“เท้ง” ยันจุดยืนเดิม บางส่วนของ ม.112 มีปัญหา
ต้องแก้ภายในกรอบคำวินิจฉัยศาล รธน. ตอบไม่ได้จะมีอุบัติทางการเมืองอีกหรือไม่
ยกเหตุแก้ รธน. - โหวต “อนุทิน”
เพราะต้องการวางบทบาทอำนาจหน้าที่ขององค์กรอิสระให้เป็นไปตามหลักสากล
วันที่
16 กันยายน 2568 ที่อาคารอนาคตใหม่ นายณัฐพงษ์
เรืองปัญญาวุฒิ หรือ เท้ง สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน
ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 กับ TIME ว่า เรื่องนี้ ยึดหลักตามเดิมมาโดยตลอด
ตามที่ตนเองได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อช่วงต้นๆ ที่มารับหน้าที่หัวหน้าพรรค
ทุกอย่างจะต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
อยู่ภายใต้กรอบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น
ซึ่งยังยืนยันคำเดิมว่าหากมองไปยังกฎหมายฉบับนี้ บางส่วนก็ยังมีปัญหา
แต่จะแก้อย่างไร ก็ต้องแก้ภายใต้กรอบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอยู่ดี
เมื่อถามว่าคำที่ออกมาใช้คำว่าพร้อมแก้ไขเมื่อมีอำนาจ
จะไม่ทำให้พรรคถูกอุบัติเหตุทางการเมืองหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า
ถ้าหมายถึงนิติสงคราม
ตนเองก็ไม่สามารถตอบได้เพราะเป็นปัจจัยที่เราไม่สามารถควบคุมได้จริงๆ
แต่ถ้าถามด้วยหลักการ คือจุดยืน เชื่อว่าสิ่งที่เราสะท้อนออกไปก็พบว่ากฎหมายฉบับนี้ยังมีปัญหาบางประการจริงๆ
ส่วนความเป็นไปได้ที่จะทำให้เกิดการรวมเสียงให้สามารถผลักดันได้ผ่านสภาหรือไม่
อาจจะอยู่ที่จุดยืนร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาลหรือจุดยืนของแต่ละพรรคการเมือง
ซึ่งเชื่อว่าการเมืองในอนาคตจะมีทางออก คือเสียงของพี่น้องประชาชนที่จะมอบให้กับการเลือกตั้งครั้งหน้า
เมื่อถามว่าท่าทีของพรรคประชาชนตอนนี้เหมือนกับเดินไปตามกรอบของศาลรัฐธรรมนูญมากเกินไป
จนทำให้ลดอำนาจรัฐสภาลง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า
เป็นสิ่งที่ทำไมเราต้องเรียกร้องให้เดินหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
และพรรคประชาชนเองตัดสินใจโหวตเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 หนึ่งในเงื่อนไขสำคัญ
นอกจากการยุบสภาภายในกรอบ 4 เดือนคือการเปิดประตูสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ซึ่งเราต้องการวางบทบาทอำนาจหน้าที่ขององค์กรอิสระให้เป็นไปตามหลักสากล
และยุติกระบวนการนิติสงคราม