วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2568

ศูนย์ทนายฯ ชวนติดตาม พรุ่งนี้ (30 ก.ย.) ฟังคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ คดี ม.112 “ลูกเกด ชลธิชา” สส.พรรคประชาชน กรณีปราศรัย "คาร์ม็อบ 11 กันยา 64" หลังศาลชั้นต้นจำคุก 2 ปี ถ้ามีโทษคุก-ไม่ได้ประกัน หลุดส.ส.ทันที

 


ศูนย์ทนายฯ ชวนติดตาม พรุ่งนี้ (30 ก.ย.) ฟังคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ คดี ม.112 “ลูกเกด ชลธิชา” สส.พรรคประชาชน กรณีปราศรัย "คาร์ม็อบ 11 กันยา 64" หลังศาลชั้นต้นจำคุก 2 ปี ถ้ามีโทษคุก-ไม่ได้ประกัน หลุดส.ส.ทันที


วันที่ 29 กันยายน 2568 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสชวนติดตามผล การนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 30 ก.ย. 2568 เวลา 9.00 น. ศาลจังหวัดธัญบุรีนัดคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ในคดีหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของ “ลูกเกด” ชลธิชา แจ้งเร็ว อดีตนักกิจกรรมทางการเมือง และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชน เหตุจากกรณีปราศรัยและชุมนุมเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีการเมือง หน้าศาลจังหวัดธัญบุรี เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2564


สำหรับการชุมนุม #คาร์ม็อบ11กันยา64 มีเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน, กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG) และกลุ่มพะยอมเก๋า ร่วมกันจัดกิจกรรม เรียกร้องให้ #ปล่อยเพื่อนเรา โดยตั้งขบวนจากหน้าห้างฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และเคลื่อนตัวไปยังศาลจังหวัดธัญบุรี เพื่อลงชื่อยื่นขอประกันตัวผู้ต้องหาคดีชุมนุมหน้า บก.ตชด. ภาค 1 จำนวน 5 ราย ได้แก่ ณัฐชนน ไพโรจน์, “บอย” ธัชพงศ์แกดำ, “ฟ้า” พรหมศร วีระธรรมจารี, “ไมค์” ภานุพงศ์ จาดนอก และ “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ ซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจําอําเภอธัญบุรี


คดีนี้มีจำเลยทั้งสิ้น 10 ราย นอกจากชลธิชา (จำเลยที่ 1) นักกิจกรรมและประชาชนอีก 9 คน ถูกฟ้องเฉพาะข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดปทุมธานี เรื่องมาตรการป้องกันโควิด และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต


ชลธิชาเพียงคนเดียวที่ถูกฟ้องในข้อหาตามมาตรา 112 เพิ่มจากข้อหาข้างต้นด้วย เหตุจากการปราศรัยในประเด็นที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ออก พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการในพระองค์ พ.ศ. 2560 และแก้กฎหมาย พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เมื่อปี 2561


คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 10 ในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เห็นว่าพยานหลักฐานของโจทก์ฟังไม่ได้ว่าทั้งสิบเป็นผู้จัดการชุมนุม ดังนั้น จึงไม่มีหน้าที่ต้องจัดมาตรการป้องกันโรคและขออนุญาตใช้เครื่องขยายเสียง และไม่ปรากฏว่าหลังจากการชุมนุมมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19


ส่วนข้อหา ม.112 เห็นว่า น.ส.ชลธิชา กระทำความผิดตาม ม.112 ให้ลงโทษจำคุก 3 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ต่อมาศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวชลธิชาในระหว่างอุทธรณ์


ในวันพรุ่งนี้ (30 ก.ย.) หากศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำพิพากษาแล้วเห็นว่า น.ส.ชลธิชา มีความผิด พร้อมให้ลงโทษจำคุก โดยไม่รอลงอาญา และไม่อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างฎีกา แม้จำเลยจะมีสิทธิต่อสู้คดีในชั้นฎีกาต่อ จะถือว่า น.ส.ชลธิชา ต้องคําพิพากษาให้จําคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล ซึ่งจะขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (6) โดยทันที


ทั้งนี้ ศูนย์ทนายฯระบุว่า ก่อนหน้านี้ศาลนัดฟังคำพิพากษา ในวันที่ 21 ก.ค. ต่อมาในช่วงเย็นวันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ศาลติดต่อแจ้งเลื่อนอ่านคำพิพากษาไปเป็นวันที่ 30 ก.ย. เนื่องจากคำพิพากษายังไม่แล้วเสร็จ


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #มาตรา112