ศาลพิพากษาจำคุก
“เจ๋ง ดอกจิก” 6 ปี ขณะที่ “ศรีสุวรรณและพวก” คนละ 4 ปี คดีเรียกรับทรัพย์สินอธิบดีกรมการข้าว
วันที่
17 กันยายน 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
อ่านคำพิพากษาคดีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก
พร้อมพวกรวม 5 คน ในข้อหาเรียกรับทรัพย์สินจาก นายณัฎฐกิตติ์
ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว
นายศรีสุวรรณ
เปิดเผยว่า คดีที่เกิดขึ้นส่วนตัวมองว่ามีสาเหตุมาจากประเด็นทางการเมืองที่ต้องการจะสกัดกั้นไม่ให้ตัวเองทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของนักการเมืองและข้าราชการระดับสูง
เพราะที่ผ่านมาตัวเองได้ตรวจสอบร้องเรียนกลุ่มคนเหล่านี้ ฃและนักการเมืองบางกลุ่ม จนนำไปสู่การยุบพรรคการเมืองบางพรรค
บางกลุ่ม ซึ่งตัวเองและให้การปฏิเสธตั้งแต่ชั้นจับกุม ชั้นอัยการจนมาถึงชั้นศาล
เพราะต้องการพิสูจน์ให้ความปรากฏชัดเจน
นายศรีสุวรรณ
ยังระบุอีกว่า
วันนี้ไม่กังวลใจอะไรแต่กลับมีความมั่นใจในการไต่สวนและเชื่อมั่นในคำพิพากษา ส่วนเจ๋ง
ดอกจิก เดินทางมาถึงก่อนเวลานัดหมาย โดยไม่ให้สัมภาษณ์ และเดินขึ้นที่ห้องพิจารณาคดีทันที
ล่าสุดศาลพิพากษาจำคุก
เจ๋ง ดอกจิก เป็นเวลา 6 ปี ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ส่วนนายศรีสุวรรณพร้อมพวก
โดนคนละ 4 ปี ฐานสนับสนุน
คดีดังกล่าวเริ่มขึ้นเมื่อวันที่
12 ม.ค. 2567 หลังจากอธิบดีกรมการข้าว
เข้าแจ้งความต่อกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)
ว่าถูกกลุ่มผู้ต้องหาเรียกรับเงินจำนวน 1.5 ล้านบาท
เพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนเรื่องทุจริตที่เกี่ยวข้องกับกรมการข้าว
โดยตำรวจได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดในเวลาต่อมา
สำหรับข้อกล่าวหาที่พนักงานสอบสวนแจ้งนั้น
นายยศวริศ ชูกล่อม ถูกดำเนินคดีในฐานะเจ้าพนักงานของรัฐ รวม 6
ข้อหาหลัก เช่น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และการเรียกรับทรัพย์สินโดยมิชอบ
ขณะที่นายศรีสุวรรณ
จรรยา พร้อมผู้ต้องหาอีก 3
คนคือ น.ส.พิมณัฏฐา, นายเอกลักษณ์ และ
น.ส.ณพัชญ์ปภา ถูกดำเนินคดีในฐาน ร่วมกันสนับสนุนการกระทำความผิดของเจ้าพนักงานรัฐ
หลังการสอบสวนเสร็จสิ้น
คณะพนักงานอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่าผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี
จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยไม่ต้องนำตัวไปฝากขังต่อศาล
โดยให้มารายงานตัวตามกำหนดการใหม่