทำงานนโยบายการเกษตร พรรคเพื่อไทย กล่าว


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย