ธิดา
ถาวรเศรษฐ :
เรื่องของพรรคการเมืองกับเรื่องของการต่อสู้ของประชาชน (28 ก.ย. 68)
ขณะนี้พรรคการเมืองสองพรรคที่มีแฟนคลับเป็นผู้รักประชาธิปไตยและแฟนคลับพรรคนั้น
ๆ (ทั้งตระกูล แบกตระกูลด้อม) กำลังถูกตั้งข้อสังเกต วิพากษ์วิจารณ์
และยังเปิดฉากทะเลาะวิวาทกันไม่หาย นอกจากระหว่างแฟนคลับพรรค ส้ม/แดง
ทะเลาะกันแล้ว คนที่ไม่ใช่แฟนคลับพรรคตน แม้เขาจะโหวตมาให้พรรคตนและมาวิพากษ์วิจารณ์ก็ถูกด่าทอไปด้วย
ดิฉันมองสถานการณ์นี้แล้วเศร้าใจในประเด็นหลักการที่เสื่อมถอยในจิตใจ
คือ
1.
เราพูดกันแต่เรื่องพรรคการเมือง ซึ่งเป็นขาหนึ่งของนักต่อสู้และผู้รักประชาธิปไตย แต่เราแทบไม่พูดถึงขาของการต่อสู้ของประชาชน
มีก็เพียงการรำลึกอานนท์ ผู้ถูกคุมขัง ผู้ลี้ภัยบ้างจำนวนหนึ่ง
2.
ในขาของพรรคการเมือง วิถีการต่อสู้ในรัฐสภา คนจำนวนมากทำตัวเป็นคนขาเดียว
และคลั่งพรรคที่เป็นแฟนคลับ ไม่ยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์พรรคที่รักของตน
ก็กลายเป็นลัทธิบูชาบุคคล ลัทธิบูชาพรรคที่รักของตน ใครแตะต้องไม่ได้
พรรคและผู้นำที่รักของตนต้องทำอะไรไม่ผิดซักอย่าง ใครวิจารณ์ มีความเห็นต่าง
ก็ต้องหงุดหงิด ไปด่าทอกัน เป็นผลร้ายต่อพรรคตนเอง
3.
ดิฉันยังนิยามว่า “คนเสื้อแดง” คือผู้รักประชาธิปไตย
ต่อต้านเผด็จการทหารและระบอบอำมาตยาธิปไตย ของชนชั้นนำที่ไม่ยอมคืนอำนาจให้ประชาชน
ส่วนคนใส่เสื้อสีแดงคลั่งพรรคการเมืองนั้น ถ้ายังมีหลักการหลงเหลืออยู่บ้าง ในฐานะร่วมต่อต้านเผด็จการและระบอบอำมาตยาธิปไตย
ก็ขอให้มองเห็นว่า ขบวนการเสื้อแดงนั้น ไม่ได้เป็นพวกคลั่งรัก คลั่งบุคคล และคลั่งอำนาจผลประโยชน์
4.
ดังนั้น เวลาวิจารณ์ที่เห็นแตกต่างทางการเมือง อย่ามองเห็นเฉพาะหางแดง หางส้ม
หางพรรคใด ๆ ให้เห็นหัวว่าเป็นประชาชน เป็นคน
เป็นนักต่อสู้ผู้รักประชาธิปไตยหรือไม่ด้วย นี่อะไร!!!
มองเห็นแต่หางพรรคการเมือง ไม่เห็นหัวที่เป็นคนและฐานะนักต่อสู้เลย
5.
ดิฉันคิดว่า “พรรคเพื่อไทย” ในฐานะแนวร่วมในอดีต ต้องสรุปบทเรียนครั้งใหญ่
เพื่อจะก้าวต่อไป ไม่ล่มสลายดังเช่นบางพรรคที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีต ที่สำคัญ
ประเมินมิตรและศัตรูให้ถูกต้อง และปรับปรุงครั้งใหญ่มาก ๆ
6.
ในส่วน “พรรคประชาชน” แน่นอนว่าถูกตั่งข้อสังเกตมาก ตั้งแต่มีการดีลตกลงจับมือสนับสนุนคุณอนุทินเป็นนายกฯ
ให้พรรคภูมิใจไทยเป็นผู้นำรัฐบาลขั้วอนุรักษ์นิยมควรจะดีใจที่มีคนวิพากษ์วิจารณ์และไม่เห็นด้วย
ไม่ใช่เดินตามผู้นำโดยไม่มีข้อโต้แย้ง ถ้าด่าคนวิพากษ์วิจารณ์
แสดงว่านี่ก็ไม่ใช่เสรีนิยมจริง
ดิฉันเองไม่อยู่ในสังกัดพรรคการเมืองใด
ๆ จุดยืนหลักคือขาของการต่อสู้ของประชาชนนอกเวทีรัฐสภา
ซึ่งต้องการแนวร่วมพรรคการเมืองที่เดินสอดคล้องกันในทิศทางที่ก้าวหน้า
คิดว่าพรรคประชาชนอาจประเมินตนเองต่ำเกินไปในประเด็นที่เป็นความหวังของผู้คน
หรือประเมินสูงเกินไปในประเด็นความเชื่อมั่นตนเอง ลองพิจารณาดู!!!
ดิฉันได้ไปรับฟังคุณธนาธร
ในงานที่แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ จัดเสวนา ซึ่งจริง ๆ เขาไม่ต้องการให้อัดคลิปเสียง
แต่ตอนนี้ก็รู้ทั่วกันแล้ว
ดิฉันอึ้ง!!! ค่ะ
ที่คุณธนาธรพูดถึง “พรรคสีน้ำเงิน” และ Grand Compromise
ดิฉันอยากฝากถึงประชาชนว่า
เราต้องสู้ทั้งเวทีรัฐสภาและนอกรัฐสภา และเราถูกกระทำหนักทั้งสองเวที
ในส่วนของพรรคการเมืองก็เป็นสิทธิที่เขาจะเลือกเดิน ดิฉันถือว่าการ Compromise ของพรรคการเมืองที่ถูกกระทำมีมานานแล้ว สำหรับพรรคเพื่อไทย โดยคุณทักษิณ
ชินวัตร แล้วผล่ล่ะ!!! กี่ครั้งมาแล้ว
นี่ขนาดเข้าคุกจริงแล้ว ยังมีความพยายามจะเอาเรื่องเอาราวอีกมาก คอยดูไป!!!
แต่ถ้า
“พรรคประชาชน” จะทำ Grand
Compromise จะเก่งกว่า, ดีกว่าคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทย
ก็คอยติดตามดูต่อไปว่าจะส่งผลอย่างไรต่อพรรคประชาชน อาจดีหรือไม่ดีก็ได้
และจะส่งผลต่อการต่อสู้ของประชาชนนอกรัฐสภาอย่างไร?
ลองสังเกตนิด้าโพลดู!!!
ขอให้ประชาชนนักต่อสู้รวมพลัง
อย่าคิดหวังเพียงเป็นแฟนคลับของพรรคการเมืองอย่างเดียว พรรคไหนเลี้ยวขวา ข้ามขั้ว เราจะกลับตัวไม่ทัน
และทำให้พลังการต่อสู้ของประชาชนอ่อนแอ!!!
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พรรคการเมือง #การต่อสู้ของประชาชน #พรรคเพื่อไทย #พรรคประชาชน #พรรคภูมิใจไทย
