สภาล่ม! ขาดอีกเสียงเดียว องค์ประชุมไม่ครบ พิจารณา “พ.ร.บ.อากาศสะอาด” ต่อไม่ได้ “ฉลาด” สั่งปิดประชุมเวลา 16.00 น.
วันที่ 25 ก.ย. 2568 เวลา 11.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่ประธานที่ประชุมพิจารณาร่างพ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ที่มีนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม อดีตสส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานกมธ. พิจารณาแล้วเสร็จ มีเนื้อหาเกือบ 300 มาตรา โดยการลงมติแต่ละมาตราเป็นไปอย่างขลุกขลัก เสียเวลารอองค์ประชุมค่อนข้างนาน แต่ละมาตรามีเสียงเกินกึ่งหนึ่งขององค์ประชุมเพียง 6-7 เสียงเท่านั้น กระทั่งถึงมาตรา 16 ที่ต้องรอองค์ประชุมเกือบ 10 นาที ทำให้สส.พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชนไม่พอใจ เพราะมีแต่สส.พรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทยเป็นองค์ประชุม แต่ไม่มีสส.พรรคเพื่อไทยเป็นองค์ประชุม
ในที่สุดนายไชยาสั่งพักประชุม 40 นาที เมื่อกลับมาประชุมใหม่ นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ขอให้พักพิจารณาร่างพ.ร.บ.บริหารจัดการอากาศสะอาด เลื่อนไปประชุมสัปดาห์หน้า เพื่อให้ที่ประชุมหารือปัญหาเร่งด่วน ถนนสามเสมยุบตัวเป็นหลุมลึก แต่สส.พรรคประชาชนไม่เห็นด้วย ให้เดินหน้าพิจารณากฎหมายต่อ เพราะปัญหาเกิดจากสส.เพื่อไทยไม่อยู่ร่วมเป็นองค์ประชุม เกิดการโต้เถียงไปมา ในที่สุดนายไชยาขอให้พิจารณาร่างกฎหมายนี้ถึงมาตรา 23/8 ก่อน แล้วจึงให้พิจารณาเรื่องเร่งด่วน กรณีถนนทรุดตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แต่การลงมติในแต่ละมาตราของร่างพ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด ยังเป็นไปอย่างทุลักทุเล แต่ละมาตรามี สส. แสดงตนเป็นองค์ประชุมเกินมาเพียง 2-3 เสียงเท่านั้น กระทั่งถึงมาตรา 22 มีผู้มาแสดงตนเป็นองค์ประชุม 246 เสียง พอดีองค์ประชุม แต่ปรากฏตอนเสียบบัตรลงคะแนนจะเห็นชอบมาตรานี้หรือไม่ มีคะแนนเพียง 245 เสียงเท่านั้น ไม่ครบองค์ประชุม แต่นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุม ระบุว่า มีสมาชิกลงมติด้วยวาจาเพิ่มอีก 1 เสียง
นายณัฐวุฒิ บัวปทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้ลุกขึ้นกล่าวว่า เข้าใจว่าทางปฏิบัติของสภาฯ จะมีการดูองค์ประชุมสองรอบ คือรอบแรกในการแสดงตน ว่า มาครบหรือไม่ และเมื่อมีการแสดงตนครบ จึงจะเข้าสู่การลงมติ ซึ่งต้องดูมติการลงคะแนนในรอบที่สอง ว่าไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งหรือไม่ ซึ่งเมื่อสักครู่นี้ เราคงพยายามกันทุกพรรคแล้ว แต่คะแนนออกมาอยู่ที่ 245 เสียง ไม่ถึงกึ่งหนึ่งที่ 246 เสียง จึงขอให้ประธานและเจ้าหน้าที่ให้การยืนยันว่า ตกลงแล้วครบหรือไม่อย่างไร
ทำให้ สส.พรรรคประชาชนหลายคน ได้ขอให้มีการตรวจสอบอีกครั้ง อาทิ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ลุกขึ้นหารือว่า ขอให้ประธานปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่อีกครั้ง ว่าเป็นความแน่นอนหรือไม่ ที่มีผู้ออกเสียงลงคะแนนทางไมโครโฟนเพิ่มหนึ่งท่าน
สุดท้าย นายฉลาดจึงสรุปว่า เมื่อตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า มีสมาชิกลงคะแนนเพิ่มเติมด้วยวาจาเห็นด้วย เมื่อใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนแล้ว เป็นอันว่าที่ประชุมไม่ครบองค์ประชุม และสั่งปิดประชุมเวลา 16.00 น.